บทที่ 6
"อี๋! ไม่ต้องมาชงมาชอบอะไรทั้งนั้น ฉันไม่ให้ชอบโว้ย ปล่อยเดี๋ยวนี้!" คนตัวเล็กแผดเสียงดังลั่นจนคอแหบคอแห้ง หากแต่คนฟังกลับทำหูทวนลม แล้วยิ้มกว้างให้เธออย่างไม่สะทกสะท้าน
"ปล่อย!"
"ไม่เอาน่า เราพูดภาษาเดียวกันแท้ๆนะพาย ผมว่าคุณน่าจะทำใจให้สบาย แล้วมาตกลงเรื่องระหว่างเราไม่ดีกว่าหรอ" เขาพยายามหว่านล้อม ทว่าคนฟังกลับมีอาการฮึดฮัดเหมือนวัวบ้าที่พร้อมจะขวิดได้ทุกเมื่อ
"ไม่โว้ย!"
"พายครับ แต่ว่าเราสองคน..." เพชรพระรามแกล้งพูดค้างไว้ และมองสำรวจเรือนร่างของคนตรงหน้าด้วยสายตาที่สื่อความหมายถึงเหตุการณ์เมื่อคืน
"อย่ามามองฉันแบบนั้นนะ"
ดีเจสาวที่ตอนนี้แต่งตัวมิดชิดแล้วพูดขึ้นอย่างหัวเสีย เพราะก่อนออกมาเธอหยิบเสื้อยืดตัวโคร่งของเขามาใส่ด้วย ทว่าร่องรอยที่เขาฝากเอาไว้บนลำคอระหงกลับเด่นชัดสุดๆ จนคนทำอดยิ้มไม่ได้
"ทำไมจะมองไม่ได้"
"ก็ฉันไม่ให้มองน่ะสิ"
"หืม... แต่เมื่อคืนผมทำมากกว่ามองอีกนะ"
"กรี๊ดด! อย่ามาพูดพล่อยๆนะ" พระพายสวนกลับอย่างรับไม่ได้
"ผมพูดพล่อยๆตรงไหนครับที่รัก ดูจากสภาพตอนที่คุณตื่นมา คุณก็น่าจะรู้อยู่แล้วนะ ว่าเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นบ้างระหว่างเรา" เขาบอกหน้าตาย พลางใช้สายตาจ้องเขม็งไปที่รอยแดงเป็นจ้ำๆบนต้นคอของเธอ
"หยุดพูดเดี๋ยวนี้!"
"แล้วถ้าผมไม่หยุดล่ะ" คนตัวโตถามกลับหน้าทะเล้น
"ลืมๆมันไปซะ แล้วฉันก็ไม่ได้ต้องการความรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น" ร่างบางประกาศเสียงแข็ง แต่คนฟังกลับรู้สึกคันยุบยิบในหัวใจ จนอยากจะจัดการรวบหัวรวบหางเธอขึ้นมาจริงๆ
"ผมมันน่ารังเกียจมากขนาดนั้นเลยหรอ"
"ใช่!"
เสียงตอบกลับแทบจะทันทีของคู่สนทนา ทำให้กัปตันหนุ่มหล่อประจำสายการบินมีอาการหน้าชาไปชั่วขณะราวกับโดนน้ำเย็นสาดก็ไม่ปาน
ให้ตาย...
ตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยโดนใครเมินใส่ขนาดนี้มาก่อนเลยด้วยซ้ำ แต่กับเธอที่เขาอยากจะรับผิดชอบนักหนาดันไม่ต้องการ แถมยังขอให้เขาลืมเรื่องเมื่อคืนไปอีก
ตลกเหอะ!
"งั้นผมจะทำให้คุณรักผม"
"ฝันไปเถอะ ฉันไม่มีทางรักไอ้โรคจิตแบบแกแน่"
"แล้วถ้าผมทำให้คุณรักผมได้ล่ะ คุณจะยอมให้ผมรับผิดชอบชีวิตคุณต่อจากนี้ และตลอดไปได้หรือเปล่า" เพชรพระรามถาม แม้จะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว
"ไม่มีวัน!"
"เสียใจด้วยนะพาย พอดีว่าผมเป็นมาโซคิสม์ แล้วผมก็มีรสนิยมชอบผู้หญิงซาดิสม์แบบคุณซะด้วยสิ" คนตัวโตแกล้งบอกด้วยสายตาเป็นประกาย ทว่า...
"ประสาท! ไปหาคนอื่นไป๊"
"แต่ผมอยากได้คุณ" เขาบอก
"แต่ฉันไม่เอาแก" ร่างบางแหวใส่เสียงเขียว
"ทำไมต้องรีบปฏิเสธกันขนาดนี้ คุณรู้ไหมว่าในสายการบินน่ะ ผมเป็นกัปตันที่หล่อเป็นอันดับต้นๆ เลยนะ"
"ไม่ได้ถาม ไม่ต้องสารแนเล่า" พระพายตะโกนบอกอย่างหัวเสีย พร้อมทั้งดิ้นแรงๆเพื่อให้หลุดออกจากการเกาะกุมของเขา แต่ก็ไร้ผล
"ตอนอยู่มหาวิทยาลัยผมเป็นเดือนคณะเลยนะ"
"ใครมันตาถั่วเลือกวะ!"
เสียงเอะอะโวยวายของคนตัวเล็กทำให้เขาหลุดหัวเราะออกอย่างกลั้นไม่อยู่ เพราะนอกจากเธอจะไม่สนใจมองหน้าเขาแล้ว ยายตัวแสบยังไล่สายตาไปทั่วห้องเพื่อมองหาอาวุธอีกต่างหาก
ร้าย... แต่น่ารัก
คำนี้ผุดขึ้นมาในหัวกัปตันหนุ่มทันควัน ก่อนที่เขาจะยื่นหน้าเข้าไปกดจุมพิตหนักๆ เข้ากับหน้าผากมนด้วยความมันเขี้ยว
"กรี๊ดด!! ทำบ้าอะไรของแก สกปรก!"
พระพายโหวกเหวกโวยวายเสียงดังลั่น พลางกระทืบเท้าเร่าๆปานจะขาดใจด้วยความรังเกียจ แต่มันกลับเป็นภาพที่คนมองยิ่งรู้สึกอยากจะปราบพยศเธอให้อยู่หมัด และหมายมั่นว่าจะไม่มีทางปล่อยให้หลุดมือไปเด็ดขาด
"มองหน้าผมสิพาย"
"ไม่มองโว้ย!" เธอตะโกน
"อ้าว... ถ้าไม่มองแล้วจะรู้หรอ ว่าสามีของคุณหล่อแค่ไหน"
"โอ๊ยย! หล่อเหมือนเล็บขบหมาน่ะ ฉันไม่มองให้เสียสายตาหรอก"
คนหล่อเหมือนเล็บขบหมาขมวดคิ้วเป็นปมแน่นอย่างรู้สึกขัดใจ มีอย่างที่ไหนเปรียบเทียบความหล่อของเขากับเล็บขบหมา
เพชรพระรามสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อเรียกขวัญและกำลังใจของตัวเองอีกครั้ง ก่อนจะโน้มหน้าลงไปหอมแก้มยายตัวร้ายฟอดใหญ่เพื่อเป็นการทำโทษ
"กรี๊ดดด!"
คนถูกหอมกรีดร้องเสียงดังลั่น จนร่างสูงรู้สึกว่าแก้วหูแทบระเบิด ทว่ายิ่งเธอทำท่าทางไม่พอใจการกระทำของเขามากเท่าไหร่ ชายหนุ่มก็ยิ่งยั่วโทสะเธอด้วยการขโมยหอมแก้มอีกข้างเพื่อตัดกำลังคู่ต่อสู้
"กรี๊ดดด!"
กัปตันหนุ่มคลี่ยิ้มกว้างเมื่อเห็นว่าร่างบางตรงหน้าแหกปากราวกับถูกเชือด ก่อนที่เขาจะกดจูบเข้ากับหน้าผากมนอีกครั้ง
"พอๆ เลิกเล่นบ้าๆแบบนี้สักที"
เขายกยิ้มเจ้าเล่ห์ แล้วเปิดปากเจรจากับคนที่เริ่มอยู่ในอาการสงบอย่างใจเย็น
"งั้นมาคุยเรื่องของเรากันดีกว่าเนอะ"
"ไม่คุย ฉันไม่อยากคุยอะไรกับแกทั้งนั้น" เธอปฏิเสธเสียงแข็ง
"ทำไม"
"ไม่ทำไม ฉันไม่อยากคุย แล้วก็ไม่ต้องการความรับผิดชอบอะไรด้วย จบไหม" พระพายบอกพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมาสบตาอีกฝ่ายอย่างแน่วแน่
"แล้วถ้าคุณเกิดท้องขึ้นมาล่ะ คิดจะพรากพ่อพรากลูกหรอ" คนเจ้าเล่ห์แกล้งถามหน้าตาย ทั้งที่เขารู้ดีกว่าใครว่าเรื่องเมื่อคืนมันจบแค่ตรงไหน
แต่ไม่รู้ล่ะ... อะไรที่จะยื้อเธอเอาไว้ได้ เขาจะทำ!
"ฉันไม่ได้โง่ดักดานจนไม่รู้จักยาคุมฉุกเฉินนะ" เธอตอบ
"แล้วกล้าซื้อหรอ"
"ทำไมจะไม่กล้า บ้าป่ะ!" คนจริงตอกกลับ แล้วสะบัดหน้าเชิ่ดใส่อย่างถือดี
"แต่มันไม่ดีต่อสุขภาพนะ" คนหมดทางยื้อหาเรื่องมาอ้างแบบข้างๆคูๆ
"แล้วแกจะมาเดือดร้อนอะไรด้วยไม่ทราบ"
"เป็นผัวเมียกัน ห่วงใยกันมันผิดตรงไหน" กัปตันหนุ่มบอกด้วยท่าทางยียวน และมันก็ทำให้เขาประมาทเธอมากเกินไป
งับ!
หญิงสาวเขย่งปลายเท้าเพื่องับเข้าที่ปลายจมูกของคนตรงหน้าเต็มแรง ก่อนที่เธอจะบดขยี้ฝังคมเขี้ยวลงไปจนได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งอยู่ในปาก แล้วจึงผละออก
"อ๊ากก...ก!"
เพชรพระรามยกมือขึ้นมากุมจมูกของตัวเองทันทีที่เธอปล่อยให้มันเป็นอิสระ
"สมน้ำหน้า!"
ความเจ็บปวดที่เขาได้รับทำเอาชายหนุ่มน้ำตาคลอเบ้า แล้วรีบวิ่งไปส่องกระจกเพื่อเช็คสภาพจมูกของตัวเองทันควัน
ยายตัวร้ายจึงใช้โอกาสนี้คว้ากระเป๋าสะพายและวิ่งหนีออกมาจากห้องแบบไม่คิดชีวิต...