บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 10 การกลับมาของเพชร (2)

“จริงเหรอคะป้า!”

“ก็จริงสิคะ ทางโรงพยาบาลเพิ่งโทรมาบอกเมื่อกี้นี้เอง อ้าว... นั่นไงคะ ลงมากันพอดี” คำนั้นทำให้ศุภิสราหันขวับ ตัวชาวาบ เมื่อเห็นภรรยาคุณไกรภพและคุณท่านของเธอเดินลงมาพร้อมกับชายหนุ่มร่างสูงสง่าผู้นั้น เธอก็รู้สึกเหมือนลมหายใจติดขัดขึ้นมาเอาดื้อๆ จากระยะที่ยืนอยู่ทำให้มองเห็นหน้าเขาผู้นั้นเพียงลางๆ กอรปกับเงาแดดที่ส่องจ้าทำให้ตามัวไปชั่วขณะ จนกระทั่งหูแว่วได้ยินเสียงคุณพรรณรายที่บังเอิญหันมาเห็นคนสนิทของเธอเข้า

“อ้าว แม่อบมายืนทำอะไรตรงนั้นล่ะ” คำนั้นทำให้คนอื่นๆ พร้อมใจกันหันมามองเป็นตาเดียว

“ก็มาคุยกับคุณสะ... อ้าว! หายไปไหนแล้ว” แม่อบยืนคว้าง เหลียวซ้ายแลขวาหาร่างโปร่งระหงของคนที่เพิ่งคุยด้วย ซึ่งจู่ๆ ก็หายตัววับราวกับนินจา

“คุยกับใครจ๊ะ ไม่เห็นมีนี่นา” คุณพรรณรายชะเง้อมองอย่างสงสัย

“ก็เอ่อ... เอ... เมื่อกี้ยังอยู่นี่นา หายไปไหนแล้วนะ” แม่อบบ่นงึมงำกับตัวเองอย่างงุนงง

“โอ้ย... คุยอะไรกันอยู่ได้คะคุณพี่ หลานยืนคอยนานแล้ว รีบไปเถอะค่ะ” คุณพราวพิไลหันมาเร่งยิกๆ มือยังคงเกาะลูกชายหัวแก้วหัวแหวนแจด้วยความรักใคร่หวงแหนยิ่ง

“ตาเพชรยังไงแม่ฝากดูแลคุณป้าด้วยแล้วกันนะลูก” คนพูดแทบไม่ปริปากเอ่ยถึงคนป่วยสักคำ

“คุณแม่ไม่ไปเยี่ยมคุณพ่อด้วยกันจริงๆ เหรอครับ”

“นั่นสิแม่พราว”

“ไปด้วยกันเถอะนะครับ คุณพ่อคงอยากพบคุณแม่”

“โอ้ย... แม่มันไม่ใช่คนสลักสำคัญอะไรนี่ลูก ไปหรือไม่ไป ก็มีค่าเท่ากัน” หางเสียงสะบัดเจือความน้อยใจ “ถึงยังไงคุณพ่อเขาก็คงไม่สนใจเท่ากับนังศศิ...”

“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจเธอ” คุณพรรณรายรีบตัดบทไม่อยากให้หลานชายต้องรกหูตั้งแต่วันแรกที่มาถึงบ้าน

“งั้นเราก็ไปกันเถอะนะ ตาเพชร” ร่างสูงใหญ่รีบปราดเข้ามาช่วยเข็นรถวีลแชร์ให้ผู้เป็นป้า ทันใดนั้นเองหางตาคมก็เผอิญเหลือบไปเห็นอะไรแวบๆ ที่มุมตึก จึงหันขวับไปมองทันที อาการนั้นทำให้คุณพรรณรายแปลกใจ

“อะไรลูก ”

“อ้อ... เอ่อ... เปล่าครับ ผมคงตาฝาดไป ” ชายหนุ่มเอ่ย ตาคมกริบตวัดมองแวบหนึ่ง ก่อนขึ้นรถไป โดยไม่รู้ว่ามีใครคนหนึ่งแอบมองเขาจนลับตา ร่างโปร่งบางค่อยๆ ขยับออกมาจากมุมที่ซ่อนตัว มองตามท้ายรถที่เพิ่งลับตาไป

...เธอไม่ได้ตาฝาด เป็นเขาจริงๆ เขากลับมาแล้วจริงๆ ถึงรูปลักษณ์จะเปลี่ยนไปจากวันวานจนแทบจำไม่ได้ แต่คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเมื่อกี้ก็คือ... คุณเพชร... จริงๆ

วันเวลาผ่านไป... ทุกอย่างย่อมแปรเปลี่ยนไป แต่วันเวลาไม่เคยทำให้เธอลืมเลือนคำสุดท้ายที่เขาเคยฝากไว้ไปจากหัวใจ

‘ทุกอย่างในบ้านนี้จะเป็นของฉัน และเมื่อไหร่ก็ตามที่ฉันกลับมา คนที่ต้องเป็นฝ่ายไปก็คือก้อนกรวดไร้ค่าอย่างเธอ จำเอาไว้นะ... ฉันเกลียดเธอ... ไม่อยากเห็นหน้าเธออีกตลอดไป ไปให้พ้นๆ หน้าเลยได้ยิ่งดี!’

“ฉันหวังว่าวันเวลาคงทำให้คุณเปลี่ยนไปบ้าง อย่างน้อยก็ขอให้เกลียดฉันน้อยลงกว่าวันนั้นสักนิดก็คงดี ”

ร่างของบุรุษมากวัยที่ทอดยาวบนเตียงสีขาวสะอาดดูผ่ายผอมลงจนผิดหูผิดตาไปมาก ดวงหน้าคร้ามล้อมกรอบด้วยเส้นผมสีดำแซมเทาเป็นหย่อมนั่น ตอนนี้เผือดซีดเซียวอ่อนแรงจนแทบจะกลืนไปกับสีของหมอนที่หนุนอยู่ ทำให้คนเฝ้ามองสะดุดลมหายใจตัวเองอยู่หลายต่อหลายครั้ง แม้ฝืนเก็บอาการของตัวเองอย่างเต็มที่แล้วตาม

ในขณะที่เขาเติบใหญ่ขึ้น หากร่างกายของบุคคลเบื้องหน้ากลับยิ่งมีแต่ทรุดโทรมลงทุกวัน ไม่สิ! ควรจะบอกว่าทุกวินาทีเสียมากกว่า ชายหนุ่มปราดเข้ามายืนข้างเตียงคนไข้ช้าๆ นัยน์ตาดำใหญ่ที่ทั้งคมกริบ และเคร่งขรึมราวคนที่เก็บทุกอย่างเอาไว้ในใจตัวเองอยู่เป็นนิจยังไม่ละจากดวงหน้าซีดเซียวนั้น

พ่อ... คำนั้นสะท้อนในอกจนเจ็บแปลบ ในยามที่ต้องอยู่ลำพังอย่างว้าเหว่ในต่างแดน เด็กชายตัวสูงมักพร่ำเพรียกเรียกหาคำคำนี้อย่างโหยหา บ่อยครั้งไปที่ในยามหลับยังเคยละเมอไขว่คว้าหาอ้อมกอดอันอบอุ่น แต่สิ่งที่ได้รับตอบกลับมาคือ... ความว่างเปล่า ที่นานวันเข้าคือ... ความด้านชาที่เกาะกินหัวใจ

‘เพชรเป็นลูกผู้ชายนะลูก’ นานๆ ครั้งที่มีโทรศัพท์จากพ่อ มักเริ่มด้วยประโยคนี้ และลงท้ายคือ... ‘เป็นลูกผู้ชายต้องเข้มแข็ง พ่อตั้งชื่อลูกว่าเพชร เพื่ออยากให้ลูกเข้มแข็งและคอยดูแลปกป้องคนที่ลูกรักได้ แต่อย่าลืมว่าคนเข้มแข็งจะต้องไม่รังแกคนที่อ่อนแอกว่า...’

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel