ตอนที่ 2
ย้อนไปเมื่อ 2 วันที่แล้ว
“นิกลูกรัก พ่อมีเรื่องอยากจะบอกให้ลูกรู้” ชายวัยกลางคนที่มีผมหงอกเกือบเต็มหัว เดินมากอดไหล่ผมไว้แน่นขณะที่ผมกำลังนั่งดูทีวีอยู่ตรงกลางบ้าน
“พ่อจะย้ายไปอยู่กับเมียใหม่ใช่มั้ยล่ะ ไปดิผมอยู่คนเดียวได้” ผมพูดแบบไม่ใส่ใจอะไรขณะสายตาก็จ้องอยู่กับหนังที่กำลังดู
พลั่วะ!
“มึงจะอยู่ที่ไหน!” หลังจากที่พ่อตบหัวผมเสร็จ สรรพนามที่ใช้ก็เปลี่ยนไปตามการกระทำ
“ที่นี่ไง”ผมหันกลับมามองหน้าพ่อตนเองที่มีรอยตีนกาพรึบพรับ
“จะอยู่ได้ไงวะกูขายบ้านนี้ให้เจ้มีขายหอยแล้ว หรือมึงอยากอยู่กับเขาที่นี่ล่ะ ได้ข่าวว่าเขาเอ็นดูมึงนี่หว่า” เอ็นดูหรืออยากดูเอ็นกันแน่วะ ยัยเจ้อะไรนั่นยิ่งจ้องจะงับไข่ผมอยู่ด้วย
“รีบเก็บของเลยพ่อ ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว” ผมรีบลุกขึ้นอย่างลนลาน เป็นใคร ๆ ก็ไม่อยากอยู่วะ
“ฮ่าๆๆๆ” เสียงผู้เป็นพ่อก็ยังคงหัวเราะอย่างสะใจ อย่าหัวเราะเยอะพ่อตีนกาขึ้นแล้วนั่น...ก็ได้แต่คิดในใจขืนพูดออกไปก็ตายสิครับท่าน
ณ บ้านใหม่
และแล้วผมกับพ่อก็มาถึงยังจุดหมายปลายทางเป็นที่เรียบร้อย ตรงหน้าของผมคือบ้านหลังไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็ใหญ่ (?) แถมดูร่มรื่น น่าเอาสาด เอ้ย! เสื่อมาปูนอนเล่นดีนัก
“มองอยู่นั่นแหละ รีบมาขนของเข้าบ้านสิไอ้ลูกชาย นี่แกคิดว่าตัวเองเป็นพจมานมาหาชายกลางหรือไงสำรวจอยู่ได้” พ่อขนของสัมภาระหลังรถมาวางไว้ข้าง ๆ ตัวผม
“อ้าว มาถึงกันแล้วเหรอจ๊ะ เข้าบ้านกันเลยสิ” หญิงสาววัยกลางคนหน้าตาสะสวย ผมดกดำยาวสลวยอย่างกับดาราโฆษณายาสระผมซัลซิล ซึ่งแตกต่างกับคนวัยเดียวกันแบบพ่อผมอย่างสิ้นเชิง กำลังเดินออกมาจากในบ้าน
“นิกสวัสดีน้าอรสิ” พ่อใช้ศอกกระทุ้งแขนผมเบา ๆ
“สวัสดีครับน้าอร” ผมยกมือขึ้นไหว้ส่ง ๆ ไป ไม่ได้เป็นเด็กไร้มารยาทแต่แค่ตอนนี้ยังรับไม่ได้
“สวัสดีจ้ะนิก โตแล้วดูหล่อขึ้นเยอะเลยนะจ๊ะ” น้าอรพูดยิ้ม ๆ อย่างใจดี ที่น้าอรพูดแบบนี้เพราะท่านเห็นผมมาตั้งแต่ยังอยู่มัธยมต้น ท่านคบหากับพ่อผมมานานตั้งแต่ที่แม่ของผมหนีไป ซึ่งผมก็ยังไม่รู้เลยว่าที่แม่หนีไปเพราะอะไร
“ใครมาเหรอแม่” เสียงทุ้มเข้ม พร้อมกับเจ้าตัวที่เป็นชายหนุ่มร่างสูงหน้าหล่อเดินออกมาจากในบ้านด้วยท่าทางนิ่ง ๆ
เหี้ยยยยยย...หล่อกว่ากูอีก
“บิ๊กมาพอดีเลยลูก สวัสดีลุงหอมก่อนสิ”
“สวัสดีครับ” ร่างสูงหน้าหล่อที่มีชื่อว่าบิ๊กยกมือไหว้พ่อผมด้วยท่าทางปกติ ไม่ได้แสดงท่าทีว่าเกลียดพ่อผมเลยสักนิด
“ส่วนนี่ลูกลุงหอมนะจ๊ะ ชื่อนิก” น้าอรแนะนำผมให้ลูกชายเขาได้รู้จัก
“สวัสดีพี่เค้าเร็ว ๆ สินิก มัวแต่ยืนบื้ออยู่ได้” พ่อผมว่าออกมา เพราะผมมัวแต่ยืนจ้องหน้าคนชื่อบิ๊กอยู่
“หวัดดี” ผมพูดออกมาโดยไม่มีหางเสียง พร้อมกับไม่ยกมือไหว้อย่างที่พ่อสั่ง แถมยังมองมันด้วยสายตากวน ๆ ซึ่งพ่อผมกับน้าอรก็เห็นสายตาผมอยู่
“ไอ้!....”
“เข้าบ้านกันเถอะจ้ะ” น้าอรพูดขัดพ่อขึ้นมา ก่อนที่ท่านจะด่าผมน้าอรกับพ่อเดินตรงเข้าไปในบ้าน ที่ตรงนี้เลยเหลือแต่ผมกับลูกชายของเค้าที่ชื่อบิ๊กอยู่สองคน
“มองเหี้ยอะไร” ผมพูดใส่หน้ามันเมื่อเห็นว่ามันกำลังมองหน้าผมอยู่
“ก็มองเหี้ยไงไม่ได้มองคนนี่หว่า” มันพูดพลางยักคิ้วกวน ๆ ก่อนจะเดินเข้าบ้านไป โดยปล่อยให้ผมแบกสัมภาระที่มีมากหนักหนาเข้าบ้านคนเดียว พอคิด ๆ ดูแล้วน้าอรน่าจะไม่ใช่แม่เลี้ยงใจร้ายหรอกมั้ง แต่ลูกเขาคนนี้น่าจะเป็นปีศาจชัด ๆ
หมั่นไส้ว่ะ...เล่นแมร่งเลยดีมั้ย?
ปัจจุบัน
สรุปง่าย ๆ เลยก็คือผู้ชายที่มันยืนเถียงกับผมตระกี้มันชื่อบิ๊กเป็นลูกชายแม่เลี้ยงของผมเองแหละครับ แค่มองก็รู้สึกไม่ถูกชะตา ผมเลยตั้งใจว่าจะปั่นประสาทมันเล่นซะหน่อยคงจะสนุกดี...
“เฮ้ยไอ้นิกเป็นไงบ้างวะมึง ไปอยู่บ้านใหม่อ่ะ ไม่เห็นเล่าให้กูฟังเลย” คิวหนุ่มหล่อคมเข้มเพื่อนสนิทผมถามขึ้นเมื่อผมเดินมานั่งตรงโต๊ะหน้าตึกคณะสถาปัตย์ที่ผมสอบติด วันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกสำหรับเด็กที่พึ่งก้าวเข้าสู่รั้วมหาลัยอย่างพวกผมล่ะครับ แหมะในที่สุดก็ได้เป็นน้องเฟรชชี่สักทีแลดูน่ารัก...
