บทที่ 10
"ไม่"
คำตอบที่เขารู้ตั้งแต่แรกหลุดออกมาจากปากของคู่สนทนาตามคาด แต่มีหรือคนที่ลงทุนตามตื้อข้ามทวีปอย่างเขาจะยอมรามือไปง่ายๆ
เอาวะ! ไม่ได้ด้วยรัก ก็ต้องได้ด้วยเล่ห์
ร่างสูงคลี่ยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างมีความนัยแอบแฝง ก่อนที่เขาจะก้าวขายาวๆไปรวบตัวเธอเข้ามาไว้ในอ้อมแขน โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันได้ตั้งตัว
"เฮ้ย! ปล่อยนะไอ้บ้า" พระพายโวยวายพร้อมดิ้นแบบสุดแรงเกิด แต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นไปจากวงแขนของเขาได้
"จะยอมทำตามเงื่อนไขดีๆ หรือจะให้ผมบอกเรื่องของเรากับทุกคน อือ... เริ่มจากหัวหน้าคุณก่อนเป็นไง เจ้าของสถานีเรนโบว์เรดิโอกับผมน่ะ รู้จักกันดีเลยนะ"
หญิงสาวเบิกตากว้างเมื่อได้ยินคำพูดแกมข่มขู่ของคนตัวโตที่บังอาจมากอดเธอโดยไม่ได้รับอนุญาต แถมน้ำเสียงของเขายังกวนเบื้องล่างซะจนเธอต้องขบเขี้ยวขบฟันเพื่อระงับอารมณ์กรุ่นโกรธที่สุมอยู่ในอกอีกต่างหาก
"แกอย่ามาขู่ฉันนะ"
"นี่ๆ ผมจะขู่คุณทำไม ที่พูดมาทั้งหมดน่ะ ผมตั้งใจจะทำจริงๆเลยต่างหาก"
"แกไม่มีทางรู้จักกับพี่ปลาหรอก อย่ามาโกหกฉัน" ดีเจสาวตอกกลับ เพราะมั่นใจว่าปวีณาผู้บ้างานเหนือสิ่งอื่นใด ไม่มีทางมาคบค้าสมาคมกับผู้ชายโรคจิตแบบนี้แน่
"ไม่เชื่อก็ลองถามพี่ปลาของคุณดูสิ ว่าเขารู้จักกับ 'เพชรพระราม' หรือเปล่า"
"โห... นี่ชื่อพระเอกลิเกคณะไหนเนี่ย" ร่างบางพูดกลั้วหัวเราะอย่างลืมโกรธ ทว่าคนฟังกลับแก้เผ็ดเธอด้วยการขโมยหอมแก้มใสฟอดใหญ่ด้วยความมันเขี้ยว
"กรี๊ดด...ด!"
เสียงกรีดร้องปรอทแตกปานจะขาดใจดังมาจากคนที่พึ่งโดนเขาหอมแก้มไปหมาดๆ จนชายหนุ่มแทบอยากจะยกมือขึ้นมาอุดหูอยู่รอมร่อ
"อยากให้คนอื่นมาเห็นว่าเรากำลังพลอดรักกันหรือไง"
"พลอดรักบ้าบออะไรของแก ไอ้ทุเรศ!"
"จะเรียกว่าบ้าได้ยังไง คุณก็เห็นอยู่ทนโท่ว่าเรากำลังทำอะไรกัน" คนยียวนบอกกลั้วหัวเราะ แล้วใช้โอกาสที่เธอกำลังสติแตกขโมยหอมแก้มอีกข้างทันควัน
"กรี๊ดด...ด!"
"เงียบเหอะน่า ถ้าไม่เงียบผมจะจับคุณปล้ำตรงนี้จริงๆนะ อาวุธอะไรก็ไม่มีสักอย่าง อย่าคิดจะตบตีผมแบบวันนั้นอีกเชียว ไม่ยอมจริงๆด้วย" กัปตันหนุ่มแกล้งขู่ด้วยน้ำเสียงแหบพร่า แล้วบดเบียดกล้ามเนื้อหน้าท้องแน่นๆ เข้ากับแผ่นหลังของคนในอ้อมแขนเป็นการสมทบ
"กะ แก... แกต้องการอะไร"
"โอกาสจากคุณ" เขาตอบ
"แค่โอกาสใช่ไหม"
"อย่าเล่นตุกติกนะ ไม่งั้นผมจะประกาศให้คนทั้งสถานีรู้ไปเลยว่าเราเป็นอะไรกัน" ร่างสูงแกล้งขู่เพื่อดักทางหนีทีไล่
"เราไม่ได้เป็นอะไรกัน!" เธอท้วงเสียงแข็ง
"หรอๆ งั้นผมเปลี่ยนใหม่ดีกว่า"
"เปลี่ยนอะไร"
"เปลี่ยนไปบอกคนทั้งสถานีว่าคืนนั้นเราเป็นอะไรกันด้วยวิธีไหน ท่าอะไรบ้าง"
"ไอ้ชั่ว!" พระพายสบถด่าเขาเสียงดังลั่น
ทว่าอีกฝ่ายกลับหัวเราะในลำคอพร้อมกับกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น เมื่อเห็นว่าหญิงสาวหมดพิษสงที่จะต่อกรกับเขาแล้ว
"ว่าไงครับ ตกลงคุณจะให้โอกาสผมได้หรือยัง" คนตัวโตคาดคั้น
"โอกาสนี่ต้องใช้เวลานานแค่ไหน"
"ตลอดชีวิต" เขาตอบ
"จะบ้าหรอ!"
"ไม่บ้าหรอก ที่ผมขอโอกาสจากคุณตลอดชีวิต เพราะผมมั่นใจว่าคุณจะต้องตกหลุมรักผมเข้าสักวัน แล้วพอถึงวันนั้นคุณจะไม่อยากให้ผมออกไปจากชีวิตคุณเลยล่ะ" เพชรพระรามบอกอย่างมั่นใจ เพราะการเดิมพันในครั้งนี้เขาทุ่มหมดหน้าตักด้วยการใช้หัวใจทั้งดวงเป็นต้นทุน
"ไปเอาความมั่นหน้ามั่นโหนกแบบนี้มากจากไหนเนี่ย"
"ถ้าผมหน้าบาง ผมคงไม่มายืนตรงนี้หรอก" คนที่ยอมรับว่าตัวเองหน้าหนาบอกอย่างไม่ใส่ใจ ก่อนจะกระชับวงแขนให้แน่นขึ้น แล้วคาดคั้นเอาคำตอบอีกครั้ง
"จะให้โอกาสผมได้ไหม"
"แกขู่ฉันขนาดนี้ ฉันมีทางเลือกหรอวะ"
คำตอบของเธอทำให้คนเจ้าเล่ห์หลุดหัวเราะพรืดออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ พลางกระชับวงแขนให้แน่นขึ้นกว่าเดิม จนร่างบางต้องร้องโวยวายเพื่อบอกให้เขาปล่อย
"โอ๊ยย! ปล่อยนะ มันแน่นไปแล้วโว้ย ปล่อย!"
"ผมอยากกอดคุณนานกว่านี้อีก" ร่างสูงบอก
"การที่ฉันให้โอกาสแก ไม่ได้หมายความว่าแกจะมาทำตัวรุ่มร่ามแบบนี้กับฉันได้นะ" พระพายท้วงเสียงแข็ง พร้อมกับปรายตามองเขาด้วยแววตาดุดันไม่พอใจ จนคนถูกมองต้องยอมคลายอ้อมกอดลงเล็กน้อย
"ปล่อย!"
"ขอกอดอีกหน่อยไม่ได้หรอ เราไม่ได้เจอกันตั้งเกือบสองอาทิตย์แน่ะ" เขาต่อรอง
"อยากตายหรือไง"
"ถ้าตายคาอกคุณ ผมโอเค" กัปตันหนุ่มว่าพลางส่งสายตาระยิบระยับมาให้
"ไอ้บ้าเอ๊ย!"
"พาย" กัปตันหนุ่มเรียก
"เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ไม่ต้องมาเรียกชื่อเล่น"
"แปลว่าคุณอยากให้คนอื่นรู้หรอว่าเราสนิทกันด้วยวิธีไหน ท่าอะ..." เพชรพระรามยอมหุบปากแต่โดยดี เมื่อเห็นว่าคู่สนทนากำลังหายใจฟึดฟัดราวกับวัวกระทิงที่พร้อมจะขวิดมาทาดอร์อย่างเขาทันทีที่มีโอกาส
"ปล่อยได้แล้ว บอกว่าอย่ามาทำตัวรุ่มร่ามแบบนี้ไง"
ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะยอมคลายวงแขนเพื่อปล่อยให้เธอเป็นอิสระอย่างเลี่ยงไม่ได้
"คุณให้โอกาสผมแล้วนะ ห้ามเบี้ยวด้วย"
"เออ!" พระพายตอบกระแทกเสียง
"พูดไม่เพราะ เดี๋ยวก็จับจูบซะเลย" เขาแกล้งขู่
"ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้ ถ้ารับไม่ได้ก็ไปให้พ้น"
"เฮ้อ... ผมลงทุนตามตื้อคุณขนาดนี้ คุณยังคิดว่าผมจะไปอีกหรอ"
คำพูดตัดพ้อของเขาทำเอาคนฟังใจเต้นโครมครามอย่างไม่ทราบสาเหตุ ก่อนที่เธอจะกะพริบตาถี่ๆ เพื่อไล่ความรู้สึกแปลกประหลาดนั่นออกไปให้พ้น แล้วพูดขึ้นเมื่อความมั่นใจกลับมา
"แก... คุณทนฉันได้ไม่นานหรอก"
สรรพนามที่เปลี่ยนไปทำให้คนตัวโตยิ้มออก แล้วคว้ามือเล็กขึ้นมาจับเอาไว้หลวมๆ แต่กลับถูกเจ้าตัวสะบัดออกอย่างไร้เยื่อใย
"บอกว่าอย่าทำอะไรรุ่มร่ามไง"
"แค่จับมือเองนะ" เขาท้วงงอนๆ
"ให้มันน้อยๆหน่อย ฉันกับคุณไม่ได้เป็นอะไรกัน เราแค่กำลังศึกษากันอยู่ กรุณาให้เกียรติกันบ้าง" ดีเจสาวบอกเสียงเข้มราวกับเป็นครูฝ่ายปกครอง ก่อนจะเหลือบมองผ่านร่างสูงไปทางรถของเขา
"พรุ่งนี้ค่อยโทรเรียกประกันก็แล้วกัน ดึกป่านนี้จะโทรตามมาก็เกรงใจ"
"ครับ" เพชรพระรามตอบรับอย่างว่าง่าย เพราะนั่นหมายความว่าพรุ่งนี้เขาจะได้มาเจอเธออีก โดยไม่ต้องคิดหาเหตุผลให้ยุ่งยาก