บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 เธอคนนั้นที่เขา (ไม่) เคยคิดจะรัก

เท้าบางขยับถอยห่างจากผู้ชายทั้งสองคน เธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับพวกเขา...แม้แต่คนที่เกื้อกูลกันมาหลายปี คนที่ธัญรดีคิดว่าสนิทสนมมากกว่าใคร สนิทจนถึงขั้นตกปากรับคำคบหาดูใจกัน หากวินาทีนี้เขากลับเหมือนคนที่เธอไม่รู้จัก

“ผมทำธุรกิจพลาด ผมเลยไปยืมเงินเขามา ผมตั้งใจว่าพอธุรกิจได้กำไรก็จะเอาเงินไปคืน แต่มันบ้ามาก...มันไม่เป็นอย่างที่ผมคิด”

ธัญรดีหันขวับไปมองเจ้าของคำพูดที่ส่ออาการหัวเสีย ดวงตาหวานเจือความประหลาดใจและมีคำถาม

กันต์ปรายตามองหญิงสาวอย่างอัตโนมัติ ก่อนเขาจะเบนสายตามองตามเธอไปยังคนที่เริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ แล้วถามอย่างไม่อ้อมค้อม

“ธุรกิจพนันออนไลน์ใช่ไหมครับ”

แม้น้ำเสียงเรียบเรื่อยคล้ายคนกำลังขี้เกียจ แต่มันกลับทรงอานุภาพนัก เพราะทำให้คนถูกถามถึงกับหน้าถอดสี

“คุณรู้ได้ยังไง?...หรือว่าคุณติดตามผม”

กันต์นึกขันในใจ นัทธีไม่เคยอยู่ในสายตาของเขา เขาไม่สนใจคนคนนี้ แต่เมื่อรู้ว่าเจ้าตัวอยากพบเขาจนถึงขนาดดั้นด้นมาหาถึงกลางทะเล มันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาต้องรู้เรื่องของนัทธีไว้บ้าง

และกันต์ก็คาดไม่ผิด หลังจากที่เขาโทร.ไปหาคนคนหนึ่งที่คร่ำหวอดในวงการธุรกิจสีเทา เขาก็ได้รับความกระจ่าง

‘คุณนัทธีทุ่มหนักครับ คงคิดจะถอนทุนคืน เพราะรอบนี้เขาเสียไปหลายล้าน แต่พอเอาเข้าจริง เขาเป็นคนมีโชคอยู่ไม่น้อย แต่ไม่รู้จักหยุด เพราะต้นปีก่อนเขาโกยไปอื้อซ่าเชียวครับ รอบนี้กลับมาเล่นอีกก็คงมั่นใจว่าจะได้ติดไม้ติดมือเหมือนคราวก่อน แต่โชคไม่เข้าข้าง เขาเสียเงินสัปดาห์เดียวเฉียดล้าน เฮียก็ปล่อยเครดิตต่อจนครบเดือน พอหนี้พอกถึงห้าล้านก็ตัดเครดิต แล้วขีดเส้นตายให้เขาจ่ายเงินคืนภายในเจ็ดวัน...นี่ก็ใกล้จะครบกำหนดแล้วนะครับคุณกันต์’

ดวงหน้าหล่อเหลาอย่างคนมีเลือดผสมตะวันออกและตะวันตกอย่างลงตัวนั้นค่อยๆ ผุดรอยยิ้มออกมา หากดวงตาคู่คมกลับไม่ยิ้มตาม

ธัญรดีมองผู้ชายทั้งสองคนสลับกัน จู่ๆ ก็เกิดอาการอัดแน่นในอก เธออยากไปจากตรงนี้ เพราะตระหนักได้ว่าเวลานี้เธอได้พาตัวเองมาอยู่ในจุดที่ตกต่ำไปแล้ว

“ความจริงสิ่งที่คุณทำไป มันก็ไม่เกี่ยวกับผม และผมก็ไม่ได้นำมาเป็นปัญหากับธุระของคุณในคราวนี้ด้วย แต่อย่างที่บอก...ผมไม่รับขายฝากทรัพย์ชิ้นเล็ก เพราะมันเสียเวลาจัดการ รวมถึงผมไม่ชอบทำอะไรเร่งรีบด้วย อย่างน้อยผมควรให้คนเข้าไปประเมินบ้านของคุณก่อน ก่อนที่จะจ่ายเงินตามที่คุณเรียกร้องเพื่อแลกกับกระดาษในมือของคุณ”

กันต์ยังวางท่าทีสบายๆ ท่ามกลางสถานการณ์ที่แสนอึดอัดใจของคนอีกสองคน เขาไม่คิดจะทุกข์ร้อนไปกับภาวะบีบเค้นของนัทธี และไม่มีความเห็นใจกับชะตากรรมของธัญรดี...ผู้หญิงที่มักทำท่าไม่อยากเข้าใกล้เขาอย่างคงเส้นคงวา แม้แต่ในเวลานี้

ดวงตาคมเหลือบมองคนตัวบางที่กำลังยืนเบียดจนแทบจะกลายเป็นเนื้อเดียวกับผนังของโถงเรือ มองท่าทางของเธอแล้วอดขำไม่ได้ นี่ถ้าไม่ติดว่าตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ในเรือสำราญที่ลอยลำอยู่กลางทะเล มีหวังคงเห็นเจ้าหล่อนวิ่งหนีหัวซุนเหมือนที่เคยทำมาแล้วอย่างแน่นอน

แล้วเหตุการณ์คราวเลี้ยงฉลองงานแต่งงานของเพื่อนรุ่นพี่ในคณะเมื่อสี่ปีก่อนก็ย้อนเข้ามาในหัว

‘ฝากไปส่งหนูดีด้วยนะกันต์ ต้องส่งให้ถึงบ้านด้วยนะ ความจริงแพทก็ไม่อยากกวนหรอก เพราะเกรงใจกันต์ แต่แพทต้องไปสมทบกับคุณพ่อคุณแม่ที่เขาใหญ่ตอนนี้แล้ว’

พิรฎากำชับเขาหลังจากที่ทั้งสามคนลงมาจากห้องจัดเลี้ยงในโรงแรมด้วยกัน หากดูเหมือนว่าสิ่งที่เธอบอกให้เขาทำนั้น ผู้หญิงอีกคนจะไม่รู้มาก่อน เพราะแค่สิ้นคำพูด เธอคนนั้นก็รีบบอกเสียงตระหนก

‘แพท! ไม่ต้องให้ใครไปส่ง หนูดีกลับเองได้ รถไฟฟ้าอยู่แค่ตรงนี้เอง’

ไม่เพียงแค่ปฏิเสธน้ำใจเพื่อนของเธอ แต่ธัญรดียังไม่ไว้หน้าเขาอีกด้วย

‘รถไฟฟ้าไปถึงบ้านหนูดีเสียที่ไหนล่ะ เดี๋ยวหนูดีก็ต้องต่อรถแท็กซี่อีก ขึ้นลงรถหลายต่อมันสนุกตรงไหน แล้ววันนี้หนูดีก็สวยจนแทบจำไม่ได้ด้วย แพทไม่เอาด้วยหรอก แพทไม่ให้หนูดีกลับบ้านเอง มันอันตรายเกินไป แพทไม่ไว้ใจใคร ให้กันต์ไปส่งนั่นแหละดีแล้ว’

เขาได้แต่ยืนกอดอกอิงประตูรถมองสองสาวอย่างขันๆ เพราะคนหนึ่งนั้นพยายามให้เหตุผลกึ่งบังคับ ขณะที่อีกคนได้แต่อึกอัก ทำท่าเหมือนอยากกระโดดหนีท่าเดียว

และแค่พริบตาเดียว เมื่อพิรฎาผละมาหาเขา เขาจำไม่ได้ว่าเพื่อนสาวพูดอะไรบ้าง แต่ที่ยังจดจำได้แม่นยำในเวลานั้น นั่นก็คือแค่คล้อยหลังพิรฎา ธัญรดีก็ทำให้เขาต้องหน้าเหวอ

‘เดี๋ยว! คุณจะไปไหน’

เขาตะโกนถามไล่หลังคนในชุดราตรีสีน้ำเงินเข้มที่จ้ำเท้าจากไปอย่างรวดเร็ว ได้แต่มองตามเธอจนลับสายตาด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย…และนั่นก็เป็นครั้งสุดท้ายที่เขาเจอเธอ

สายตาคมกวาดมองทั่วร่างของหญิงสาวอย่างลืมตัว...ธัญรดีแปลกไปจากเดิม แวบแรกที่เห็นเธอตอนเรือเร็วแล่นมาเทียบเรือสำราญ กันต์ต้องมองอยู่ตั้งนานกว่าจะรู้ว่าเป็นเธอ

“คุณกันต์บอกว่าจะรอดูพระอาทิตย์ตกดิน”

เสียงดังแทรกจังหวะความคิด...กันต์เก็บอาการอย่างหนัก เพราะกลัวจะถูกจับได้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

“ผมบอกคุณแล้วว่าไม่สนใจบ้านของคุณ รับมาก็เป็นภาระของผม” เสียงทุ้มเรียบนิ่งยืนยันความตั้งใจเดิม ก่อนเขาจะเดินออกจากโถงเรือไปด้านนอก

คนยื่นข้อเสนอมองตามร่างสูงเพรียวแข็งแรงด้วยมัดกล้ามอย่างนึกอิจฉาครามครัน และขณะนี้เขาคลายความกดดันจนแทบหมดสิ้นแล้ว

แววเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นในดวงตาหลังกรอบแว่นเลนส์ใส ก่อนเจ้าตัวจะก้าวเท้าตามเจ้าของเรือออกไป โดยทิ้งให้หญิงสาวที่พามาด้วยนั้นอยู่ในโถงด้านในตามลำพัง

“หนูดีเป็นแฟนผม”

มือแข็งแรงของคนที่กำลังยกกระป๋องเบียร์ขึ้นดื่มนั้นต้องชะงัก ดวงตาคมหรี่ลงขณะรอคำพูดต่อมาของแขกไม่ได้รับเชิญ

“ผมรู้ว่าคุณรู้จักแฟนผมมาก่อน”

“คุณมีอะไรจะพูดก็พูดมา”

กันต์สวนกลับเสียงเรียบ ทั้งที่ข้างในกำลังเดือดจัดจนนึกอยากคว้าร่างของนัทธีทุ่มลงทะเลให้รู้แล้วรู้รอด

“ผมจะกลับไปคนเดียว”

“หมายความว่ายังไง”

แม้จะคาดเดาความคิดของอีกฝ่ายไว้แล้ว แต่พอได้ยินเจ้าตัวพูดออกจากปาก ความโกรธที่ทนข่มไว้ก็พุ่งออกมาอย่างไม่อาจระงับ

นัทธีถอยหลังไปสองก้าว เมื่อเจ้าของเรือสำราญหันขวับมาหาทั้งตัวด้วยท่าทางส่งสัญญาณอันตรายอย่างชัดเจน...แต่เขาเลิกล้มความคิดไม่ได้ เพราะเขาไม่อาจกลับไปมือเปล่า

“หนูดีจะอยู่เป็นเพื่อนคุณดูพระอาทิตย์ตกดิน และจะอยู่ต่ออีกกี่คืนก็ได้ ผมไม่เกี่ยง แล้วแต่ความพอใจของคุณ”

“คุณนี่มัน...” หน้าตาของกันต์แดงก่ำด้วยความโมโห จนนัทธีต้องรีบถอยเพื่อให้พ้นรัศมีอันตรายเท่าที่พื้นที่ท้ายเรือจะอำนวย

“คนเป็นแฟนกันก็ต้องช่วยกัน หนูดีช่วยผมมาตลอด เธอใจดีและมีน้ำใจกับผมเสมอ”

“เพราะเธอใจดีกับคุณ คุณก็เลยตอบแทนเธอด้วยวิธีนี้”

“มันไม่ได้เสียหายอะไร”

ความอดทนหมดสิ้นลงแล้ว มือแข็งแรงกระชากคอเสื้อเชิ้ตของคนเจ้าเล่ห์ใจคด แล้วเค้นเสียงห้าวออกมา

“คุณมันชั่วได้ใจจริงๆ ยังมีหน้ามาบอกว่าเธอไม่เสียหาย เธอเป็นแฟนของคุณ คุณมีหน้าที่ปกป้องดูแลเธอ ไม่ใช่พาเธอมาเสนอใครต่อใครแบบนี้”

นัทธีปัดมือของกันต์ออกแรงๆ อย่างให้รู้ว่าตนไม่ชอบที่ถูกปฏิบัติแบบนี้ เขากล้า...เพราะรู้ว่าสถานการณ์ยามนี้ตนถือไพ่เหนือกว่า

“ตามที่คุณเข้าใจนั่นแหละครับ แต่ถ้าคุณไม่สนใจก็แค่บอกกันดีๆ ไม่เห็นต้องใช้กำลังกับผมเลย ผมจะได้หาทางออกอื่นต่อไป ผมเชื่อว่าทางออกดีๆ กำลังรอผมอยู่ เพราะหนูดีสวย เธอสวยกว่าเมื่อก่อนมาก คุณก็เห็นกับตาแล้วนี่...และเธอก็เต็มใจช่วยผมทุกทีที่ผมเดือดร้อน”

ประโยคท้ายนั้นเจ้าตัวหาญกล้ายื่นหน้าไปใกล้คนกำลังโกรธจัด แล้วบอกด้วยเสียงเบาลง

อำนาจต่อรองกลับมาอยู่ในมือเขา นัทธีคิดอย่างลำพองใจ เขามั่นใจว่ากันต์ไม่มีวันปล่อยให้ข้อเสนอแสนหวานนี้หลุดไปอยู่ในมือของคนอื่นอย่างแน่นอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel