บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 8 ของฝากจากแดนไกล (5)

“พอดีเมื่อวานแอบอ่านบทละครยัยตรี เห็นว่าพระเอกทำแบบนี้ปุ้บ นางเอกเลยตกหลุมรักปั้บ เลยลองดูน่ะ แต่ไม่รู้ได้ผลเหมือนกันหรือเปล่า” คนพูดเขินจนลิ้นแทบพันกัน ศุภิสราถอนหายใจเฮือกอย่างไม่ได้ติดใจสงสัยอีก

“ว้า... สงสัยจะไม่ได้ผลค่ะ เพราะทรายไม่ใช่นางเอกสักหน่อย ว่าแต่ในบทยัยตรีเขาว่ายังไงต่อคะ เผื่อน่าสนใจจะได้ลองรับไว้พิจารณาอีกที”

“เอ... เดี๋ยวขอคิดก่อนนะ อ๋อ! จำได้ละ หลังจากนั้นพระเอกก็ทำแบบนี้” สิ้นเสียง ‘แบบนี้’ เจ้าตัวก็ยกนิ้วชี้จรดที่ริมฝีปากตัวเองก่อนหันไปแตะเบาๆ ที่ริมฝีปากอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยน พร้อมกับน้ำเสียงหวานนุ่มกระซิบแผ่วเบาข้างๆ หู ใกล้จนเกือบแตะแก้มใสที่หอมกรุ่นนั้น

“แล้วพบกันในฝันนะจ๊ะ คนดี” คราวนี้คนฟังถึงกับวูบ นึกอยากเขกหัวตัวเองที่ถามอย่างไม่คิด ก็ใครจะรู้ว่าในบทมันเป็นแบบนี้ ดีที่รู้ก่อน รับรองว่าละครเวทีเรื่องนี้ตรีรักษ์ไม่มีทางได้เธอเป็นนางเอกจำเป็นอีกเด็ดขาด พอลงจากรถได้หญิงสาวก็รีบก้มหน้าก้มตาเดินจ้ำอ้าวกลับเรือนเล็กทันที หากแล้วจู่ๆ ใครคนหนึ่งก็โผล่ออกมาขวางทางไว้เสียก่อน

“แหม... ยิ้มระรื่นมาเลยเชียวนะยะ” คนสนิทของคุณพราวพิไลก้าวอาดๆ เข้ามาอย่างหาเรื่อง “มีผู้ชายมาส่งไม่พอ ยังมาทำบัดสีในบ้านอีก ถ้าเรื่องนี้ถึงหูคุณผู้หญิงล่ะก็ จะเกิดอะไรขึ้นน้า...มีหวังแกถูกเฉดหัวออกจากบ้านนี้แน่นอน”

ดวงตาหวานคมตวัดฉับ พยายามสะกดกลั้นความไม่พอใจในสรรพนามที่อีกฝ่ายจิกเรียก พลางจะเดินหนีไม่อยากข้องแวะกับคนพาล แต่แล้วกลับถูกอีกฝ่ายกระชากข้อมือไว้

“ปล่อยเดี๋ยวนี้!” ศุภิสราบอกเสียงเรียบ ก่อนสะบัดแขนออกอย่างแรงทำเอาคนไม่ทันตั้งตัวหงายหลังล้มก้นจ้ำเบ้า แก้วร้องลั่นด้วยความเจ็บ พอลุกได้เจ้าตัวก็ทำท่าจะกระโจนเข้าเล่นงานทันที

“เก่งนักใช่ไหม เจอนี่หน่อยเป็นไร...”

“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” มือที่เงื้อง้าเตรียมฟาดใส่หญิงสาวค้างเติ่ง แก้วเบิกตาค้าง ใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม ค่อยๆ ลดมือลงทันควัน เมื่อเห็นประมุขของบ้านยืนจ้องมองมาอย่างเอาเรื่อง “นั่นเธอกำลังจะทำอะไรคุณทราย หา”

“เอ่อ... คือ... คุณทรายน่ะสิคะ แก้วแค่เข้ามาถามดีๆ ว่าใครมาส่ง จู่ๆ เธอก็เข้ามาผลักจนล้ม แก้วก็เลย...”

“ก็เลยจะตบหลานฉันคืนงั้นสิ”

“อุ๊ย... เปล่านะคะ” แม่สาวใช้ตัวดีรีบโบกไม้โบกมือเป็นพัลวัน สุดท้ายจึงลงทุนลงไปนั่งไหว้ปลกๆ “คุณผู้ชายขา...อย่าไล่แก้วออกเลยนะคะ แก้วสำนึกแล้ว จะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วนะคะ”

คุณไกรภพหันไปมองหน้าหญิงสาวอีกฝ่ายที่เอาแต่เงียบเป็นเชิงปรึกษา ศุภิสราปรายตามองคู่กรณีที่นั่งตัวสั่น ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว แต่ดวงตาแอบจิกเธออย่างอาฆาต ก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังเสแสร้งเพื่อเอาตัวรอด แม้จะขุ่นเคืองใจไม่น้อย แต่ด้วยความที่ไม่อยากให้เกิดเรื่องราวบานปลายจนทำให้คุณไกรภพต้องลำบากใจ หญิงสาวจึงตัดสินใจไม่เอาเรื่อง

“ทรายไม่เป็นไรค่ะคุณลุง”

“แน่นะลูก” ประมุขของบ้านถามย้ำ เมื่อเห็นแววตาเด็ดเดี่ยวของอีกฝ่ายก็อ่อนใจ

“เอาล่ะ ในเมื่อคุณทรายไม่เอาเรื่อง คราวนี้ฉันจะไม่ถือสา แต่เธอต้องขอโทษหลานฉันเดี๋ยวนี้” แม้จะเจ็บใจที่ทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้ แถมคนที่ถือหางก็ไม่อยู่ในเหตุการณ์ แก้วจึงต้องยอมเอ่ยปากขอโทษ อย่างน้อยเสียศักดิ์ศรีก็ยังดีกว่าตกงาน

“แล้วอย่าให้มีเหตุการณ์อย่างวันนี้อีก ไม่งั้นคราวหน้าเธอจะไม่โชคดีแบบนี้ เข้าใจไหม” แก้วรับคำ พลางส่งสายตาอาฆาตให้คู่กรณี

“จะไปไหนก็ไป ไป๊” คุณไกรภพโบกมือไล่กลายๆ พอคล้อยหลังแม่สาวใช้ตัวแสบ ศุภิสราจึงยกมือไหว้คนสูงวัยกว่า

“ขอบคุณคุณลุงมากนะคะ ที่มาช่วยไว้ทันไม่งั้น ทรายคงแย่”

“ไม่เป็นไร ถ้าถูกแกล้งอีกก็มาบอกลุงแล้วกัน อ้อ ถ้าหนูไม่รีบ ขึ้นไปคุยกับลุงบนตึกสักครู่ได้ไหม”

เวลาต่อมา คุณไกรภพนำศุภิสรามาที่ห้องทำงาน เจ้าของห้องทรุดตัวนั่งบนเก้าอี้ประจำกาย ในขณะที่ร่างโปร่งนั่งพับเพียบลงกับพื้นเบื้องหน้าอย่างเจียมตัว

“เมื่อกี้นายโทมาส่งล่ะสิ”

“คุณลุงทราบ?”

“ก็เขาโทรมาขออนุญาตน่ะสิ สร้อยนั่นสวยดีนะ”

จู่ๆ คุณไกรภพก็เอ่ยชมขึ้นมา ทำเอาเจ้าของสร้อยสะดุ้งรีบกำข้อมือตัวเองหมับอย่างมีพิรุธ พอนึกขึ้นได้จึงยิ้มแหยๆ เริ่มวางหน้าไม่ถูก “นายโทเข้าใจเลือกของขวัญให้จริงๆ อ้อ... พูดถึงของขวัญ ลุงก็มีเหมือนกันนะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel