บทที่ 1 - ผู้ชายของปาลิน1
‘สวย รวย เก่ง ชีวิตดุจดั่งเจ้าหญิงของไฮโซมิรันตี ภิรนัน ภรรยาเจ้าสัวเจริญ ภิรนัน เจ้าของธุรกิจระดับหมื่นล้าน’
‘มิรันตี ภิรนัน บริจาคเงินสมทบทุนบ้านเด็กกำพร้าจำนวนเงินมากกว่าสิบล้านบาท’
ริมฝีปากหนาพ่นควันบุหรี่อย่างไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นข่าวแวดวงสังคมที่ปรากฏโชว์หราอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์
เขาไม่ได้ตั้งใจอยากจะอ่านมันเลยสักนิด แต่ข่าวของไฮโซคนนี้ค่อนข้างดังและสังคมกำลังให้ความสนใจ เลยทำให้ขึ้นฟีดของแอพพลิเคชันต่างๆ อยู่บ่อยครั้ง
“ไอ้โซ่! มาช่วยพ่อดูงานให้ลูกค้าหน่อย”
เสียงของพ่อช่วยปลุกให้เขาตื่นจากภวังค์ สมาร์ตโฟนเครื่องเก่าถูกยัดใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนที่โซ่จะรีบเดินไปหาพ่อที่รออยู่
ที่บ้านของโซ่ทำธุรกิจเปิดอู่ซ่อมรถขนาดเล็ก รายได้ก็ไม่ได้ดีมาก บางเดือนก็เข้าขั้นติดลบ เพราะต้องเอาเงินเกือบทั้งหมดไปรักษาพ่อที่กำลังป่วย
“พ่อไปนั่งพักเถอะ เดี๋ยวผมทำเอง”
“แต่งานยังค้างลูกค้าไว้เพียบเลย พ่อกลัวทำไม่ทันน่ะสิ”
“ผมทำได้ พรุ่งนี้หยุดเรียนอีกสักวันคงไม่เป็นไร”
ชายหนุ่มบอกอย่างไม่คิดอะไร ถ้าสถานการณ์ไม่ดีขึ้นก็คงต้องหยุดเรียนกลางคันแล้วออกมาช่วยพ่อทำงานเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องของตัวเอง
“แกอยู่กับพ่อคงลำบาก ทำไมไม่ไปอยู่กับแม่ จะได้มีอนาคตที่ดี”
“ผมเกลียดเธอ อย่าพูดถึงผู้หญิงคนนั้นให้ได้ยินอีก”
ผู้เป็นพ่อถึงเงียบไปเมื่อได้ยินลูกชายเพียงคนเดียวตอบกลับมาแบบนั้น
“งั้นพ่อขอตัวไปนอนพักสักหน่อย รู้สึกหน้ามืดยังไงไม่รู้ สงสัยความดันจะขึ้น”
“อย่าลืมกินยาด้วยล่ะ
โซ่อาศัยอยู่กับพ่อขี้โรคตั้งแต่สิบขวบ ส่วนแม่ได้เลิกรากับพ่อและทิ้งเขาไปมีครอบครัวใหม่ตั้งนานแล้ว
แม่ไม่เคยสนใจ แม่ไม่เคยมาหา เขาไม่ได้เจอหน้าแม่มานานเท่าไหร่ นานจนลืมไปแล้วว่าชีวิตนี้เคยมีแม่…
-อู่ซ่อมรถพี่โซ่-
ฉันขับรถพอร์ช คาเยนคันละยี่สิบล้านเข้าไปเทียบท่าจอดอยู่หน้าอู่ซ่อมรถของพี่โซ่ ก่อนจะหยิบลิปสติกแบรนด์หรูขึ้นมาทาพร้อมตรวจเช็คความเรียบร้อย
มาหาผู้ชายทั้งทีจะโทรมไม่ได้ ยังไงก็ต้องเริ่ดไว้ก่อน ขืนหน้าป่วยปากซีดเหมือนไก่ต้มเดี๋ยวผู้ชายจะตกใจ
“วี๊ดดดวิ้วว~ สุดหล่ออยู่ไหน” ดวงตากลมโตวาดสายตามองหาบุคคลที่คิดถึง ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อเห็นพี่โซ่กำลังมุดใต้ท้องรถทำงานอยู่
เท่ห์มาก! เขาน่ะตรงสเปกฉันที่สุดเลย ขาว สูง ตาตี๋ มีซิกแพค ไม่ว่าจะมองทางไหนก็เพอร์เฟค
“มาหลบอยู่ตรงนี้เอง ทำไมวันนี้ไม่ไปเรียน” ฉันย่อตัวนั่งลงอยู่ในระดับเดียวกัน แต่เนื่องด้วยกระโปรงนักศึกษาฉันสั้นมากๆ เลยทำให้ลำบากนิดหน่อย
“ยุ่งอะไรด้วย”
“ก็ลินไปหาพี่ที่คณะ แต่เพื่อนพี่เขาบอกว่าพี่หยุดเรียนน่ะสิ ก็เลยมาตามหาที่นี่”
“ตามหาฉันทำไม มีธุระอะไรก็พูดมา”
“แค่คิดถึงต้องมีธุระด้วยเหรอ”
“…..” พี่โซ่มองมาทางฉัน ก่อนจะถอนหายใจออกมายกใหญ่คล้ายกับหงุดหงิด
“ลินเห็นนาฬิกาที่พี่ใส่มันเก่าแล้ว เลยซื้อเรือนใหม่มาเปลี่ยนให้” ไม่พูดเปล่าแต่ยังยื่นกล่องนาฬิกายี่ห้อRolexให้เขาอีกด้วย เรือนละตั้งหลายแสนเลยนะ คิดดูว่าฉันน่ะสายเปย์ขนาดไหน
“ซื้อให้ฉันทำไม?”
“ก็ลินชอบพี่ไง เลยอยากเปย์” แน่นอนว่าคำตอบของฉันทำเอาพี่โซ่ละเหี่ยใจ การที่ฉันตามจีบเขามาตั้งนานยังไม่ชัดเจนอีกเหรอว่าชอบจริงๆ
“ถ้าพี่ไม่ชอบเรือนนี้ เดี๋ยวลินเอาไปเปลี่ยนให้ก็ได้นะ”
“เอากลับไปเถอะ ฉันไม่อยากได้”
“ได้ไงอ่ะ อุตส่าห์ซื้อมาแล้วนะ เสียดายแย่เลย”
“เมื่อไหร่จะเลิกซื้อของไร้สาระมาให้สักที ฉันเคยบอกไปตั้งกี่ครั้งแล้วว่าไม่อยากได้อะไรจากเธอ พูดไม่รู้เรื่องหรือไง!”
“แต่ลินอยากให้” เรื่องอะไรจะยอมแพ้ ต้องตื้อเท่านั้น อยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะใจแข็งกับฉันได้อีกนานแค่ไหน
“พ่อแม่รู้หรือเปล่าว่าเอาเงินมากมายมาซื้อของให้ผู้ชายแบบนี้”
“อันนี้เป็นเงินของลินเอง พ่อกับแม่ไม่ว่าหรอก”
“ถ้าว่างมากก็เอาเวลาไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์ ไม่ใช่เอาแต่วิ่งตามผู้ชายอยู่แบบนี้ มันดูน่ารำคาญ!”
“ไอ้คนใจร้าย! ว่าลินอีกแล้วนะ” ฉันเบะปากน้ำตาคลอ
ไอ้บ้าเอ้ย! รู้แล้วว่าไม่ชอบ แต่ไม่เห็นจะต้องพูดขนาดนี้เลย สวยแซ่บอย่างฉันถ้าจะหาผู้ชายใหม่มันง่ายนิดเดียวย่ะ
แต่ถ้าถามว่าเลิกชอบพี่โซ่ได้ไหม…ขอตอบไว้ตรงนี้เลยว่าไม่!
ถึงแม้ว่าจะมีคนมาขายขนมจีบให้ฉันมากมาย ทั้งรวย ทั้งหล่อกว่าพี่โซ่เป็นไหนๆ แต่กลับไม่ได้สนใจผู้ชายพวกนั้นเลยสักนิด
ฉันเลิกชอบเขาไม่ได้ เผลอๆ อาจจะไม่ใช่แค่ชอบ แต่มันอาจจะกลายเป็นความรักไปแล้วก็ได้
-หลายชั่วโมงผ่านไป-
“ร้อน ร้อน ทำไมถึงร้อนแบบนี้!” คนตัวเล็กบ่นพึมพำพร้อมเม็ดเหงื่อที่เปียกแฉะบนใบหน้า เธอยกมือทึ้งหัวตัวเองอย่างแรงด้วยความหงุดหงิด นั่งรอจนแล้วจนเล่า แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าโซ่จะเลิกงาน
“ยุงกัดเพียบเลย ชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ หึ่ย!”
“ใครใช้ให้เธอมานั่งรอ ทนไม่ไหวก็กลับบ้านไป” โซ่พูดลอยๆ พร้อมลอบสายตามองไปทางปาลินอยู่เป็นระยะ
ตามผิวกายขาวเนียนเต็มไปด้วยรอยแดงตุ่มเล็กๆ ที่โดนยุงกัด แน่นอนว่าผิวลูกคุณหนูแบบเธอ โดนอะไรนิดหน่อยก็เห็นเป็นรอยชัดเจน
“ถึงไล่ก็ไม่ไปหรอกย่ะ วันนี้ลินว่างมีเวลามานั่งเฝ้าพี่ทั้งวัน”
“ถ้างั้นก็อย่าบ่น”
“พี่โซ่ ลินอยากกินพิซซ่า โทรสั่งให้หน่อย เอาถาดใหญ่เลยนะ ขอสปาเกตตีกับไก่ทอดด้วย”
“แล้วทำไมไม่โทรสั่งเอง?”
“สั่งไม่เป็นอ่ะ ปกติลินให้แต่แม่บ้านโทรสั่งให้”
“เรื่องมาก!”
“ผู้ชายด่าแปลว่าผู้ชายรัก”
“เพ้อเจ้อ”
ถึงแม้จะพูดแบบนั้นแต่ก็ยอมเป็นฝ่ายกดโทรสั่งอาหารให้คนตัวเล็กแต่โดยดี
ดวงตาเฉี่ยวคมมองไปยังบริเวณโดยรอบของร้าน ก่อนจะสังเกตได้ถึงสายตาของลูกค้าผู้ชายนับสิบมองมาทางปาลินในขณะที่เจ้าตัวกำลังนั่งก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์อยู่
“ทำไมใส่กระโปรงสั้นขนาดนี้ ผู้ชายคนอื่นมองหมดแล้ว ไม่อายหรือไง”
“ไม่อาย! ลินมีของดีก็ต้องโชว์สิ”
หมับ!
“อ๊ะ! หยิกทำไมเนี่ย เจ็บนะ” คนตัวเล็กสะดุ้งด้วยความเจ็บเมื่อโซ่หยิกเข้าที่ต้นขาของเธออย่างแรงจนเกิดเป็นรอย
“นั่งดีๆ หรืออยากให้ผู้ชายคนอื่นเห็นกางเกงใน?”
“หวงลินเหรอ” ใบหน้าแสนหวานจ้องมองกลับคืนแบบไม่ยอมแพ้พร้อมขยิบตาใส่อย่างทะเล้น
“ถ้าหวงมากก็มาเป็นแฟนเค้าดิ”