บทที่ 1 - ผู้ชายของปาลิน 3
-ห้างสรรพสินค้า-
“ดูเรื่องอะไรดีคะ?”
ฉันไล่สายตามองไปยังโปรแกรมหนังที่แสดงอยู่บนหน้าจอ มีทั้งหนังเข้าใหม่และหนังที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในตอนนี้
ในที่สุดก็ตื้อให้พี่โซ่มาดูหนังด้วยกันจนได้ แต่เชื่อไหม…ฉันไม่เคยมีความคิดหรือสนใจอยากจะดูหนังพวกนี้ ความจริงคืออยากมาเที่ยวกับพี่โซ่แค่นั้นเอง
“เลือกมาสิจะดูเรื่องไหน”
“ช่วยเลือกหน่อย” ฉันทำสีหน้าครุ่นคิด แต่ก็ยังตัดสินใจไม่ได้สักที
“เอาเรื่องนี้ไหม?” พี่โซ่ชี้ไปที่หนังผีต่างประเทศที่เพิ่งเข้าใหม่ แค่เห็นโปสเตอร์ตัวอย่างก็รู้สึกหลอนนอนไม่หลับไปสามวัน
“ไม่เอาอ่ะ ลินไม่ชอบดูหนังผีมันน่ากลัวเดี๋ยวนอนผวา”
“งั้นเอาเรื่องนี้”
“หนังต่อสู้ก็ไม่ชอบค่ะ”
“รักโรแมนติกไหม?”
“ดูแล้วง่วง ไม่เอาอ่ะ”
“เรื่องมากจริง! อันนู้นก็ไม่เอา อันนี้ก็ไม่เอา” ไม่ว่าเรื่องไหนฉันก็ปฏิเสธจนคนถามถึงกลับถอนหายใจออกมาด้วยความรำคาญ
“งั้นดูหนังโรแมนติกก็ได้” เพราะกลัวเขาเบื่อเลยตอบปัดๆ ไป ขืนผู้ชายหนีกลับก่อนก็ซวยเลยสิ เรื่องอะไรจะปล่อยให้โอกาสดีๆ หลุดมือไป
“ยืนรอตรงนี้ เดี๋ยวไปซื้อตั๋วให้”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวลินไปซื้อเองค่ะ”
“แล้วทำไมไม่ให้ฉันไปซื้อ?”
“ลินอยากเลือกที่นั่งเอง”
“ตามใจแล้วกัน”
“พี่โซ่ยืนรออยู่ตรงนี้นะ ห้ามไปไหน เดี๋ยวลินรีบมาค่ะ”
“อย่าไปนานล่ะ รีบไปรีบมา”
“รับทราบค่าาา”
ฉันรีบเดินตรงมายังเคาน์เตอร์ที่ขายบัตร ก่อนจะเหมาที่นั่งทั้งหมดเพราะอยากเป็นส่วนตัวดูหนังกับพี่โซ่แค่สองคน แต่ก็ไม่ลืมที่จะซื้อป็อปคอร์นถังใหญ่และน้ำอัดลมสองแก้วไปฝากเขาด้วย
“ข้างในหนาวจัง กอดลินหน่อยสิ” ฉันออเซาะทันทีที่เข้ามานั่งในโรงหนัง ความจริงก็ไม่ได้รู้สึกหนาวอะไรขนาดนั้น แค่อยากหาเรื่องใกล้ชิดเขาให้มากกว่านี้
“แล้วใครให้ใส่กระโปรงสั้น เสื้อก็รัดจนกระดุมแทบปริ”
“ลินใส่แบบนี้มาตั้งนานแล้วนะ จะบ่นทำไมเนี่ย”
“…..” ถึงแม้ว่าเขาจะขี้บ่นแต่ก็ยอมถอดเสื้อแจ็คเก็ตออกมาห่มให้
“เอาไปคลุมขาไว้”
“ขอบคุณค่ะ”
“ดีขึ้นบ้างไหม หายหนาวหรือยัง?”
“ดีขึ้นแล้ว”
ฉันตอบเสียงหวานพลางเอนใบหน้าซบลงบนบ่าแกร่ง ก่อนจะหยิบป็อปคอร์นใส่ปาก ส่วนมืออีกข้างก็จับมือพี่โซ่ไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“ฉันไม่หายไปไหนหรอก ไม่ต้องจับมือแน่นขนาดนี้ก็ได้”
“พี่โซ่ชอบลินไหม?”
“…..” คนตัวโตค่อยๆ หันกลับมามองหน้ากันด้วยความสงสัย เขาคงไม่คิดว่าฉันจะถามแบบนี้
“ไม่ต้องตอบก็ได้ แค่อยากให้รู้ว่าลินชอบพี่มากเลยนะ”
“ไหนบอกว่าอยากดูหนังแล้วมาจ้องหน้าฉันแบบนี้ทำไม”
“อยากจูบพี่อ่ะ” ฉันเลื่อนมือขึ้นไปลูบไล้ที่ริมฝีปากของพี่โซ่เบาๆ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเห็นปากผู้ชายคนไหนน่าจูบเท่าเขามาก่อน
“ก็จูบอยู่บ่อยๆ ไม่ใช่หรือไง”
“ที่ผ่านมาลินแค่จุ๊บเบาๆ ไม่ใช่จูบ” ใบหน้าแสนหวานค่อยๆ เห่อร้อนขึ้นมาด้วยความเขินอาย แต่สำหรับฉันแล้ว ถือคติด้านได้อายอด!
“ถ้าจูบกันคือพี่ต้องยอมให้ลินสอดลิ้นเข้าไปด้วย แบบแลกลิ้นอ่ะลองดูไหม” ไม่พูดเปล่าแต่ฉันยังดันนิ้วชี้เข้าไปในปากของเขาเบาๆ เพื่อทำความคุ้นชิน ก่อนที่คนตัวโตจะใช้ฟันกัดนิ้วฉันอย่างแรงจนต้องรีบเอามือออก
“โอ้ย! กัดนิ้วลินทำไม เจ็บนะ!”
“คงทำกับผู้ชายคนอื่นบ่อยล่ะสิ”
“ไม่เคยจูบกับใครเลยนะ ทำกับพี่เป็นคนแรก”
“แล้วรู้ได้ยังไงว่าต้องทำแบบไหน?”
“ลินแค่จำในหนังมา”
“…..” พี่โซ่มองมาทางฉันอย่างพิจารณา ถึงแม้จะดูร้ายและแรงแบบนี้ แต่ฉันยังไม่เคยเสียตัวให้ผู้ชายคนไหน จะมีก็แต่พี่โซ่นี่แหละ ที่ฉันอยากเสียตัวให้เขาเต็มทน!
“แล้วพี่เคยจูบกับคนอื่นไหม”
“ถามทำไม”
“แค่ตอบมาว่าเคยหรือไม่เคย”
“เคย”
แม้จะไม่ได้คาดหวังกับคำตอบ แต่มันกลับรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมาในใจ ถึงฉันจะไม่ใช่ผู้หญิงคนแรกก็ไม่เป็นไร อย่างน้อยขอเป็นคนสุดท้ายก็ยังดี
“งั้นจูบลินบ้างสิ” ไม่พูดเปล่าแต่ยังยื่นหน้าเข้าใกล้เพื่อให้เขาจูบ ฉันสวยขนาดนี้ ยังไงก็ต้องหวั่นไหวบ้างล่ะ!
“หยุดเพ้อเจ้อได้แล้ว ฉันดูหนังไม่รู้เรื่อง”
ฝันสลายหายไปในพริบตาเมื่อเขาผลักหน้าฉันให้ออกห่าง พร้อมขยับตัวหนี
-ร้านอาหารญี่ปุ่น-
หลังจากที่ดูหนังเสร็จ คนทั้งสองเลือกจะมาทานอาหารร้านโปรดของหญิงสาว
“อูนิกับคาเวียร์ร้านนี้อร่อยมาก ลินชอบกิน พี่โซ่ลองชิมดูนะ”
“…..” ชายหนุ่มมองหน้า ราวกับไม่กล้าทานอาหารที่คนตัวเล็กสั่งมาให้ ถึงแม้จะไม่เคยกินแต่รู้สึกได้ว่ามันคงแพงเกินไปสำหรับเขา
“กินเลยสิ อย่ามัวแต่นั่งมอง”
“เธอกินอาหารราคาแพงๆ แบบนี้ทุกวันเลยเหรอ?” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยความสงสัยเมื่อเหลือบสายตามองไปเห็นบิลค่าอาหารราคาหมื่นกว่าบาท อาจจะเป็นแค่มื้อเดียวสำหรับเธอ แต่กับเขาสามารถกินข้าวได้เป็นเดือน
“อืม…ใช่ค่ะ”
“แล้วพวกอาหารข้างทางกินเป็นไหม” โซ่มองหน้าคนตัวเล็กอย่างคาดหวังในคำตอบ ถ้ามีโอกาสก็อยากชวนเธอไปกินข้าวด้วยกันบ้าง
“ร้านข้างทาง?”
“หมายถึงข้าวราดแกง อาหารตามสั่งอะไรแบบนั้น”
“ไม่แน่ใจว่ากินได้ไหม ตั้งแต่เกิดมาลินยังไม่เคยกินเลยอ่ะ”
“…..” ชายหนุ่มพยักหน้าเบาๆ เมื่อรู้คำตอบ ถ้าจะให้กินแบบนี้ทุกวันเขาคงไม่มีปัญญาเลี้ยงเธอได้
“แต่ถ้าพี่จะพาไปกินก็อยากลองดูค่ะ”
“อย่าเลย เดี๋ยวท้องเสียขึ้นมาแล้วจะยุ่ง”
“ถ้าพี่กินได้ ลินก็กินได้”
“…..”
ครืด~ ครืด~ โซ่ละสายตาจากคนตรงหน้า ก่อนจะหยิบโทรศัพท์เครื่องเก่าขึ้นมาแล้วเห็นรายชื่อของใครบางคนที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ เขารีบกดตัดสายทิ้งอย่างไม่ลังเล แต่ไม่กี่นาทีต่อจากนั้นก็มีข้อความที่ส่งเข้ามา
‘16:25 บชX-1684 เงินเข้า 300,000 คงเหลือ 28,700,000 บ.’
“ทำไมยังใช้โทรศัพท์รุ่นเก่าอยู่อีก”
เสียงของปาลินช่วยปลุกเขาให้ตื่นขึ้นจากภวังค์ พร้อมกลับมาให้ความสนใจหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า
“มันยังใช้ได้”
“ใช้ได้ที่ไหน หน้าจอแตกหมดแล้ว”
“ฉันก็ใช้แบบนี้มาตั้งนานแล้ว ไม่เห็นจะเป็นอะไร” โซ่พูดอย่างไม่คิดอะไร แล้วเริ่มก้มหน้าก้มตาทานอาหารในจานของตัวเอง
“เวลาวิดีโอคอลหากัน พี่เห็นหน้าลินชัดไหม”
“ไม่ค่อยเท่าไหร่”
“งั้นเดี๋ยวลินซื้อเครื่องใหม่ให้ เวลาคุยกันจะได้เห็นหน้าลินชัดๆ ไง”
“เปลืองเงิน มันไม่ได้จำเป็นขนาดนั้น”
“ไม่เปลืองหรอก ของมันจำเป็นนะ พี่จะได้เอาไว้ติดต่อโทรหาคนอื่นด้วย”
“…..” เขาจ้องหน้าคนตัวเล็กพร้อมความรู้สึกมากมาย ยิ่งอยู่ใกล้ก็ยิ่งรู้สึกเหมือนห่างกันออกไปเรื่อยๆ ชีวิตที่ต่างกันไม่มีทางที่จะมาบรรจบกันได้
“เวลาคอลหากันพี่ไม่อยากเห็นหน้าลินชัดๆ เหรอ”
“…..”
“นะพี่โซ่ ลินอยากให้ก็คืออยากให้ พี่อย่าคิดมากสิ”
“แต่ฉันไม่ได้ต้องการอะไรจากเธอ”
“ลินแค่…”
“ถ้ายังไม่เลิกพูดเรื่องนี้ ฉันจะกลับบ้าน”
“โอเคๆ ไม่พูดแล้วค่ะ”