ถึงจะแก่แต่ก็รักนะคะ

50.0K · จบแล้ว
ไหมขวัญ
29
บท
9.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ผู้ชายที่อายุมากกว่าเกิน5ปีถือว่าแก่ไปสำหรับปฐมา แต่ติณณ์ผู้ชายร่วมชายคาที่อายุมากกว่าหญิงสาวถึง15ปี ที่ขยันหยอดขยันอ่อย ทำให้ปฐมาถึงกับเกาะเงื่อนไขที่ตัวเองตั้งขึ้นไว้แน่น เมื่อรู้ว่าหัวใจมันสั่นคลอน “แล้วพี่ไม่มีแฟนเหรอคะ” ปฐมาเผลอถามออกไปแล้ววางสีหน้าไม่ถูก เมื่ออีกฝ่ายหันมาเลิกคิ้วมอง “ขอโทษค่ะ” เธอยกมือไหว้ บางทีเธอไม่ควรถามเรื่องแบบนี้แต่....“ยังไม่มี สนใจสมัครไหมล่ะ” ติณณ์หัวเราะชอบใจเมื่อเห็นสีหน้าเหวอๆ ของหญิงสาว “ถ้าอยากสมัครรีบมายื่นนะ พี่ใกล้จะปิดรับแล้ว” ชายหนุ่มกระเซ้าหนักเข้าไปอีก คราวนี้นอกจากหน้าจะเหวอแล้วยังแดงระเรื่ออีก เขามองก่อนจะเดินหัวเราะขึ้นห้องไปอย่างอารมณ์ดี

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันโรแมนติกรักหวานๆ

1 เพื่อนไม่แท้ แพ้ผู้ชาย

“พี่ป้อมช่วยด้วย แป๋มโดนลวนลาม” เสียงร้อนรนที่ดังมาตามสายทำให้ปฐพีที่กำลังจะไปท่องราตรีต่อกับเพื่อนต้องขับรถบึ่งตรงมาหาน้องสาวที่ตอนนี้หนีมารอเขาที่หน้าร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอย

“พี่ป้อม” ปฐมาถลาเข้าไปกอดพี่ชายแน่น น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ก็ไหลทะลักออกมาราวกับทำนบแตก

“ไม่เป็นไรนะ”

ปฐมาส่ายหน้ากับอกกว้างของพี่ชายพลางบอก “แป๋มหนีออกมาได้ทัน”

“ดีแล้ว ไม่ต้องกลัวนะพี่อยู่ทั้งคน” ปฐพีปลอบ ดันร่างน้องสาวออก แล้วเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มอย่างคลายความกังวลลงมาก “ขึ้นรถก่อน ถึงบ้านค่อยคุยกัน” ชายหนุ่มโยกศีรษะได้รูปพร้อมกับยิ้มให้กำลังใจ ปฐมาพยักหน้ารับแล้วเดินอ้อมไปขึ้นนั่งฝั่งข้างคนขับ เธอนั่งเงียบๆ พลางเช็ดน้ำตาไปตลอดทางจนถึงบ้านพักของพี่ชาย

“อะ กินก่อน แล้วเล่ามาซิมามันเกิดอะไรขึ้น” ปฐพีวางแก้วน้ำเย็นๆ ลงบนโต๊ะแล้วทรุดตัวลงนั่งข้างๆ คนเป็นน้องสาว

ปฐมายกน้ำขึ้นดื่มบรรเทาอาการคอแห้ง แล้วเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้พี่ชายฟังคร่าวๆ “อยู่ดีๆ แฟนยายกุ้งก็พยายามดึงแป๋มเข้าไปกอดแล้วบอกว่ารักแป๋ม” พูดจบเธอก็ทำท่าขยะแขยงใช้มือถูบริเวณที่แฟนของเพื่อนจับต้อง

“แล้วเพื่อนเราไปไหน ทำไมปล่อยให้แฟนมาทำเลวๆ อย่างนี้” ปฐพีถามเสียงเข้มอย่างไม่พอใจ

“มันยังไม่เลิกงาน แต่มันบอกให้แฟนมารอที่ห้องก่อน เลยเกิดเรื่อง”

“พรุ่งนี้ไปเก็บของย้ายมาอยู่กับพี่” ปฐพีสั่งโดยไม่คิดจะถามความเห็นจากน้องสาว เพราะถ้าเป็นแบบนี้ ปล่อยไว้ก็จะเป็นอันตรายเปล่าๆ สู้มาอยู่ใกล้หูใกล้ตาเขาดีกว่า

“แล้วเพื่อนพี่ล่ะ” ปฐมาถามอย่างเป็นกังวล เพราะบ้านหลังนี้พี่ชายไม่ได้อยู่คนเดียว แต่อยู่ร่วมกันกับเพื่อนอีกคน แถมเพื่อนคนนั้นก็ยังเป็นเจ้าของบ้านอีกด้วย จู่ๆ จะเอาเธอมาอยู่โดยไม่บอกไม่กล่าวเจ้าของบ้านมันคงจะไม่ได้

“เดี๋ยวพี่คุยเอง ไม่มีปัญหาหรอก แต่ก่อนอยู่กันตั้งห้าหกคน” ปฐพียืนยัน แต่คนเป็นน้องสาวยังคงมองเขาด้วยสายตาเป็นกังวล “ไม่มีปัญหาจริงๆ พี่เอาหัวเป็นประกัน ไปนอนได้แล้วไป นอนห้องพี่ เดี๋ยวพี่ไปนอนห้องเดียวกับพี่ติณณ์ พรุ่งนี้ไปขนของมาก่อนค่อยแยกไปนอนห้องของตัวเอง” ปฐพีจัดแจงให้เสร็จสรรพ เพราะแม้จะมีห้องนอนอยู่สามห้อง แต่หนึ่งห้องที่เหลือมันถูกปล่อยทิ้งไว้แทบจะไม่ได้เข้าไปแตะต้องมันเลยนับตั้งแต่เพื่อนๆ แยกย้ายกันออกไปอยู่กับแฟนบ้าง กับลูกกับเมียบ้าง

“เอาอย่างนั้นก็ได้ค่ะ” ด้วยความที่ตอนนี้เริ่มจะดึกและเธอก็เหนื่อยทั้งจากการทำงานและเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น จึงลุกขึ้นเดินตามพี่ชายขึ้นห้องไปโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ

ในช่วงสายๆ ของวันรุ่งขึ้น ปฐมากับพี่ชายก็กลับไปเก็บของที่ห้องพักเดิม ด้วยความที่เป็นห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์ให้อยู่แล้ว ทำให้สิ่งที่ต้องเก็บจึงมีแค่เสื้อผ้าข้าวกับของส่วนตัวเท่านั้น ไม่ต้องใช้รถใหญ่ในการขนย้าย

เมื่อไปถึงปรากฏว่าห้องถูกล็อกจากด้านในทำให้รู้ว่ามีคนอยู่ ปฐมาจึงเคาะเรียก และทันทีที่เพื่อนร่วมห้องเปิดประตูเธอก็ได้รับการต้อนรับด้วยน้ำเสียงและสีหน้าติดจะมึนตึง

“หายไปไหนมาทั้งคืน”

“ไปนอนที่บ้านพี่ป้อม แล้วนี่ก็ว่าจะมาเก็บของ ฉันจะย้ายไปอยู่กับพี่ป้อมนะ” ปฐมาบอกด้วยสีหน้านิ่งเรียบ ไม่คิดจะเอ่ยถึงเหตุผลที่ย้าย ให้ทุกอย่างมันจบไป แต่เหมือนจะไม่เป็นอย่างนั้น

“ทำความผิดแล้วรีบย้ายหนีเลยนะ แต่ก็ดี ครั้งนี้ฉันจะไม่ถือสา ให้แล้วๆ กันไป”

น้ำเสียงขุ่นเคืองติดจะเย้ยหยันของเพื่อนร่วมห้องทำให้ปฐมากับปฐพีที่กำลังช่วยกันเก็บของหันมามองหญิงสาวเป็นตาเดียวกัน

“เดี๋ยวนะ ฉันทำอะไร ทำไมพูดแบบนี้” ปฐมาถามกลับเสียงเข้ม เธอเป็นผู้เสียหายแต่จากคำพูดของเพื่อนเหมือนเธอเป็นคนกระทำความผิด

“ฉันรู้ว่าตอนนี้เธออดอยากปากแห้ง แต่จำเป็นไหมที่จะต้องอ่อยแฟนเพื่อนในตอนที่เพื่อนไม่อยู่” คนที่คิดว่ากำลังจะโดนแย่งแฟนตะคอกถาม จ้องคนเป็นเพื่อนด้วยสายตาเกลียดชัง

“ใครอ่อยใคร” ปฐมาเดินเข้าไปตะคอกถาม จ้องอีกฝ่ายกลับอย่างเอาเรื่อง

“แกอ่อยพี่วุฒิ เขาไม่เล่นด้วยจนต้องไล่แกออกจากห้อง”

ได้ยินคำตอบ ปฐมาถึงกับยิ้มหยันหัวเราะในลำคออย่างสมเพชไอ้ผู้ชายเฮงซวยหน้าตัวเมีย แล้วย้อนถามอีกฝ่าย “เขาบอกแกอย่างนั้น”

“ใช่”

“แล้วแกก็เชื่อ ถ้าฉันบอกว่าพี่วุฒินั่นแหละที่พยายามลวนลามฉัน แกจะเชื่อไหม” ปฐมาลองถามหยั่งเชิงทั้งที่พอจะเดาได้จากปฏิกิริยาที่แสดงให้เห็นตั้งแต่มาถึงว่าคำตอบที่จะได้กลับมาคืออะไร และมันก็ไม่เกินคาด

“ไม่มีทาง อย่างพี่วุฒิน่ะหรือจะลวนลามแก อย่ามโนไปหน่อยเลย พี่เขาเป็นคนดี ไม่มีทางทำอย่างที่ว่ามาแน่นอน” คนที่เชื่อมั่นในตัวแฟนหนุ่มรีบแก้ต่างแทนอย่างเป็นเดือดเป็นร้อน

“แป๋มเก็บของ ปล่อยให้แม่เพื่อนบ้าผู้ชายของแกไว้อย่างนั้นแหละ เขาจะเข้าใจยังไงก็เรื่องของเขา สักวันก็รู้เอง ว่าคนที่ชอบมโนน่ะคือใคร” ปฐพีรีบห้ามเมื่อเห็นน้องสาวจะต่อปากต่อคำกับเพื่อนต่อ

“จะเก็บอะไรก็เชิญ” เจ้าของห้องบอกเสียงกระแทกกระทั้นแล้วเดินหนีเข้าห้องครัวไป

“เพื่อนแกนี่มันหลงผู้ชายไม่ลืมหูลืมตา อยู่รอดปลอดภัยมาจนทุกวันนี้ก็บุญเท่าไหร่แล้ว” ปฐพีว่าพลางส่ายหน้า เมื่อเห็นพฤติกรรมเพื่อนร่วมห้องของน้องสาว

“กับแฟนคนก่อนๆ ไม่แบบนี้นะพี่ สงสัยคนนี้มันอ้อนเก่ง ที่สำคัญเด็กกว่าตั้งหลายปี งี้แหละมีแฟนเด็ก โดนมันกล่อมซะอยู่หมัด” แม้จะโดนด่ามาหมาดๆ แต่ปฐมาก็ยังไม่วายที่จะแก้ตัวแทนเพื่อนเล็กน้อย

“ไม่ชอบหรือไง เขาว่ากินเด็กเป็นอมตะนะ” ปฐพีกระเซ้าน้องสาวยิ้มๆ

“ไม่อะ ถ้าแนวนี้ต้องยายฟ้าโน้น” ว่าแล้วเธอก็พาดพิงไปถึงเพื่อนสนิทอีกคนที่ชีวิตนี้ไม่คิดจะมองผู้ชายที่อายุมากกว่าเลย มันให้เหตุผลว่า คบเด็กแล้วมันกระชุ่มกระชวยดี

“หรือชอบแนวเดียวกับลดา” ปฐพียังเดาสุ่มสเปกผู้ชายของน้องสาวไม่เลิก

“โนๆๆ นั่นก็เยอะไป” แต่ปฐมาก็รีบส่ายหน้าหวือแทบจะทันที

“เลือกมาก ขึ้นคานแบบนี้ ก็สมควรแล้ว” ชายหนุ่มแอบบ่นอย่างไม่จริงจังนัก

“ไม่รู้อะไรอย่าพูดดีกว่า เก็บของไปเลย” ปฐมาแอบยิ้มเขิน เมื่อนึกไปถึงรุ่นพี่ที่ทำงานคนหนึ่งที่ตัวเองแอบมีใจให้ และจากท่าทีที่อีกฝ่ายแสดงออกมา ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดเขาคงคิดไม่ต่างกันกับเธอ

“พูดแบบนี้แสดงว่ามีแฟนแล้วอะดิ” ปฐพีถลาเข้าไปถามอย่างสนใจ และเมื่อเห็นแก้มที่เริ่มแดงระเรื่อของน้องสาวจึงชี้หน้าและเอ่ยแซว “แน่ะๆ หน้าแดงๆ”

“รีบๆ เลยอย่าพูดมาก” ปฐมาแกล้งทำเสียงเข้มใส่ แก้เขินด้วยการเลิกคุยแล้วเก็บของไปเงียบๆ จนกระทั่งเสร็จ ก่อนไปก็ไม่ลืมที่จะบอกลาอดีตเพื่อนร่วมห้องตามมารยาท

“ไปละนะ”

“อือ”

ปฐมามองท่าทีมึนตึงของอีกฝ่ายแล้วได้แต่ส่ายหน้า ไม่นึกเลยว่าผู้ชายคนหนึ่งที่รู้จักกันได้ไม่นานสามารถทำให้ความสัมพันธ์ของเธอกับเพื่อนที่คบกันมาหลายปีขาดสะบั้นภายในชั่วข้ามขึ้น

“กับเพื่อนคนนี้คบกันมากี่ปีแล้วล่ะทำไมถึงได้เชื่อแฟนมากกว่าเพื่อนนัก” ปฐพีถามน้องสาวอย่างสงสัยขณะเดินมาขึ้นรถ

“ความเสน่หามันต่างกัน ไม่เคยเห็นหรือไง เลิกคบเพื่อนเพราะผู้ชายน่ะ” ปฐมาตอบอย่างปลงตก กับเพื่อนคนนี้แม้จะคบกันมานานตั้งแต่สมัยเรียนมหาลัยรวมแล้วก็หลายปีอยู่ แต่สุดท้ายก็แพ้ผู้ชายที่เพิ่งคบกันได้ไม่กี่เดือน “แล้วนี่พี่บอกเรื่องแป๋มกับเพื่อนยัง ไม่ใช่ไปอยู่แล้วทะเลาะกันนะ” ปฐมาถามไปถึงเรื่องของเพื่อนพี่ชาย ที่เป็นเจ้าของบ้านที่เธอจะย้ายเข้าไปอยู่ร่วมชายคาด้วยอย่างเป็นกังวล

“เพื่อนโว้ยไม่ใช่เมีย” ปฐพีที่เอากระเป๋าไปไว้ท้ายรถตอบกลับเสียงดัง

“เอ้า ก็นึกว่าใช่ เห็นยังไม่มีเมียสักที แม่ก็บ๊นบ่น” ปฐมามองพี่ชายด้วยสายตาล้อเลียน

“คนที่ไม่มีคือพี่ติณณ์ไม่ใช่พี่”

“ว่าแล้วก็จำหน้าเพื่อนคนนี้ของพี่ไม่ค่อยได้เลยอะ” ปฐมาขมวดคิ้วพยายามนึกหน้าตาของอีกฝ่ายเท่าที่จำได้ว่าเคยเจอครั้งแรกและครั้งเดียวก็เมื่อนานมาแล้ว

“หน้าตาไม่น่าจำด้วยมั้ง”