บท
ตั้งค่า

บทที่4

ฉันกรี๊ดลั่นด้วยความตกใจ แล้วทรุดนั่งลงกับพื้น

กวินทร์รู้สึกถึงความผิดปกติ “เป็นอะไร?”

คาร์เตอร์ต้องยังไม่ตายแน่ ๆ

ในหัวฉันมีแค่ประโยคนี้วนไปวนมา

ฉันรู้ดี ตอนที่เขากุมมือฉันเมื่อกี้

คือการขอความช่วยเหลือ ส่งสัญญาณให้ฉันช่วยเขา

ฉันต้องช่วยเขา

ฉันรีบแกล้งทำหน้ากลัว ตอบกวินทร์ไปว่า

“เขา…จะกลายเป็นผีไหม?”

“ไม่หรอก ต่อให้เป็นผี ก็ต้องผ่านด่านฉันก่อนอยู่ดี” เขายกมือมาลูบหัวฉันเบา ๆ

ศพถูกยัดเข้าไปในท้ายรถ ตลอดทางที่ขับไป บรรยากาศอึมครึม ไม่มีใครพูดอะไร

มีแต่ฉันที่เอาแต่คิดวนไปมาในหัว ว่าจะช่วยคาร์เตอร์ยังไงดี

ไม่ใช่ว่าฉันใจดีอะไรขนาดนั้น

ฉันแค่ไม่อยากกลายเป็นคนมีคดีติดตัวเท่านั้นเอง

หางตาฉันเหลือบไปเห็นผงมะม่วงในมุมหนึ่ง

กวินทร์แพ้มะม่วงหนักมาก แค่กินพลาดไปคำเดียว

ก็ต้องนอนซมอยู่บนเตียงสามวัน

ในทางกลับกัน ของโปรดที่สุดในชีวิตฉันคือมะม่วง

ทั้งบ้านมีแต่มะม่วง ขนมรสมะม่วง เครื่องดื่มกลิ่นมะม่วงเต็มไปหมด

ฉันแอบรินผงมะม่วงใส่ลงไปในแก้ว ตอนที่กวินทร์เผลอ

แล้วยื่นให้เขา

“คอแห้งไหม?”

เขารับไปอย่างเป็นธรรมชาติ เงยหน้ากระดกดื่มไปหนึ่งอึก

ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้ว

“นี่รสมะม่วง?”

ฉันพยักหน้า

“อืม แค่กลิ่นมะม่วงเฉย ๆ ข้างในไม่ได้ใส่มะม่วงจริง ๆ หรอก ถือว่าไว้ปลอบใจที่นายกินมะม่วงไม่ได้ไง”

เขาเชื่อคำฉัน ดื่มจนหมดแก้วในทีเดียว

ไม่นาน ก็เริ่มเกาไปทั่ว ทั้งคอ ทั้งแก้ม

เม็ดผื่นแดง ๆ ผุดขึ้นเต็มตัวให้เห็นอย่างชัดเจน

ฉันรีบทำหน้ากังวล ขมวดคิ้วพูดว่า

“นี่อย่าบอกนะว่าแค่เครื่องดื่มกลิ่นมะม่วงนายก็แพ้ด้วย!

ฉันไม่รู้เลยนะว่าข้างในมีมะม่วงจริง ๆ เรารีบไปโรงพยาบาลกันเถอะ!”

แต่เขากลับฝืนตัวเอง เหยียบคันเร่งแรงขึ้น

“จัดการศพให้เสร็จก่อนแล้วค่อยว่ากัน”

ฉันประเมินทั้งความอึดและสภาพร่างกายของเขาต่ำไปมาก

ถึงเขาจะทรมานแทบแย่

แต่รถก็ยังวิ่งเข้าเส้นทางขึ้นเขาได้อย่างมั่นคง

อีกนิดเดียวก็จะถึงจุดทิ้งศพแล้ว

ถ้าปล่อยไปมากกว่านี้ ฉันคงไม่มีโอกาสอีก

ฉันรีบคว้าไปจับพวงมาลัย บิดไปมาส่งเดช

“นายป่วยอยู่นะ ไปหาหมอก่อนเถอะ!”

รถส่ายไปซ้ายทีขวาที เหวชันอยู่ไม่ไกลจากข้างทาง

ฉันกลัวจนลูกตาแทบจะถลนออกมา เริ่มรู้สึกเสียใจที่เล่นแรงขนาดนี้

กวินทร์เหยียบเบรกดังเอี๊ยด จอดรถกะทันหันกลางทางเขา

เขาตบพวงมาลัยดังปังด้วยความโมโห

“ยัยบ้า! เธอไม่ห่วงชีวิตตัวเองก็ช่าง แต่ฉันยังอยากมีชีวิตอยู่นะ!”

ฉันไม่ยอมให้น้อยหน้า “ถ้านายอยากมีชีวิตอยู่จริง ป่านนี้คงไม่แพ้มะม่วงแล้วดันทุรังไม่ไปโรงพยาบาลหรอก!”

ดวงตาฉันคลอไปด้วยน้ำตา

ดูเผิน ๆ ก็เหมือนแฟนสาวตัวเล็ก ๆ ที่เป็นห่วงคนรักสุดหัวใจ ชวนให้คนมองเวทนา

เขาถอนหายใจอย่างจนใจ

“ก็ได้ เธอเฝ้าศพรออยู่ตรงนี้ ฉันจะลงไปข้างล่างหาโรงหมอเอายามากิน”

มองแผ่นหลังเขาที่เดินห่างออกไปเรื่อย ๆ

ฉันรีบลงจากรถ เปิดท้ายออกทันที

คาร์เตอร์เลิกแกล้งตายแล้ว ฉันรีบช่วยแก้มัดให้เขา

ไม่คิดเลยว่า หมอนี่ไม่พูดอะไรสักคำ พอหลุดจากเชือกก็หันหลังเดินหนีทันที

เขาบาดเจ็บสาหัส เดินขาเป๋อย่างเห็นได้ชัด

ช้ากว่าหอยทากเสียอีก แต่ก็ยังดีกว่าอยู่ดี

เพราะภูเขาแถบนี้ซับซ้อน ขอแค่เขาหามุมหลบได้สักที่

ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะถูกตามเจอ

คิดอยู่แป๊บหนึ่ง ฉันก็ตัดสินใจ…จะอยู่ข้างกวินทร์ต่อไป

ฉันไม่มีทั้งวุฒิการศึกษาและทักษะอะไร

ในสังคมแบบนี้ ฉันทำได้แค่เกาะผู้ชายเท่านั้น

แต่ในเมื่อฉันปล่อยคาร์เตอร์ไป

เขายังไงก็ต้องลงกับฉันแน่

ฉันก้มหน้าหาก้อนหิน แล้วฟาดใส่แขนตัวเองเต็มแรง

เจ็บจนเหงื่อเย็นแตกพลั่ก ๆ

พอเห็นกวินทร์เดินกลับมา

ฉันกำลังจะวิ่งไปฟ้องทั้งน้ำตา

ว่าถูกคาร์เตอร์ทำร้ายแล้วเขาก็หนีไป

แต่กลับต้องชะงัก

เพราะมือของแฟนฉัน…กำลังกำปากถุงกระสอบใบใหญ่เอาไว้

ในกระสอบนั้น มีรูปร่างของคนกำลังกระดุกกระดิกอยู่เบา ๆ

ฉันยืนตะลึงจนสมองขาวโพลน!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel