บทย่อ
ต้องรักที่ถูกพี่ชายข้างบ้านอย่างเผด็จตัดเยื่อใยแบบไม่รู้เหตุผลจำต้องย้ายบ้าน และหลายปีต่อมาได้ย้ายกลับมาที่บ้านหลังเดิมอีกครั้ง คิดว่าอาจจะลืมพี่ชายข้างบ้านนี้ไปแล้ว ทว่าการได้กลับมาเจอกันอีกครั้งเขายังทำให้หัวใจเต้นรัว อีกทั้งความน่ารักของน้องพรีมหนูน้อยลูกสาวของเผด็จก็น่ารักเสียจนทำให้เธออดใจไม่ได้ที่จะเอาตัวเข้าไปเกี่ยวข้องกับสองพ่อลูกนี้อีกครั้ง “ทำไมพี่เผด็จต้องทำกับต้องแบบนี้ด้วย” “ก็เพราะรักไง มองไม่ออก ?” เผด็จเอียงหน้าถามอย่างงง ๆ เอาจริง ๆ เขาแสดงออกขนาดนี้ ถึงไม่พูดคนทั่วไปก็น่าจะรู้แล้วนะว่ามันคือการมีใจ “ก็พอรู้ แต่ไม่อยากขี้ตู่ไปเอง ไม่อยากอกหักรอบสาม” ต้องรักบอกเสียงเง้างอด “คิดเองเออเองทั้งนั้น แค่รอบเดียวพี่ก็จะใจขาดอยู่แล้ว รักแทบตายแต่อยู่ด้วยกันไม่ได้ พี่ไม่เอาแล้วนะ” เผด็จบอกก่อนจะกอดกระชับร่างบอบบางพร้อมกับซบศีรษะลงที่ไหล่เล็กนั้นอย่างออดอ้อน “ต้องเองก็ไม่ต่างกันหรอก มันเจ็บและทรมานมาก ๆ เลย พี่อย่าทิ้งต้องไปไหนอีกนะคะ”
ตอนที่ 1 พี่ชายข้างบ้าน (1)
ตอนที่ 1
พี่ชายข้างบ้าน
“พี่เผด็จกลับมาแล้ว” เสียงเล็ก ๆ จากเด็กน้อยผมเปียที่วิ่งเล่นอยู่กับคนเป็นแม่ตะโกนขึ้นอย่างดีใจ เมื่อเห็นพี่ชายข้างบ้านในชุดนักเรียนมัธยมต้นเดินเข้าบ้าน “พี่เผด็จเลิกเรียนแล้วเหรอคะ”
“เลิกแล้ว หือ” เด็กหนุ่มเลิกคิ้ว ก่อนจะเปิดยิ้ม ยื่นมือข้ามรั้วยกร่างเล็กของเด็กน้อยมาฝั่งบ้านของตัวเอง
“กวนพี่เขาอีกแล้วนะ ให้พี่เผด็จทำการบ้านก่อนค่อยไปเล่น” รดานันท์ติงลูกสาวตัวน้อยที่ติดพี่ชายข้างบ้านเอามาก ๆ เรียกได้ว่าถ้าอีกฝ่ายอยู่บ้านละก็เดินตามต้อย ๆ ทั้งวัน
“ไม่เป็นไรครับ น้องน่ารัก” เผด็จมองเด็กน้อยที่ตอนนี้เกาะเขาแจส่ายศีรษะไปมาเมื่อคนเป็นแม่ยื่นมือมารับ
“รบกวนอีกแล้ว เดี๋ยวเตรียมขนมไปให้นะจ๊ะ”
“ขอบคุณครับ”
“ห้ามกวนพี่เขาทำการบ้านนะ” รดานันท์กำชับลูกสาวที่ไม่ยอมห่างเด็กหนุ่มเลย แม้แต่คนเป็นแม่อย่างเธอยังไม่สามารถแยกตัวออกได้
“ค่ะ หนูจะเป็นเด็กดี” เด็กน้อยรับคำแล้วให้เผด็จเดินจูงมือเข้าไปในบ้าน รดานันท์มองตามแล้วได้แต่ส่ายหน้าก่อนจะเดินกลับเข้าไปในบ้านเพื่อเตรียมของว่างไปให้ลูกสาวและเด็กหนุ่มเป็นการตอบแทน
“สวัสดีครับกลับมาแล้ว” เผด็จยกมือไหว้คนเป็นแม่ที่ทำงานอยู่ในครัว
“สวัสดีจ้า อะ...อ้าว...” พรสุนีติ์นิ่งไปครู่หนึ่งเมื่อหันไปเจอเด็กน้อยหน้าตาน่ารัก เธอเม้มปากแน่นปรายตามองความน่ารักนั้นด้วยสายตาเคลือบแคลง อยากหมางเมินแต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้
“เด็กหลงเก็บมาด้วยครับ” เผด็จบอกพลางยกมือโยกศีรษะได้รูปของเด็กน้อยอย่างเอ็นดู
“สวัสดีค่ะคุณน้า หนูขอมาเล่นกับพี่เผด็จได้ไหมคะ” เด็กน้อยยกมือไหว้แล้วถามผู้สูงวัยด้วยน้ำเสียงและสีหน้าใสซื่อไร้เดียงสา
“ได้สิจ๊ะ” พรสุนีติ์ถอนหายใจแล้วเปิดยิ้มให้กับเด็กน้อยอย่างเอ็นดู
“ขอบคุณค่ะ”
“ผมขอไปทำการบ้านก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวแม่เอาขนมไปให้นะ”
“ไม่เป็นไรครับ น้ารดาบอกว่าจะเอาให้เหมือนกัน เดี๋ยวผมจะมาเอาแค่น้ำไปเองครับ แม่ทำงานไปเถอะ” เผด็จเดินจูงมือเด็กน้อยไปที่ห้องนั่งเล่น เขาวางกระเป๋าและเอาของเล่นที่เขาซื้อมาเก็บไว้ให้เจ้าตัวโดยเฉพาะ ให้เด็กน้อยได้เล่นระหว่างที่เขานั่งทำงาน และมันได้ผลดีที่เดียว “นั่งเล่นรอพี่ไปก่อนนะ เดี๋ยวไปเอาน้ำมาให้กิน”
“หนูขอน้ำแดงนะคะ” เด็กน้อยร้องขอโดยที่สายตาไม่ได้ละจากของเล่นตรงหน้า
“กินเยอะไม่ดีนะ” เผด็จหันมาเตือนเด็กน้อยยิ้ม ๆ
“หนูไม่ได้กินเยอะนะคะ วันนี้ยังไม่ได้กินเลยค่ะ” หนูน้อยต้องรักบอกเสียงแผ่ว เอียงหน้ามองพี่ชายใจดีแล้วเปิดยิ้มกว้าง เห็นแล้วมีหรือเผด็จจะใจแข็งอยู่ได้
“โอเค แค่แก้วเดียวนะ”
“ขอบคุณค่ะ” เด็กน้อยตอบรับอย่างดีใจ ก่อนจะหันไปสนใจของเล่นตรงหน้าต่อ ที่มีทั้งตุ๊กตาและขอเล่นบทบาทสมมุติหลายอย่าง ซึ่งเยอะไม่แพ้ที่บ้านเลย
“สวัสดีค่ะ รบกวนด้วยนะคะ” รดานันท์เดินเข้าในบ้านพร้อมกับถาดขนมและที่แบ่งใส่ถุงสำหรับเอามาฝากเจ้าของบ้านอีกส่วนหนึ่ง “อันนี้ฝากให้คุณ...โอ๊ะ มาพอดี” เธอที่กำลังจะฝากไว้กับเผด็จแต่เห็นพรสุนีติ์เดินออกมาจากครัวพอดี จึงลุกขึ้นเดินเอาไปให้อีกฝ่ายเองกับมือ “นี่ขนมค่ะคุณพร คุณเมธีกลับมาจากต่างจังหวัดเลยซื้อมาฝาก อร่อยนะคะ ของขึ้นชื่อเลยค่ะ”
“ขอบคุณมากค่ะ รบกวนตลอดเลย” พรสุนีติ์บอกอย่างเกรงใจ มองเพื่อนสาวที่หน้าตาสะสวยตรงหน้าแล้วหันไปมองเด็กน้อยหน้าตาน่ารักที่มีเค้าโครงที่จะสวยไม่ต่างกับคนเป็นแม่แล้วถอนหายใจ
“ทางนี้ต่างหากที่รบกวน ดูสิ ยัยหนูติดตาเผด็จแจเชียว” รดานันท์เดินตามเจ้าของบ้านไปนั่งที่โซฟาพลางมองลูกสาวตัวน้อยที่เล่นไปคุยกับพี่ชายข้างบ้านไปโดยไม่คิดจะสนใจคนเป็นแม่อย่างเธอเลยยิ้ม ๆ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แกไม่ได้ดื้ออะไร น่ารักมาก ๆ ด้วย ตาเผด็จเองก็ติดน้อง เลิกเรียนไม่เถลไถลไปไหนกลับบ้านตรงเวลาทุกวัน” พรสุนีติ์มองเด็กทั้งสองคนอย่างเอ็นดู หากแต่เจือไปด้วยความกังวลเล็กน้อย “แล้ววันนี้คุณเมธีกลับดึกหรือเปล่าคะ”
“ดึกเหมือนเคยค่ะ” รดานันท์บอกอย่างเป็นเรื่องปกติ แต่เธอก็เข้าใจ เพราะที่สามีทำงานหนักทุกวันนี้ก็เพื่อเธอและลูก ก่อนจะถามถึงสามีของอีกฝ่าย “อ้าวแล้วคุณพิทล่ะคะ”
“เหมือนกันค่ะ งั้นเย็นนี้มากินข้าวด้วยกันสิคะ” พรสุนีติ์ชวนแต่ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะทันได้ตอบ หนูน้อยที่นั่งเล่นอยู่ไม่ไกลก็พูดแทรกขึ้น
“หนูจะกินข้าวกับพี่เผด็จค่ะ” เด็กน้อยหันมามองผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยสายตาเป็นประกาย ก่อนจะหันไปมองอ้อนพี่ชายที่นั่งทำการบ้านอยู่
“หูดีเชียว ถามพี่เขาก่อนดีไหมว่าจะให้เรากินด้วยหรือเปล่า”
“ต้องขอกินข้าวด้วยคนได้ไหมคะ” คราวนี้ไม่เพียงแค่ถาม แต่หนูน้อยต้องรักคลานขึ้นไปนั่งตักเด็กหนุ่มพร้อมกับมองอีกฝ่ายด้วยสายตาออดอ้อน เผด็จมองแล้วอดที่จะขำไม่ได้ ยกร่างเล็กที่ตอนนี้เขาแทบจะอุ้มไม่ไหวแล้วลงจากตักก่อน เพราะโต๊ะที่เขานั่งมันแคบเมื่อโดนเบียดก็ทำเอาเขาแทบหงายหลัง
“ได้สิ ต้องอยากกินอะไรล่ะ”
“ไข่เจียวค่ะ” ต้องรักตอบเสียงใส
“ได้เดี๋ยวพี่ทำให้กิน”
“เย้...” เด็กน้อยชูแขนขึ้นพร้อมกับกระโดดโลดเต้น ก่อนจะโผเข้าไปกอดพี่ชายข้างบ้านอย่างดีใจ “รักพี่เผด็จที่สุดในโลกเลย”
“แล้วแม่ล่ะจ๊ะ” รดานันท์แกล้งทักท้วงยิ้ม ๆ