ตอนที่ 3
ใจจริงฉันก็กลัวเขาอยู่หรอก ใครบ้างล่ะจะไม่กลัวตายจริงไหม? แต่พอได้ยินเขาพูดแบบนี้ฉันก็อดไม่ได้
ผู้ชายหน้าม่อเต๊าะไปเรื่อยเป็นคนจำพวกที่ฉันขยะแขยงและรังเกียจที่สุด
สักวันเถอะจะเป็นโรคตาย!
“ปากดีแบบนี้มันน่าจูบให้เลือดกบปาก”
“อะแฮ่ม! ปล่อยเด็กมันไป”
พี่วายุกระแอมไอเสียงดังพร้อมกับพูดขึ้นมาลอยๆ โดยมีสายตาของผู้เป็นนายปรายตามองเล็กน้อย ก่อนจะกลับมาจดจ้องอยู่ที่ฉันตามเดิม
“ฉันคิดว่าอาชีพเด็กส่งยามันคงทำให้เธอชดใช้เงินพวกนั้นไม่หมดหรอก แม้ว่าจะได้เงินดีกว่าอาชีพอย่างอื่นก็เถอะ แต่ฉันมีงานอย่างหนึ่งมาเสนอให้เธอ สนใจมั้ยล่ะ เงินดีมากนะจะบอกให้” หลังจากที่พูดยื่นข้อเสนอยิ่งกว่าเซลล์ขายรถจบลง ดวงตาคมคู่นั้นก็จดจ้องมาที่ฉันเพื่อรอฟังคำตอบ
“ไม่สนใจ” ฉันตอบกลับไปแทบในทันทีโดยไม่เสียเวลาคิดแม้แต่เสี้ยววินาที
สัญชาตญาณของฉันมันกำลังส่งสัญญาณเตือนภัยว่าอย่าเข้าใกล้ผู้ชายคนนี้เป็นอันขาด!
อะไรที่เขาบอกว่าดี จริงๆ แล้วมันคงไม่ดีต่อตัวฉันนักหรอก
“ขายตัวมั้ยล่ะ เด็กๆ อย่างเธอคงได้ค่าตัวเยอะ”
แต่เขาก็ดูเหมือนจะไม่ฟัง มือบางของฉันกำหมัดเข้าหากันแน่น ประโยคที่หลุดออกมาจากปากเขากำลังทำให้ฉันเลือดขึ้นหน้า
“ก็บอกแล้วไงว่าไม่สน” ฉันขยับริมฝีปากเพื่อเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แม้ว่าอารมณ์ข้างในกำลังคุกรุ่นอยู่ก็ตาม
มีอย่างที่ไหนอยู่ๆ ก็มาเสนอให้คนอื่นขายตัว ถ้าคิดว่ามันดีนักดีหนาทำไมไม่ไปขายซะเองล่ะวะ
บางทีก็อยากพูดตอกกลับให้หน้าหงาย แต่ทว่าสายตาของพี่วายุที่มองมาอย่างปรามๆ ทำให้ฉันพยายามหุบปากของตัวเองเอาไว้
“เพื่อนฉันเป็นเจ้าของธุรกิจนี้เอง เธอไม่ต้องกลัวหรอกมันรักเด็ก”
เพื่อนที่เขากำลังพูดถึงก็คงไม่พ้นผู้ชายที่ชื่อไอ่ ฉันอยู่ในวงการนี้มานานก็พอรู้บ้างว่าใครเป็นใครและทำธุรกิจด้านมืดเกี่ยวกับอะไรบ้าง แต่รู้แค่ชื่อเสียงเรียงนามเสียๆ ที่ดังกระฉ่อนนะ ฉันยังไม่เคยเห็นหน้าค่าตาพวกเขาสักนิด อีกคนที่สำคัญเหมือนกันก็คือผู้ชายที่ชื่อกัญชา คนนี้น่ะทำธุรกิจด้านมืดเกี่ยวกับคาสิโน เห็นว่าเป็นเดอะแก๊งกับตาลุงนี่ด้วย
ซึ่งก็เหมาะสมแล้วล่ะ คนเหี้ยก็ต้องอยู่กับพวกเหี้ยๆ น่ะถูกแล้ว ไม่อย่างนั้นลูกน้องคงไม่พากันเรียกพวกเขาสามคนนี้ว่าแก๊ง ‘มหาโฉด’ หรอก
แต่ก็เรียกได้แค่ลับหลังเท่านั้น ไม่มีใครกล้าเรียกต่อหน้าสักคน เพราะกลัวโดนลูกตะกั่วเจาะหัว
“ลักเด็กไปขายน่ะสิ” ริมฝีปากบางขยับพูดพึมพำกับตัวเอง ขณะที่ดวงตากลมโตก็กำลังมองเขาอย่างไม่ชอบใจ
ขอออกตัวไว้ก่อนเลย ว่าถึงฉันจะจนตรอกมากแค่ไหนแต่สิ่งที่ฉันจะไม่มีทางทำมันก็คือการ ‘ขายตัว’ แม้ว่าอาชีพเด็กส่งยาจะเหมือนกับการฆ่าคนทางอ้อม ทว่าฉันก็ยอม
ฉันสามารถทำร้ายคนอื่นได้ทุกคน ยกเว้นทำร้ายตัวเอง...
จะคิดว่าฉันเห็นแก่ตัวก็ได้ เพราะความคิดนั้นมันถูกต้องแล้ว อันนี้ไม่เถียง
“สรุปจะเอายังไง ถ้าเธอไม่มีปัญญาชดใช้ก็สมควรตายซะดีกว่า” ร่างสูงยกแขนขึ้นกอดอก แววตาขี้เล่นและเจ้าเล่ห์ในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นดุดันภายในเวลาชั่วพริบตาเดียว รังสีของคนมีอำนาจแผ่ซ่านรอบตัวเขา
ท่าทางของเขาตอนนี้ทำให้หัวใจของฉันสั่นสะท้าน เพราะความกลัว
กลัวว่าตัวเองจะต้องมาตายทั้งที่อายุยังน้อยแบบนี้ อุตส่าห์เกิดมาเป็นคน ฉันขอใช้ชีวิตให้คุ้มก่อนไม่ได้เชียวเหรอ?
“ฉันจะเป็นเด็กส่งยาต่อไป แล้วก็จะหางานอื่นทำไปด้วย มันคง...”
“พับความคิดของเธอเก็บไปซะ ฉันคงไม่มีทางปล่อยให้เธอเป็นเด็กส่งยาอีกหรอก คนที่เคยทำผิดพลาด ยังไงซะครั้งหน้ามันก็ต้องทำอีก”
ร่างสูงพูดแทรกขึ้นมาก่อนที่ฉันจะทันได้พูดจบ เล่นดักช่องทางทำมาหากินขนาดนี้มันคงไม่ใช่การยื่นข้อเสนอหรอกมั้ง นี่มันคือการบังคับข่มขู่กันชัดๆ เลย
“ถ้าคุณยังยืนยันที่จะให้ฉันขายตัว มันก็ไม่ต่างอะไรกับตายทั้งเป็น งั้นฆ่าฉันเลยสิ จะได้ตายจริงๆ ไปเลย”
คำพูดทั้งหมดทั้งมวลของฉันมันไม่ใช่คำพูดที่เปล่งออกมาเพื่อประชดประชัน ทว่ามันคือสิ่งที่ออกมาจากใจและความรู้สึกของฉันจริงๆ
ถ้าการใช้ชีวิตอยู่บนโลกที่โหดร้ายใบนี้มันยากนัก งั้นก็อย่าได้อยู่มันเลย ตายไปจะได้จบ นรกมันไม่น่ากลัวอย่างที่คิด ลงไปก็คงเจอแต่คนรู้จัก
ถ้าไม่เชื่อก็ลองลงไปกันดูสิ...
“ง่ายไปหรือเปล่า ถ้าเธอตายไปแล้วใครจะจ่ายค่ายาล่ะหืม?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูง บอกตรงๆ ว่าที่เขาพูดมันก็ถูก
ไอ้เราก็นึกว่าเขาจะทำตัวเป็นแค่เฒ่าหัวงูได้อย่างเดียว ที่แท้ก็ฉลาดเหมือนกันนะเนี่ย
“ถามงี้จะให้ตอบไงอ่ะ ก็ไม่รู้เหมือนกันนี่หว่า” นิ้วชี้และนิ้วโป้งของฉันยกขึ้นนวดขมับตัวเองอย่างคิดไม่ตก
“เอางี้...เธอมาทำงานกับฉันมั้ยล่ะ”
นิ้วมือที่กำลังนวดคลึงขมับหยุดชะงัก ฉันลดมือของตัวเองลงวางไว้ที่หน้าตัก ขณะที่สายตาก็กำลังมองเขาอย่างไม่ไว้ใจ
ถ้าฉันตกลงทำงานกับเขา นั่นก็หมายความว่าฉันกำลังเดินเข้ากรงเสือ แล้วแบบนี้ใครมันจะโง่เอื้อมมือไปรับข้อเสนอนี้ไว้ล่ะ
เผลอเมื่อไหร่ฉันไม่โดนขย้ำตายเลยเหรอ ตาลุงนี่ยิ่งบ้ากามอยู่ด้วย
“ขายตัวว่าหนักแล้ว อันนี้ยิ่งหนักเลย” ฉันพูดออกไปด้วยเสียงไม่เบานัก เพราะตั้งใจจะให้เขาได้รับรู้ถึงความคิดของฉันอยู่แล้ว
ริมฝีปากหนาหยักลึกกดยิ้มพร้อมด้วยแววตาที่แพรวพราว ความเจ้าเล่ห์ของเขาฉายชัดออกมาให้ฉันได้เห็นเต็มสองตา
จากที่ชีวิตนี้จนตรอกอยู่แล้ว พอเจอเรื่องนี้เข้าไปก็ต้องบอกเลยว่าแทบหาทางสว่างไม่เจอ
หนทางทุกอย่างมันมืดมิด หนำซ้ำยังดูเหมือนกำลังเดินวนอยู่ในเขาวงกตซึ่งยากที่จะหาทางออก
