บทที่ 9
"จุ๊ๆ คำก็โรคจิต สองคำก็โรคจิต คุณไม่คิดบ้างหรอว่าที่ผมตามตื้อคุณเป็นบ้าเป็นหลังอยู่นี่ มันเป็นเพราะว่าผมชอบคุณจริงๆน่ะ"
"ไม่มีทาง!"
พระพายตะโกนพร้อมกับส่ายหน้าแรงๆ เพื่อบอกให้รู้ว่าเธอไม่มีทางเชื่อคำพูดชวนอาเจียนแบบนั้นเด็ดขาด
รักแรกพบงั้นเรอะ!?
ความเชื่ออะไรแบบนี้ไม่เคยมีอยู่ในสมองส่วนไหนของเธอเลยด้วยซ้ำ แล้วยิ่งกับคนที่มันฉวยโอกาสทำลายความบริสุทธิ์ผุดผ่องที่หวงแหนมายี่สิบกว่าปีกับคนเมาแล้วล่ะก็...
ใครมันจะเชื่อ!
"ไหนๆก็มาแล้ว ฉันโทรตามประกันมาคุยเลยแล้วกัน" ร่างบางที่ขี้คร้านจะต่อปากต่อคำกับคนหน้ามึนเต็มกลืนว่าพลางเปิดประตูรถเพื่อหยิบโทรศัพท์
"อย่าลืมให้โอกาสผมตามสัญญานะ" เขาทวง
"สัญญาบ้าอะไรนั่น ฉันลืมไปหมดแล้ว"
"แต่ผมไม่ลืม แล้วก็ไม่มีทางลืมด้วย" คนช่างตื้อสวนกลับทันควัน แถมยังเอนตัวมาดูหน้าจอมือถือของเธออย่างอยากรู้อยากเห็นอีกต่างหาก
"บอกให้ถอยไปไง"
"แม่คุณโทรมาแน่ะ" เพชรพระรามเปลี่ยนเรื่อง
"อย่ายุ่ง!"
"ไม่รับโทรศัพท์ก่อนหรอ โทรมาตั้งสิบสี่มิสคอลแล้วนะนั่น" คนยียวนแสร้งทำหูทวนลม แล้วพูดเรื่องของเธออีกตามเคย
"งั้นก็เงียบปากเน่าๆ ของแกไปสักห้านาที เข้าใจ๋ ?" ดีเจสาวเงยหน้าขึ้นมาออกคำสั่ง และเมื่อเห็นว่าเขาพยักหน้ารับอย่างแข็งขัน เธอจึงรีบกดรับสายจากมารดาทันที
"ฮัลโหลแม่"
หลังจากที่หญิงสาวพยายามดัดเสียงอ่อนเสียงหวานกรอกใส่มือถืออย่างเอาใจคนปลายสาย อีกฝ่ายก็พูดสวนขึ้นมาทันควัน
(โอ๊ยย...ย! แม่โทรหาแกตั้งหลายรอบแล้วทำไมพึ่งรับหะ แล้วนี่กลับมาทำงานที่สถานีแล้วหรอ เห็นลูกสาวตาอิ่มข้างบ้านเขาบอกว่าเปิดฟังแกอยู่เมื่อกี้)
"จ๊ะ ก็มันครบกำหนดวันลาแล้วนี่แม่ แต่พายยังไม่กลับบ้านเราหรอกนะ รอวันหยุดยาวนู่นแหละ อย่าพึ่งคิดถึงกันเลยนะคุณนาย"
ร่างบางหัวเราะเสียงใสเมื่อได้ยินเสียงบ่นพึมพำของผู้เป็นแม่เล็ดลอดออกมาจากโทรศัพท์ จนลืมไปว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญยืนอยู่ตรงนี้ด้วยอีกคน
"อยากให้คุณหัวเราะแบบนี้กับผมบ้างจัง" คนตัวโตบ่น
"ไอ้..."
(นั่นเสียงใครน่ะยัยพาย อย่าบอกนะว่าผัวแก ผัวแกจริงๆใช่ไหม ว๊ายย...ย! พ่อ ลูกเราจะมีผัวเป็นตัวเป็นตนกับเขาแล้วนะ) ปลายสายสรุปเอาเองเสร็จสรรพด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นยิ่งกว่าตอนที่รู้ว่าลูกสาวคนเดียวสอบติดมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศซะอีก
"ไม่นะแม่ ไม่ใช่แบบนั้น"
(ไม่ต้องมาปิดบังแม่)
"ไม่ได้ปิดบัง แต่มันไม่ใช่ผัวหนู!" พระพายรีบแย้ง ก่อนที่มารดาของเธอจะป่าวประกาศไปทั่วหมู่บ้าน
(อย่ามาโกหกน่า แม่เคยอาบน้ำร้อนมาก่อนนะยัยพาย ผู้ชายกับผู้หญิงอยู่ด้วยกันดึกๆดื่นๆในที่ลับตาคนแบบนั้น ไม่ใช่ผัวแล้วจะใคร)
"ลับตาคนอะไรล่ะแม่ นี่มันลานจอดรถ!" ร่างบางแหว
(อุ๊ย! บัดสีบัดเถลิง จะทำอะไรก็ไปทำกันในห้องในหับ เดี๋ยวมีคนถ่ายคลิปไปจะทำยังไง)
"แม่! มันไม่ใช่แบบที่แม่คิด"
(แม่ไม่ได้คิดอะไรทั้งนั้นแหละ แม่แค่แนะนำเฉยๆ)
"โอ๊ยย...ย! พายกับมันไม่ได้เป็นอะไรกันทั้งนั้นแหละ" หญิงสาวพยายามอธิบาย ทว่าคนข้างตัวกลับไม่ได้ให้ความร่วมมือเลยแม้แต่น้อย
"สวัสดีครับแม่ ผมเป็นแฟนพายนะครับ"
"ไอ้บ้า!" ดีเจสาวโวยวายขึ้นทันควัน
"ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ผมสัญญาว่าจะดูแลพายอย่างดีเลย" คนยียวนพยายามตะโกนเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ จนร่างบางต้องแก้ปัญหาด้วยการวางสายจากมารดา ก่อนที่อะไรๆมันจะบานปลายไปมากกว่านี้
"ทำบ้าอะไรหะ"
"แนะนำตัวกับแม่ยายไงคุณ" คนตัวโตตอบ
"ไม่โว้ย! แม่ฉันไม่ต้องการลูกเพิ่ม"
"ผมไม่ได้จะเป็นลูกท่านสักหน่อย แต่จะเป็นลูกเขยต่างหาก" กัปตันหนุ่มบอกกลั้วหัวเราะ ทว่ามันกลับยิ่งทำให้คนฟังโกรธจนควันออกหู
"ลูกเขยบ้านป้าแกสิ!"
"แม่ผมเป็นลูกเขาเดียว" เขาแก้
"ฉันไม่ได้อยากรู้"
"แต่ผมอยากบอกนะ"
"ไอ้...!"
พระพายที่พึ่งเคยมืดแปดด้านคิดคำด่าไม่ออกครั้งแรกในชีวิตยกมือขึ้นมาเสยผมเพื่อระบายความหงุดหงิด ก่อนจะสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ และเริ่มต้นเจรจากับเขาอย่างตรงไปตรงมา
"ต้องการอะไร"
"ผมต้องการโอกาสจากคุณ... ตามสัญญา" ร่างสูงบอกพร้อมกับเน้นย้ำถึงคำสัญญาที่สนามบินเมื่อคราวก่อน
"เสียเวลาเปล่า"
"หมายความว่าไง" เขาถาม
"ก็เสียเวลาที่จะมาตามตื้อฉันไง"
"ไม่หรอก ผมชอบคุณจริงๆนะพาย"
"แต่ฉันไม่ได้ชอบ แล้วก็ไม่คิดจะชอบด้วย" หญิงสาวตอกกลับอย่างมีอคติ เพราะในสายตาของเธอ เขาคือผู้ชายโรคจิตที่ไม่สมควรเอามาเป็นคู่ชีวิตอย่างแรง
"เพราะอะไร"
"เพราะแกมันโรคจิตไง!" พระพายเฉลยแบบใส่อารมณ์ เนื่องจากกำลังนึกไปถึงสภาพของตัวเองที่นอนล่อนจ้อนอยู่บนเตียงภายในห้องนอนของเขาวันนั้น
"เอ่อ... อันนั้นผมไม่ปฏิเสธว่าตัวเองผิด"
เพี๊ยะ!
มือเล็กฟาดเข้าที่แก้มของเขาเป็นครั้งที่สองในรอบวัน ทว่าคนถูกตบดันหันกลับมายิ้มให้เธอซะนี่
"ยิ้มบ้าบออะไร"
"ผมยอมให้ตบอีกกี่ทีก็ได้ แต่คุณต้องให้โอกาสผมนะพาย"
"ประสาทหรือเปล่าเนี่ย" พระพายถอยหลังไปสองก้าวติดด้วยความหวาดระแวง
"คิดว่าน่าจะเป็นแบบนั้นนะ ก็ใครใช่ให้คุณเป็นคนที่ผมตามหาล่ะ" ชายหนุ่มบอก ก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างแล้วสาวเท้าตามมาติดๆ
"อย่าเข้ามานะ ไม่งั้นฉันจะตะโกนเรียกคนมาช่วย"
"ให้โอกาสผมสิ แล้วผมจะพิสูจน์ตัวเองให้คุณเห็น" คนตัวโตพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังสุดฤทธิ์ แถมยังยอมหยุดฝีเท้าลงตามคำสั่งของเธออีกต่างหาก "...นะ"
"ไม่!"
"ทำไมตื้อยากจัง" เขาบ่น
"แล้วใครใช้ให้มาตื้อล่ะ"
"หัวใจ"
คำตอบของคนตรงหน้า ทำเอาร่างบางชะงักค้างอย่างหมดปัญญาจะโต้แย้ง
ให้ตายเหอะ! ใครก็ได้ช่วยบอกเธอทีว่านี่มันไม่ใช่หนังฆาตกรรม ที่คนร้ายชอบหลอกเหยื่อไปฆ่าข่มขืนน่ะ
"แล้ว... ทำไมต้องเป็นชั้น" ดีเจสาวพยายามถามอย่างละมุนละม่อม เพราะกลัวว่าเขาจะชักมีดออกมาจ้วงแทงไม่ยั้งเหมือนในหนังสยองขวัญที่เคยดู
"ความรักมันมีเหตุผลที่ไหนล่ะ แค่ผมรู้สึกว่าคุณใช่ มันก็มากพอแล้วพาย"
"ไร้สาระ ความรักแบบนั้นมันมีที่ไหนเล่า" ร่างบางแย้ง
"งั้นเรามาพิสูจน์กันไหม"