บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 - ผู้ชายของปาลิน 2

“กินด้วยกันไหม มือพี่มันเลอะ เดี๋ยวลินป้อนค่ะ”

หญิงสาวหยิบน่องไก่ทอดจ่อไปที่ริมฝีปากของชายหนุ่มเพื่อเป็นการป้อน มือของโซ่เลอะไปด้วยคราบน้ำมันคงไม่สะดวกถ้าต้องหยิบกินเอง

“ไม่กิน”

“ตั้งแต่ลินมา ยังไม่เห็นพี่กินอะไรเลยนะ ไม่หิวเหรอ?”

“ฉันยังไม่หิว” โซ่ตอบกลับสั้นๆ พลางปรายสายตามองไปยังปาลินที่กำลังนั่งเคี้ยวอาหารจนแก้มตุ่ย

“ไม่หิวก็ต้องกินนะ เดี๋ยวปวดท้อง”

“ฉันไม่เป็นอะไรง่ายๆ หรอก เธอกินเถอะ”

“งานเยอะขนาดนี้ ทำไมไม่หาลูกน้องช่วยล่ะ จะได้ไม่เหนื่อยมาก”

“ฉันทำเองได้ ไม่อยากจ้างคนให้สิ้นเปลือง” โซ่ตอบกลับพร้อมเปิดฝากระโปรงรถเพื่อตรวจสอบภายในเครื่องยนต์ โดยมีปาลินคอยเดินตามไม่ห่าง

“ลินรักคนไม่ผิดจริงๆ เลย แฟนลินเก่งที่สุด”

“ฉันไปเป็นแฟนเธอตั้งแต่ตอนไหน หยุดพูดจาเลอะเทอะได้แล้ว”

“วันนี้ยังไม่ได้เป็น แต่อนาคตก็ต้องเป็นอยู่ดี ลินเลือกพี่แล้ว ยังไงพี่ก็หนีลินไม่พ้นหรอก”

“…..” เขาไม่ได้ต่อล้อต่อเถียงไปมากกว่านั้น ก่อนจะดึงสติให้กลับมาสนใจงานของตัวเอง

“ค่าพิซซ่าเมื่อกี้ ไม่ต้องทอนนะที่เหลือให้ทิป”

“เก็บเอาไว้เถอะ ฉันไม่เอา”

“ต้องเอานะ…พี่คงทำงานเหนื่อยมากกว่าจะได้เงิน ลินไม่ยอมให้พี่เลี้ยงหรอก” เธอพูดอย่างเข้าอกเข้าใจ แล้วเลือกที่จะยัดเงินสองพันบาทใส่ในมือของชายหนุ่ม

“ถ้าพี่ไม่มีตังค์บอกลินได้นะ ไม่ต้องเกรงใจ”

“…..”

“แต่ไม่ได้ให้ยืมฟรีๆ นะ ลินขอคิดดอกเบี้ยเป็นตัวพี่ก็พอ”

“ไปไกลๆ อย่าทำตัวเกะกะ”

“อ้าว! คุณหนูลิน มาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”

ผู้เป็นพ่อเดินเข้ามาหา มองคนตัวเล็กตรงหน้าด้วยสายตาเอ็นดู

“สวัสดีค่ะคุณลุง ลินมาหาพี่โซ่ตั้งแต่บ่ายแล้วค่ะ ว่าแต่คุณลุงหายไปไหนมาคะ ทำไมไม่เห็นเลย” ปาลินยกมือไหว้คนอายุมากกว่าอย่างนอบน้อม

เธอรู้ว่าครอบครัวโซ่ลำบากมากเลยอยากช่วย แต่ติดตรงที่โซ่ไม่ยอมรับความช่วยเหลืออะไรจากเธอเลย

“ลุงรู้สึกหน้ามืดเลยเข้าไปนอนพักน่ะ แต่ตอนนี้อาการดีขึ้นมาแล้ว”

“คุณลุงมาก็ดีแล้ว ได้ข่าวว่าไม่ค่อยสบาย ลินเลยซื้ออาหารเสริมกับวิตามินบำรุงร่างกายมาฝากค่ะ ยี่ห้อนี้ดีมากเลยนะคะ คุณพ่อลินก็ทานอยู่เหมือนกัน”

“ขอบใจหนูลินมากเลยนะ มาหาลุงทีไรมีของมาฝากตลอดเลย”

“คุณลุงก็เป็นเหมือนญาติลินคนนึง ไม่ต้องเกรงใจเลยนะ”

“…..” โซ่มองคนทั้งสองด้วยความรู้สึกหลากหลาย ถึงเนื้อตัวของเขาและพ่อจะมอมแมมมากแค่ไหน แต่ลูกคุณหนูอย่างเธอก็ไม่เคยคิดรังเกียจ

“พรุ่งนี้ไปเรียนพร้อมกันนะ เดี๋ยวลินขับรถมารับตั้งแต่เช้าเลย”

“พรุ่งนี้ฉันติดงาน”

“จะขาดเรียนอีกแล้วเหรอ?”

“ฉันจำเป็น” ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาเบาๆ ยังไงเรื่องปากท้องก็สำคัญมากที่สุด

“แต่พี่ขาดเรียนบ่อยแล้วนะ เดี๋ยวก็เรียนตามเพื่อนไม่ทันหรอก เอางี้ไหม เดี๋ยวลินหาคนมาช่วยคุณลุงทำงานเอง พี่จะได้ไปเรียนไง”

“ไม่ต้องยุ่งสักเรื่องได้ไหม”

“งั้นเอาตามนี้แหละ พรุ่งนี้เช้าเดี๋ยวเค้ามารับ อาบน้ำแต่งตัวหล่อๆ รอเลยนะ”

ปาลินไม่ฟังคำตอบ แต่เธอเลือกที่จะพูดเองเออเองแล้วรีบเดินหนีออกมา เพราะรู้ว่าโซ่คงคิดจะปฏิเสธเหมือนอย่างเคย

“ตอนนี้ค่ำแล้ว หนูลากลับแล้วนะคะคุณลุง เอาไว้พรุ่งนี้จะมาหาใหม่”

“ขับรถดีๆ นะหนูลิน”

“ลินกลับก่อนนะพี่โซ่ ถ้าถึงบ้านแล้วจะโทรหา รับสายเค้าด้วยนะ”

จุ๊บ! คนตัวเล็กเขย่งปลายเท้าขึ้นไปจูบที่ริมฝีปากของชายหนุ่มเบาๆ โดยที่เขาเองก็ไม่ได้จูบตอบหรือขัดขืน

“…..”

“พ่อว่าคุณหนูลินก็น่ารักดีนะ อัธยาศัยดี ตามเฝ้าแกเช้าเย็นทุกวัน แกไม่สนใจเขาจริงๆ เหรอ?”

ผู้เป็นพ่อเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าปาลินขับรถออกไปแล้ว โดยมีสายตาของโซ่ที่คอยมองตามหลังออกไปจนลับตา

“สนใจแล้วยังไง ผมกับเขาไม่มีอะไรคู่ควรกันหรอกพ่อ เดี๋ยวถ้าเธอเบื่อก็คงเลิกตามตื้อผมเอง”

“พี่โซ่”

ชายหนุ่มตื่นจากภวังค์เมื่อได้ยินเสียงเรียกที่คุ้นเคย ‘ชบา’ คือเพื่อนบ้านที่เล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆ เขาคิดกับเธอเหมือนน้องสาวเท่านั้น

“ว่าไง”

“ชบาทำแกงสายบัวของโปรดพี่มาฝาก”

“ขอบใจ”

“วันนี้ขออยู่กินข้าวเย็นกับพี่ได้ไหม พ่อแม่ชบากลับต่างจังหวัดกันหมดเลย” ชบาส่งยิ้มหวานอย่างออดอ้อน แต่ชายหนุ่มกลับไม่ได้ให้ความสนใจ

“ก็เอาสิ อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนก็ได้ ถ้ากินเสร็จเดี๋ยวพี่ไปส่ง”

“เมื่อกี้เห็นรถคุณหนูลินเพิ่งขับออกไป เธอมาหาพี่โซ่อีกแล้วเหรอ”

“อืม”

“ชบาก็นึกว่าเขาเลิกยุ่งกับพี่แล้วซะอีก”

“…..”

“ชบาอยากเกิดเป็นคุณหนูลินบ้าง คนอะไรทั้งสวยทั้งรวย เพรียบพร้อมไปหมดทุกอย่างเลย” เธอพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงกระแหนะกระแหน เพราะกลัวว่าโซ่อาจจะเผลอใจไปชอบปาลินเข้าสักวัน

“แต่ดูพวกเราสิอย่างกับหมาวัด เทียบกันไม่ได้เลยสักนิด ถ้าคบกันจริงๆ ยังไงก็ไปไม่รอดหรอก”

“กินข้าวกันเถอะ พี่หิวแล้ว”

-มหาวิทยาลัย-

“นั่นมันปาลิน เด็กใหม่ใช่ไหม ตัวจริงสวยกว่าในรูปอีกนะ”

“ได้ข่าวว่าเพิ่งหักอกพี่เจมส์เดือนบริหารมาหมาดๆ ดูใสๆ แต่ร้ายไม่เบาๆ”

“ดูกระเป๋านางสิ คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดด้วยอ่ะ ประโคมแบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดเท้าสงสัยจะมีเสี่ยเลี้ยง”

ฉันถอดแว่นตาแบรนด์หรูออกจากใบหน้า พร้อมเดินถอยหลังกลับมาหรี่สายตามองพวกยัยป้าปีสี่ที่กำลังจับกลุ่มนินทาฉันอยู่น่ะสิ

“ไม่สวย ไม่รวย เท่าฉันก็คงลำบากหน่อยนะ ว่าแต่พวกเธอ พวกเธอ แล้วก็พวกเธอ ว่างกันมากหรือไงถึงได้นั่งจับกลุ่มนินทาชาวบ้าน” ไม่พูดเปล่าแต่ยังทำท่าทางที่คิดว่าน่าหมั่นไส้ใส่ยัยพวกนั้น

“แล้วอีกอย่างบ้านฉันรวยย่ะ ไม่ได้เป็นเด็กเสี่ย! ถ้าจะเม้าท์กรุณาหาความจริงด้วย ยัยพวกปากสว่าง!”

“เป็นแค่เด็กใหม่อย่าซ่าส์ให้มันมาก เดี๋ยวก็เจ็บตัวหรอก” ผู้หญิงในกลุ่มพูดขึ้น ท่าทางเริ่มจะโกรธให้ฉันขึ้นมาบ้างแล้ว

“แล้วจะทำไม ถ้าแน่จริงก็เข้ามาสิ แต่ห้ามรุมนะ เดี๋ยวคนอื่นจะเรียกว่าหมาหมู่”

“ฝากไว้ก่อนเถอะ!”

เมื่อเห็นว่าฉันเอาจริง ยัยพวกนั้นเลยรีบพากันเดินหนีออกไป หน็อยแน่! วันนี้อารมณ์ยิ่งไม่ค่อยจะดีอยู่ด้วย

“ชิ! ยัยพวกนี้ทำฉันอารมณ์เสียแต่เช้า” ฉันหันไปบ่นพึมพำกับฟ้าใสที่เดินมาด้วยกัน นางคนนี้เป็นเพื่อนสนิทของฉันเอง ส่วนอีกคนชื่อแอนนี่

“พอได้แล้วลิน จะไปหาเรื่องเขาทำไม” ยัยฟ้าใสพูดด้วยน้ำเสียงเนิบนาบเหมือนจะหลับอยู่ตลอดเวลา บุคลิกของมันต่างจากฉันโดยสิ้นเชิง แต่ก็ยังมาคบกันได้แถมสนิทกันมาก

“นี่ยัยฟ้า! แกพูดให้มันดีๆ นะ ใครหาเรื่องใคร พวกนั้นมันนินทาฉันก่อน แกก็ได้ยิน”

“ได้ยินแล้ว แต่ไม่อยากให้แกมีเรื่องไง”

“ก็อย่าให้เจออีกแล้วกัน จะตบให้คว่ำเลย”

“รีบเข้าเรียนเถอะ ป่านนี้แอนนี่คงรอเราสองคนนานแล้ว”

“แกไปก่อนเลย เดี๋ยวฉันขอไปหาพี่โซ่แป๊บนึงแล้วจะตามไปทีหลัง”

“อย่านานนักนะ ถ้าเข้าสายอีกอาจารย์เช็คชื่อแกขาดแน่”

“รู้แล้วน่า แกจะไปก็ไหนก็รีบไป”

“…..” เมื่อได้ยินฉันออกไปปากไล่ ฟ้าใสจึงยอมเดินออกไปก่อนแต่โดยดี

ตึกตัก~ เสียงรองเท้าส้นสูงดังกระทบกับพื้นคอนกรีตอย่างเร่งรีบ

พี่โซ่มองเห็นฉันแล้วแต่เลือกที่จะเดินหนี แต่เรื่องอะไรจะยอม!

“พี่โซ่หยุดก่อน หยุดเลยนะ” ฉันใส่เกียร์หมาวิ่งไปขวางหน้าเขาไว้ พอคนตัวโตเห็นฉันจึงรีบโยนมวนบุหรี่ทิ้งลงบนพื้นในทันที

“อะไรของเธอ?”

“เมื่อเช้าหนีลินทำไม แถมเมื่อคืนโทรหาก็ไม่ยอมรับ” ฉันเงยหน้ามองคนที่สูงกว่าอย่างเอาเรื่อง อุตส่าห์นัดกันอย่างดิบดีแต่เขากลับหนีหน้า มันน่าน้อยใจชะมัดเลย!

“ไม่มีอะไรจะคุย”

“ใจร้าย!”

“มีอะไรก็พูดมาสิ ฉันจะได้รีบเข้าเรียน”

“อย่ามาโกหก…ตอนนี้พี่ว่างไม่มีเรียน ลินรู้หรอกนะ”

เขาหยุดชะงักเมื่อฉันรู้ทันทุกอย่าง ในมหาวิทยาลัยนี้พรรคพวกฉันเยอะแยะจะตายไป ไม่ว่าเขาจะทำอะไรหรืออยู่ที่ไหนฉันก็รู้หมดนั่นแหละ

“ถึงขั้นลงทุนสืบเรื่องฉันเลยหรือไง”

“ทำไงได้ก็คนมันรัก โดดเรียนไปดูหนังกันไหม เดี๋ยวลินจ่ายเอง”

“…..” เขาจ้องหน้าฉันนิ่งพร้อมถอนหายใจใส่ ถึงแม้แววตาจะดุแต่ไม่กลัวหรอก ยิ่งเขาดุ ฉันยิ่งชอบ…

“ห้ามปฏิเสธนะ ลินอยากอยู่กับพี่บ้างอ่ะ”

“…..”

“ทีกับยัยชบาแก้วพี่ยังชอบไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ ลินก็หึงเป็นเหมือนกันนะ” ฉันเบะปากกลอกตามองบนด้วยความหมั่นไส้

ยัยนั่นชอบแสดงเป็นนางเอกแล้วทำให้ฉันดูเป็นนางร้าย ทำไมจะไม่รู้ว่ายัยนั่นอยากได้ผู้ชายของฉันจนตัวสั่น

“หึงทำไม ฉันกับชบาไม่ได้เป็นอะไรกัน”

“นะคะพี่โซ่ ไปดูหนังกับลินนะ”

“แค่ดูหนังอย่างเดียวใช่ไหม?” เมื่อทนต่อลูกตื้อไม่ไหวจึงตอบกลับด้วยความรำคาญ

“กินข้าวด้วยก็ได้ ตอนนี้เค้าหิวมากเลย”

“…..”

“ไปรถลินนะ วันนี้อารมณ์ดีเดี๋ยวลินขับให้พี่นั่งเอง”

ไม่พูดเปล่าแต่ยังถือวิสาสะเดินเข้าไปกอดแขนพี่โซ่ไว้แน่นไม่ยอมปล่อยก่อนจะเอนใบหน้าซบลงพร้อมทำตาปริบๆ

ถึงแม้นักศึกษาคนอื่นจะมองอย่างให้ความสนใจแต่ฉันไม่แคร์หรอกย่ะ

“จะมากอดแขนฉันทำไม ปล่อย!”

“ไม่ปล่อย ไม่รู้หรือไงว่าเค้าอยากทำมากกว่ากอดอีก”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel