ทฤษฎีร้าย บทที่ 2 : ผู้รับหน้าที่
ณ บ้านพักส่วนพระองค์รัชทายาทลำดับที่ 2
ร่างสูงเปลือยกายท่อนบน ส่วนล่างมีเพียงผ้าขนหนูผืนเดียวพันรอบเอว ขายาวเหยียดตรงบนโซฟาหรูตัวใหญ่ นัยน์ตาคมจ้องมองไปยังตู้อะแควเรียมขนาดใหญ่ที่ถูกสร้างไว้ภายในห้องนอน วาฬเพชฌฆาตตัวหนึ่งแหวกว่ายภายในตู้กระจกขนาดใหญ่ผ่านหน้าไป ความสวยงามที่ซ่อนความดุร้าย เลือดเย็นเอาไว้ทำ
พึ่บ!
แขนเรียวกอดจากด้านหลัง ใบหน้าสวยวางลงบนไหล่กว้างแล้วหันเอียงใบหน้ามองสบตาชายที่เธอสวมกอด
“ราฟา พรุ่งนี้ไปงานวันเกิดเมอร์แกนกับไดอาน่านะคะ” เสียงหวานเอ่ยอ้อนชายที่เธอสวมกอด
“พรุ่งนี้ต้องเข้าไปพบท่านปู่” ใบหน้าหล่อหันสบตาร่างบางที่สวมกอดแล้วยื่นหน้าหอมแก้มเนียนของร่างบาง
“น่าเสียดายจัง ทุกคนอยากเจอราฟามากเลยค่ะ ช่วงนี้เราไม่มีปาร์ตีเลย”
“เดี๋ยวเอาไว้ชวนพวกนั้นมาจัดปาร์ตีแล้วกันนะ”
“ราฟาน่ารักจังเลยค่ะ ตามใจไดอาน่าตลอด”
“ก็ไดอาน่าน่ารักนี่ครับ” เขาดึงแขนร่างบางเดินอ้อมโซฟามานั่งลงแล้วสวมกอดจากด้านหลัง หันหน้ามองอะแควเรียมไปพร้อมกับเขา ริมฝีปากแดงจูบลงบนไหล่เนียนและต้นคอขาว กลิ่นกายหอมปลุกเร้าความต้องการขึ้นมาอีกครั้ง
“แล้วเมื่อไรไดอาน่าจะได้พบทุกพระองค์คะ เราก็คบกันมานานแล้วนะ” คนถูกถามหยุดชะงัก
“....”
“เพื่อนของเราเริ่มแต่งงานกันไปหลายคู่แล้วด้วย หรือไดอาน่าไม่เหมาะสมกับราฟา” น้ำเสียงปนเศร้าของหญิงสาวที่เขาสวมกอดอยู่ไม่ได้ทำให้ผู้ฟังรู้สึกเศร้าตามเลยสักนิด เพราะเขาไม่ได้ต้องการแต่งงานมาตั้งแต่แรก
“ไดอาน่า...”
“คะราฟา” ร่างบางหันกลับมามองตามเสียงเรียก ใบหน้าเศร้าเมื่อครู่เริ่มเปลี่ยนไปเมื่อสบตากับบุคคลที่สวมกอดเธอ
วาฬเพชฌฆาตตัวใหญ่ว่ายไปผ่านไปมาในตู้อะแควเรียมบดบังแสงไฟส่องมา ทำให้ครู่หนึ่งที่เธอเห็นสายตาน่ากลัวจากบุคคลตรงหน้า มือหนาแตะข้างแก้มเนียนพร้อมกับโน้มใบหน้าเข้าใกล้
“จำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเราตกลงคบกันตอนไหน” สายตาว่างเปล่าจ้องมองใบหน้าของหญิงสาว
“แต่เรา...” เขาไม่เคยให้สถานะความสัมพันธ์ระหว่างเราสองคน แต่เธอก็ได้รับการดูแล และสิทธิพิเศษต่างๆก็เพราะเขา ถึงแม้ว่าไดอาน่าจะเป็นลูกสาวมหาเศรษฐีก็ตาม แต่หลายสิ่งที่เธอได้รับก็เพราะอำนาจของเจ้าชายราฟา
“อยากได้สถานะแบบนั้นจริง ๆ เหรอ” ริมฝีปากแดงยกยิ้ม นัยน์ตาคมจ้องลึกสะกดคนตัวเล็กให้เริ่มรู้สึกตัวว่าเธอกำลังร้องขอสิ่งที่เขาไม่ชอบ
“ไม่ค่ะ ขอแค่ราฟาอยู่กับไดอาน่าไปแบบนี้ตลอดก็พอ” พูดจบก็คนตัวเล็กก็สวมกอด ซุกหน้าซบลงบนอกกว้างหัวใจเต้นระรัว สายตาเมื่อกี้...ทำเธอหายใจไม่ทั่วท้อง
“เป็นอะไรครับตัวสั่นเชียว” มือหนายกขึ้นโอบกอดร่างบาง ถึงน้ำเสียงจะฟังดูเป็นห่วง แต่สายตาของเขากลับว่างเปล่า ไร้ความรู้สึก
“ไดอาน่าหนาวค่ะ อยากให้ราฟากอดอีก” เสียงหวานพูดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นสบตา
ริมฝีปากบางยื่นเข้าไปใกล้ก่อนที่เธอจะประกบจูบ มือเล็กเกาะไหล่กว้างไว้เป็นที่ยึดก่อนที่จะพาตัวเองขึ้นคร่อมคนตัวสูงไว้ มือหนาดึงเชือกชุดคลุมอาบน้ำออก ถึงเราทั้งคู่จะพึ่งจบธุระกันไปได้ไม่นาน แต่การถูกยั่วยวนจากเธอก็ทำให้เขาพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการได้อีกครั้งทันที
วันต่อมา
ณ ห้องประทับรับรองประจำราชวงศ์
“ประกาศแต่งตั้งนางสาวอลิสชา นุภาสากรณ์เป็นพระคู่หมั้นเจ้าชาย ราฟาเอล นูราซิล รัชทายาทลำดับที่สองตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป!” เสียงประกาศของผู้แทนส่วนพระองค์ท่านปู่ดังก้องไปทั่วห้องประทับรับรอง
ซึ่งภายในห้องมีบุคคลสำคัญ เชื้อพระวงศ์ พระญาติ และรัฐมนตรีต่างๆเข้ามาเป็นพยาน และรับทราบประกาศสำคัญในวันนี้ ทุกสายตาจับจ้องมองไปยังบุคคลที่ถูกเอ่ยชื่อ คนถูกมองยังนั่งนิ่งไม่แสดงออกทางสีหน้า แต่นัยน์ตาคมตวัดมองไปยังผู้เป็นปู่ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะ
“.....”
“ยังไม่ตายใช่มั้ยราฟา” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยถามหลานชายที่นั่งมองเขา
สายตาแข็งกร้าวเวลาไม่พอใจของราฟาไม่เคยเปลี่ยนไป ไม่ว่าจะเด็กหรือโตนิสัยเมื่อถูกขัดใจจะแสดงออกทางสายตา ไม่ว่าใครหน้าไหนก็โดนกันนับไม่ทวนแม้กระทั่งตัวเขาที่เป็นปู่
“พูดอีกทีได้ยินไม่ชัด” ความจริงเขาได้ยินมันเต็มสองหู และตอนนี้ก็ยังก้องวนเวียนไม่จางหายไป
“พูดให้หลานรักของฉันฟังอีกครั้งสิ” สิ้นเสียงคำสั่งของปู่ ผู้แทนของท่านก็อ่านประกาศอีกครั้ง
“ประกาศแต่งตั้งนางสาวอลิสชา นุภาสากรณ์เป็นพระคู่หมั้นเจ้าชาย ราฟาเอล นูราซิล รัชทายาทลำดับที่สองตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”
ครืด! สิ้นเสียงประกาศร่างสูงก็ลุกขึ้นยืน เดินตรงเข้าไปแย่งกระดาษจากมือผู้แทน แล้วกวาดสายตาอ่านอย่างละเอียด
ตัวอักษรถูกเขียนด้วยลายมือของปู่ และยังลงชื่อพร้อมตราประทับสัญลักษณ์ประจำตัว ข้างกันเป็นลายเซ็นไม่คุ้นตา แต่ดูแล้วจะเป็นชื่อภาษาไทย
แควก!
กระดาษในมือราฟาถูกฉีกออกต่อหน้าทุกคนในห้องจนเป็นชิ้นเล็ก ก่อนจะร่วงหล่นลงบนพื้นห้อง และเขาก็เดินกลับไปนั่งที่ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ประกาศเมื่อกี้ไม่เคยเกิดขึ้นนะครับ”
“ราฟาไม่ควรทำแบบนี้ต่อหน้าท่านปู่” แม่ของเขาพูดขึ้นหลังจากนั่งมองพฤติกรรมลูกชายอยู่นาน
“แล้วที่ตัดสินใจอะไรกัน ทำไมไม่ตัดสินใจต่อหน้าผมบ้างล่ะครับ” เขาละสายตาจากปู่แล้วมองไปที่แม่ตัวเอง
“ไม่ต้องเถียงกัน นาเดียฉันเลือกได้ถูกคนแล้วว่ามั้ย” ปู่ยิ้มอย่างพึงพอใจแล้วจ้องไปที่หลานชาย
“ค่ะคุณพ่อ” แม้แต่แม่ยังเห็นด้วยงั้นเหรอ
ปึง!
กองกระดาษแบบที่เขาพึ่งฉีกไปเมื่อครู่ถูกโยนลงกลางโต๊ะปึกใหญ่
“ฉันรู้ดีว่าหลานชายสุดที่รักเป็นคนยังไง เชิญแกฉีกให้เต็มที่เลยราฟาเพราะฉบับจริงฉันเก็บไว้แล้ว”
“ไม่ตลกนะครับ”
“หน้าฉันเหมือนคนตลกเหรอ คู่หมั้นของแกถูกวางตัวเอาไว้ตั้งเกิดแล้ว และจนถึงวันเกิดปีนี้ก็เหมาะสมกับการประกาศคู่หมั้นแล้วนี่ แต่มันมีเรื่องมหัศจรรย์นะที่แกกับคู่หมั้นเกิดวันเดียว เดือนเดียวกัน แค่คนละปี” หลังจากจบจากการประชุมภายในราชวงศ์ ช่วงเย็นจะเป็นงานฉลองวันเกิดของเจ้าชายราฟา และก็ยังเป็นวันเกิดของหลานสาวเพื่อนของเขาด้วยเช่นกัน
“....” เรื่องมหัศจรรย์เหรอ...เรื่องซวยน่ะสิไม่ว่า
“แกไม่ต้องมองฉันด้วยสายตาแบบนั้น ในเมื่อพี่ชายของแกไม่สามารถหมั้นได้ เพราะเรายังต้องรักษาธรรมเนียมว่าควีนจะต้องเป็นเชื้อชาติของเรา เพราะฉะนั้นหลานรักของปู่อย่างเจ้าชายราฟาก็ต้องหมั้นแทน”
“แล้วไหนบอกว่าวางตัวไว้ตั้งแต่เกิด ที่แท้ก็แค่หาตัวสำรอง” เขาไม่เคยมีอคติที่ต้องเป็นรองจากพี่ไปซะทุกเรื่อง แต่เขาไม่ชอบระบบบ้าบอของราชวงศ์นี้ก็เท่านั้นเอง
“ไม่ได้หาตัวสำรอง แต่ฉันตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกแล้ว” เสียงของคุณปู่เริ่มแข็งขึ้น เมื่อหลานชายของเขาต่อปากต่อคำ
“ถ้าผมไม่ตกลง”
“ฉันรู้ดีอีกนั่นแหละว่าแกต้องพูดคำนั้น”
“เสียเวลา” เสียงทุ้มต่ำพึมพำก่อนจะลุกขึ้นยืน
ครืด!
ผู้ดูแลส่วนตัวของเจ้าชายราฟาตรงเข้ามาจับเก้าอี้แล้วดึงออกห่างจากเขา ขายาวก้าวเดินออกจากที่นั่งประจำตำแหน่งโดยไม่สนใจสายตาที่มองมา
“ถอดยศเจ้าชายราฟา ลดลำดับรัชทายาทให้ลงเป็นสามัญชน ยึดทรัพย์สินในชื่อของเจ้าชายคืนราชวงศ์ รวมไปถึงธุรกิจทุกอย่างภายใต้ชื่อเจ้าชาย เพราะนั่นคือเงินของราชวงศ์ที่เจ้าชายนำไปลงทุน" เสียงของคุณปู่ดังก้องไปทั่วห้อง ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน
"...."
"หรือให้พูดเข้าใจง่ายขึ้น ก็ถอดเจ้าชายราฟาออกจากการเป็นเชื้อพระวงศ์แห่งจักรวรรดิ" คำพูดของปู่ถือว่าเด็ดขาด เพราะต่อให้พ่อของเขาจะเป็นจักรพรรดิ แต่เมื่ออยู่ภายในครอบครัวคุณปู่คือคนที่มีอำนาจมากที่สุด
"...เอาแบบนี้เหรอ หึ!" เสียงทุ้มต่ำพึมพำกับตัวเอง ริมฝีปากแดงคล้ำยกยิ้มมุมปาก คู่หมั้นเหรอ...