บท
ตั้งค่า

บทที่ 12 สร้างแต่เรื่อง (1)

บทที่ 12

สร้างแต่เรื่อง (1)

“โถ...เจ็บหน่อยนะหนูปลายฝน ดูซิเนี่ยบวมแดงไปหมด แม่นั่นก็ใจร้ายเสียจริง สาดเข้ามาได้นั่นน้ำซุปร้อน ๆ เลยนะ แค่ไล่ออกคงไม่พอแล้วมั้ง!” รินลดาบ่นทั้งที่มือก็ยังคงสาละวนทำแผลทายาให้กับเด็กสาวรุ่นลูกด้วยความเป็นห่วงไม่จางหาย

แม้ว่าจะจัดการกับต้นเหตุของเรื่องแล้วแต่ความคับแค้นใจก็ยังคงมีอยู่ ยิ่งเห็นความเจ็บปวดที่ปรากฏชัดบนร่างกายของคนตรงหน้า ก็ยิ่งทำให้แม่เลี้ยงของไร่กมลเดือดดาลอย่างที่ไม่มีใครเคยเห็น

แม้กระทั่งผู้เป็นสามี...

แม่เลี้ยงของไร่กมลพาปลายฝนมาที่บ้านของตัวเองก่อนจะรีบจัดหาหยูกยาเสียจนวุ่น คนที่เจ็บปวดก็ถึงกับอ้าปากกว้างแต่ก็ไม่กล้าบอกปฏิเสธแม้ว่าที่จริงจะเกรงใจอยู่เต็มอก แค่แม่ของเจ้านายไล่คู่กรณีออกจากงานเธอก็ซาบซึ้งมากพอแล้ว นี่ยังทำท่าเป็นห่วงเป็นใยแถมยังทายาบรรเทาความแสบร้อนให้อีก

ศัตรูอย่างเธอก็ละอายใจเป็นเหมือนกัน

“เอาเถอะ ไล่ออกแล้วก็ถือว่าเรื่องมันจบแล้ว อย่าไปรื้อฟื้นหาเรื่องเขาอีกเลยคะนิ้ง” อธิบดินทร์ที่นั่งมองอยู่ที่โซฟาก็เอ่ยปากขึ้นเป็นเชิงปรามภรรยา แปลกใจอยู่ไม่น้อยที่ย่างก้าวเข้ามาในบ้านก็เห็นภรรยาและผู้ช่วยของลูกนั่งอยู่ด้วยกันกลางบ้าน

พอถามหาคำอธิบายจึงได้ความว่าเมียของเขากลายเป็นแม่เลี้ยงจอมโหดตะเบ็งเสียงคำรามลั่นไร่ พร้อมกับไล่พนักงานสาวออกอย่างที่ไม่มีใครเคยเห็น

แต่เมื่อรู้สาเหตุคนอย่างพ่อเลี้ยงก็อิฐเข้าใจและเห็นด้วยกับวิธีการของรินลดาไม่น้อย การทำร้ายร่างกายกันเกินเหตุเกินควรแบบนี้ไม่ควรปล่อยไว้เฉย ๆ ไล่ออกคือหนทางที่ดีที่สุดกับคนที่ชอบทำตัวกร่าง

“เอ่อคือ...ความจริงแล้วหนูเป็นต้นเหตุเองค่ะแม่เลี้ยง หนูเป็นคนเริ่มก่อนไม่ใช่มัด หนูเป็นคนตบมัดก่อนค่ะ” ปลายฝนเม้มปากแน่นก่อนจะเอ่ยบอกย้ำชัดถึงการกระทำตัวเองอีกครั้ง เธอจำได้ว่าตอนอยู่ที่โรงอาหารเธอพูดสารภาพทุกอย่างไปแล้ว แต่แม่เจ้านายยังคงเป็นห่วงเป็นใยเธอจึงทำให้รู้สึกผิดอยู่ลึก ๆ

ในเมื่อคู่กรณีถูกไล่ออกเพราะทำร้ายร่างกาย ตัวเธอเองก็คงไม่กล้าบากหน้าทำงานต่อเหมือนกัน เพราะเป็นฝ่ายเริ่มใช้กำลังก่อนคนแรก

“หนูขอโทษค่ะ หนูเป็นคนเริ่มก่อนจริง ๆ ค่ะแม่เลี้ยง เรื่องการใช้กำลังนั่น...หนูเป็นคนผลักและตบมัดก่อน” หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอเมื่อสบสายตามองพ่อเลี้ยงและแม่เลี้ยงที่ตอนนี้กำลังจดจ้องมองเธออยู่ใกล้ ๆ “ไล่หนูออกอีกคนเถอะค่ะ หนูยอมรับผิดทุกอย่าง”

“ไม่เอาจ้ะ แม่ลงแม่เลี้ยงอะไร เรียกคุณน้าสิ เราคนกันเองทั้งนั้น”

แต่แล้วสิ่งที่ปลายฝนคาดหวังที่จะได้ยินคำพูดจากปากของรินลดากลับไม่ใช่การต่อว่าหรือการไล่ออก มันเป็นเพียงการตำหนิเล็ก ๆ ที่เธอเรียกอีกฝ่ายด้วยสรรพนามห่างเหินเท่านั้น

“หนู...”

“น้ารู้ว่าหนูเป็นคนตบมัดก่อน น้ารู้จ้ะ...แต่หนูทำไปเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของตัวเองและครอบครัว คนพวกนั้นดูถูกเหยียดหยามหนูก่อน เพราะฉะนั้นหนูปลายฝนไม่ใช่คนผิดเลย” หญิงวัยกลางคนยิ้มน้อย ๆ พลางลูบเบา ๆ ที่เรือนผมนุ่มอย่างนึกเอ็นดู

ทำไมคนอย่างเธอจะไม่รู้เล่าว่าเรื่องมันเกิดขึ้นได้ยังไง หากเป็นการกระทบกระแทกแดกดันด้วยคำพูดหรืออาจจะมีการลงไม้ลงมือกันเล็กน้อยเธอก็ไม่คิดสนใจ แต่นี่กลับมีการสาดน้ำร้อน ๆ ใส่ตัวเกิดขึ้นแม่เลี้ยงอย่างเธอคงใจดีด้วยไม่ไหว

หากแปลกใจที่คนแก่อย่างเธอจะออกโรงเดือดดาลแทนคนรุ่นลูกที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่แข่งของไร่ นั่นก็คงจะเป็นเพราะการเดินทางก่อนจะก้าวข้ามผ่านมายืนถึงจุดนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ภรรยาของพ่อเลี้ยงอิฐเองก็เคยพบเจอกับคำสบประมาทและการถูกเหยียดหยามมาก่อนเหมือนกัน

รินลดายอมไม่ได้เพราะเข้าใจหัวอกของปลายฝนดีว่าคนที่โดนนั้นเจ็บปวดเพียงใด

“ทะ...ทำไมคุณน้าถึงใจดีกับหนูจังเลยคะ”

“น้าเอ็นดูหนูปลายฝนมาตั้งนานแล้ว เราเคยเจอกันมาก่อนนะจ๊ะ แต่หนูปลายฝนคงจำไม่ได้แน่ ๆ” รินลดาบอกอย่างนึกเอ็นดู ในสายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักใคร่ต่อเด็กสาวคนนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel