บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 - ปรับตัวเข้าหา 2

“ว่าไงสุดหล่อ วันนี้จะกินอะไรดีจ้ะ”

เสียงคุณป้าเจ้าของร้านตะโกนดังมาแต่ไกลจนแสบแก้วหู ดูท่าทางเหมือนพี่โซ่จะเป็นลูกค้าประจำร้านนี้ด้วย

เขาขับรถพาฉันมากินร้านอาหารตามสั่งที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโด มันเป็นเพิงเล็กๆ เก่าๆ ที่มีคุณป้ายืนผัดอาหารส่งกลิ่นฉุนอยู่หน้าร้าน

ฉันวาดสายตามองไปรอบๆ อย่างไม่คุ้นเคย บรรยากาศโดยรวมคือไม่ได้เลย รู้สึกร้อนอบอ้าวจนแสบผิวไปหมด

“ผมเอาเหมือนเดิมนะ”

ฉันเกาะแขนพี่โซ่ไว้แน่นไม่ยอมปล่อย พอเดินเข้าไป ผู้คนที่อยู่ในร้านต่างมองมาทางฉันเหมือนเป็นตัวประหลาด

วันนี้ก็แต่งตัวธรรมดานะ ไม่ได้ทำตัวเด่นอะไรเลย ใส่เสื้อยืดแบรนด์Celine กับกางเกงยีนขาสั้นCalvin klein หนีบรองเท้าแตะแบรนด์Hermes ถือว่าแต่งตัวเบากว่าทุกๆ วัน เบาสำหรับฉัน…แต่กับคนอื่นก็ไม่รู้เหมือนกัน

“วันนี้พาใครมาด้วยล่ะ หน้าตาสะสวยเชียวนะ เมียเอ็งเหรอ?”

“…..” ฉันยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ให้คุณป้าจนแก้มปริ วันนี้รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมาในพริบตา แค่เอาถูกันเรียกเมียได้ไหมนะ!

แต่พี่โซ่กลับไม่ได้พูดอะไร เขาจับมือฉันให้เดินเข้าไปนั่งโต๊ะที่อยู่ด้านในสุด

“จะกินอะไรก็สั่ง”

“เอาหอยเชลล์ผัดเนยกระเทียมค่ะ” ฉันสั่งเมนูสุดโปรดที่ชอบกินอยู่เป็นประจำ

“เมนูแบบนั้นมันมีที่ไหนกัน กินแบบธรรมดาได้ไหม” เขาพูดเสียงดุ ก่อนจะยื่นใบเมนูอาหารที่มีอยู่ในร้าน

“อืม…งั้นลินเอาข้าวผัดหมูก็ได้ค่ะ”

“วันนี้เพิ่มข้าวผัดหมูให้ผมด้วยนะ”

“ได้เลยพ่อหนุ่ม แต่วันนี้คิวเยอะหน่อยนะ ต้องรอก่อน”

“ลินรอได้ไหม?” หลังจากที่คุณป้าแม่ค้าตอบมาแบบนั้น เขาจึงหันกลับมาถามฉันอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ

“รอได้ค่ะ ว่าแต่พี่ชอบมากินร้านนี้เหรอ?”

“ถ้ามาแถวนี้ก็แวะประจำเพราะมันถูกและอร่อย”

“…..” ใบหน้าน้อยๆ พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของฉันเลย

“ลองกินร้านนี้ดูก่อน ถ้าลินไม่โอเคเดี๋ยวพี่พาไปกินที่ร้านอาหาร”

“ถ้าคนอื่นกินได้ ลินก็ต้องกินได้” ฉันบอกพี่โซ่ด้วยท่าทางแน่วแน่ เรื่องสิวๆ แค่นี้ทำได้อยู่แล้ว

“…..” เขายกมือขึ้นลูบหัวฉันเบาๆ พร้อมยิ้มให้

“กินข้าวเสร็จแล้วจะไปไหนกันดีคะ ไปช็อปปิ้งกันไหมหรือจะไปโยนโบว์ลิ่ง”

“แวะซุปเปอร์มาร์เก็ตดีกว่า ในห้องลินไม่มีของสดไว้ทำอาหารเลย”

“ก็ลินทำไม่เป็น เลยไม่รู้ว่าจะซื้อมาทำไม โทรสั่งให้ร้านเอามาส่งง่ายกว่าอีก ไม่ต้องเสียเวลาทำเองด้วย” ฉันพูดในสิ่งที่คิดมาโดยตลอด ฉันมีแม่บ้านคอยทำให้ทุกอย่าง ไม่เห็นจะต้องมาลำบากทำอะไรพวกนี้เลย

“ทำอาหารไม่ยากหรอก เดี๋ยวพี่สอนเอง”

“แต่ทำอาหารแล้วมันเหม็นมือ เหม็นหัวด้วยอ่ะ ลินไม่ชอบ”

“ลินเปลี่ยนใจแล้ว งั้นวันนี้ทำอาหารกัน” ฉันรีบเปลี่ยนความคิดเมื่อเห็นสีหน้าเรียบนิ่งของพี่โซ่ ตอนนี้อาจจะยังไม่ชิน แต่อีกไม่นานคงปรับตัวเข้าหากันได้

“…..”

“ข้าวผัดหมูกับกะเพราปลาหมึกมาแล้วจ้า ทานให้อร่อยนะสุดหล่อ”

อาหารหน้าตาน่าทานถูกนำมาเสิร์ฟให้เราถึงโต๊ะ มันดูน่าอร่อยกว่าที่คิดไว้อีก

“กลิ่นหอมมาก หน้าตาน่ากินด้วย”

“ลองกินดู”

“ลินอยากลองชิมของพี่ได้ไหม” ไม่พูดเปล่าแต่ฉันยังขโมยปลาหมึกชิ้นโตจากจานของเขามาไว้ในจานของตัวเอง

“ของพี่มันเผ็ดนะ กินได้เหรอ?”

“ลินไม่ใช่เด็กสามขวบแล้วนะ ทำไมชอบทำเหมือนลินเป็นเด็กอยู่เรื่อยเลย”

“ดูตัวเองสิ ทำอะไรไม่เป็นสักอย่าง”

“ก็เดี๋ยวให้พี่สอนไง”

“เอาไข่ดาวด้วยไหม เดี๋ยวพี่แบ่งให้”

“ไม่เอาค่ะ พี่กินเลย”

“ถ้าอร่อยก็กินเยอะๆ เดี๋ยวมื้อนี้พี่เป็นเจ้ามือให้เอง” สองมือเลื่อนมาประคองใบหน้าฉันไว้แบบหลวมในขณะที่กำลังเคี้ยวข้าวจนแก้มตุ่ย

“ถ้าเป็นเงินพี่ ลินจะเลียจานไม่ให้เหลือข้าวสักเม็ดเลย”

คนตัวโตถึงกลับหลุดขำออกมายกใหญ่เมื่อเห็นท่าทางมูมมามของฉัน

“พี่คงพาเธอไปกินที่ร้านอาหารหรูทุกวันไม่ได้”

“ลินว่ากินแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ถ้ารู้ว่ามันจะอร่อยขนาดนี้ ก็คงกินร้านข้างทางไปนานแล้ว ไม่เปลืองเงินด้วย” ฉันรีบพูดแทรกขึ้นเมื่อเห็นว่าเขากำลังจะดึงเข้าดราม่า

ครืด~ โทรศัพท์ของฉันส่งเสียงร้องดังเมื่อมีสายเรียกเข้า แล้วคนโทรมาก็ไม่ใช่ใครแต่เป็นยัยแอนนี่เพื่อนรัก

“มีอะไรย่ะ?”

(บ่ายสามวันนี้ไปไอคอนสยามกันไหม ฉันอยากได้กระเป๋าใหม่ ขากลับว่าจะแวะทำเล็บทำผมด้วยสักหน่อย)

“วันนี้ไม่ว่าง วันหลังได้ไหม” ฉันกระซิบกระซาบตอบกลับ ก่อนจะปรายสายตามองไปยังพี่โซ่ที่นั่งกินข้าวอยู่

(อย่ามาอำค่ะชะนี! คนไร้สาระอย่างแกเนี่ยนะจะไม่ว่าง)

“ก็ไม่ว่างจริงๆ ตอนนี้อยู่กับผู้ชาย”

(อุ๊ยตาย! อยู่กับผู้ชายแล้วลืมเพื่อเหรอ เดี๋ยวฉันจะฟ้องยัยฟ้าใสให้มาบ่นแกสักสามวัน)

“สำหรับฉันยังไงผู้ชายก็ต้องมาก่อนเสมออยู่แล้ว”

ติ๊ด! ฉันรีบกดวางสายเพราะขี้เกียจต่อล้อต่อเถียง แล้วอีกอย่างก็ยังไม่อยากตอบคำถามของเพื่อนในตอนนี้ด้วย

“อยากไปเที่ยวกับเพื่อนไหม ถ้าอยากไปก็ไปได้เลยนะ” พี่โซ่พูดขึ้นหลังจากที่ฉันวางสายไปแล้ว

“ไปด้วยกันสิ ลินจะได้แนะนำพี่ให้เพื่อนรู้จักด้วยไง”

“เอาไว้คราวหน้าและกัน”

“แค่ไปช็อปปิ้งทำผมทำเล็บ ค่อยไปวันหลังก็ได้ ส่วนวันนี้ลินจะอยู่กับพี่”

-อู่ซ่อมรถ-

“สวัสดีค่ะคุณลุง” ฉันยกมือไหวคุณพ่อของพี่โซ่ด้วยท่าทางอ่อนน้อม หรือจะเรียกจากคุณลุงเป็นคุณพ่อดีนะ

“สวัสดีคุณหนูลิน ทำไมวันนี้ถึงมาพร้อมไอ้โซ่ได้ล่ะ”

“…..” ฉันหันไปยิ้มให้ แต่เหมือนอย่างเคย พี่โซ่ยังไม่ยอมบอกว่าเราเป็นอะไรกัน

“ผมซื้อบะหมี่ร้านโปรดของพ่อมาฝากด้วยนะ จะกินเลยไหม”

“ขอบใจแกมาก แต่พ่อยังไม่หิว”

“แล้วงานลูกค้าไปถึงไหน เดี๋ยวผมช่วย”

“วันนี้งานไม่ค่อยยุ่งเท่าไหร่ แกอยู่กับคุณหนูลินเถอะ พ่อขอตัวไปดูรถให้ลูกค้าก่อน ถ้าเสร็จแล้วจะรีบมาคุยด้วย”

“…..”

“พี่โซ่!” ฉันหันขวับรีบไปมองตามเสียงเรียกออดอ้อน คนที่มาใหม่ไม่ใช่ใครแต่เป็นยัยชบานี่เอง

“…..”

“เมื่อคืนพี่หายไปไหนมา ชบาอุตส่าห์มาหาว่าจะชวนไปเดินงานวัดสักหน่อย”

“มีธุระอะไรกับพี่หรือเปล่า”

“ซื้อขนมครกมาฝาก พี่กินเลยสิ”

ฉันรีบแย่งของที่ชบายื่นให้มาถือไว้เอง เรื่องอะไรจะปล่อยให้ยัยนี่มาแทะโลมแฟนฉัน!

“ขอบคุณมากนะชบา แต่พี่โซ่เขากินฉันอิ่มแล้ว เราสองคนกินกันจนจุก คงไม่เหลือท้องกินขนมของเธอหรอก” สิ้นประโยคนั้นฉันจึงปิดปากหัวเราะเบาๆ ก่อนจะกอดแขนพี่โซ่ไว้แน่นไม่ยอมปล่อย

“…..” แน่นอนว่าชบาถึงกลับมองหน้าเราสองคนอย่างเลิ่กลั่ก

“ฉันหมายถึงกินข้าวอิ่มแล้ว ส่วนขนมครกของเธอเชิญเอากลับไปกินเองเถอะ”

“พี่กินข้าวกับคุณหนูลินมาแล้วเหรอ?” คล้ายกับไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันบอก ชบาจึงหันไปถามพี่โซ่อีกครั้ง

“อืม พี่กินข้าวกับลินมาแล้ว”

“ตรงนี้ร้อนอบอ้าวจังเลยค่ะ ลินรู้สึกเหมือนจะเป็นลม”

“เข้าไปนั่งรอในออฟฟิศก่อนไหม เดี๋ยวพี่เปิดแอร์ให้”

“ก็ดีเหมือนกัน แต่พี่โซ่ต้องอยู่กับลินนะ”

“…..”

“เมื่อคืนพี่ไปนอนที่ห้องลินแล้ว งั้นวันนี้ลินขอนอนค้างที่บ้านพี่บ้างได้ไหม”

ฉันตั้งใจพูดแสดงความเป็นเจ้าของ ยัยชบาจะได้เลิกมาเกาะแกะกับผู้ชายของฉันสักที

“ที่คะ…คุณหนูลินพูดเป็นเรื่องจริงเหรอพี่โซ่?”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel