ดื่มไวน์ด้วยกันไหมครับ 1
"คุณคะคุณ คุณคะ” บุณณดาร้องเรียกคนที่ช่วยเธอไว้จากผู้ชายหน้าม่อ สองขาสั้นๆ รีบเร่งเดินเข้ามาหาชายที่หมายปองตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ ไม่รู้เพราะชอบจนหน้ามืดตามัวหรือเพราะสมองมีแอลกอฮอล์ควบคุมถึงได้ใจกล้าวิ่งตามผู้ชายออกมาแบบนี้ แต่จะอะไรก็ช่าง เธอไม่สนใจ สิ่งที่สนใจคือชายตรงหน้า
“ว่าไงครับ” คนถูกเรียกหันกลับมามองพร้อมทั้งส่งยิ้มให้อย่างผู้ชายอัธยาศัยดี ที่รับประทานผู้หญิงเป็นอาหาร
“เมื่อกี้ฉันลืมขอบคุณคุณค่ะ พอดียังเอ๋อๆ อยู่ก็เลยคิดไม่ทัน” ชายหนุ่มโปรยยิ้มทรงเสน่ห์ให้อย่างตั้งใจ พลางพยักหน้ารับ
เขาจะรู้ไหมว่ารอยยิ้มของเขากำลังจะทำให้คนมึนเมาหลอมละลายกลายเป็นเถ้าธุลีอยู่ตรงนี้ หล่อ ละมุน กระชากใจ ชวนหวั่นไหว อยากจะยื่นมือเข้าไปจับใบหน้าหล่อเหลานั้นไว้ และโน้มลำคอแกร่งลงมาจูบสักที
เย็นไว้ต้องเย็นใจ หายใจเข้าลึกๆ อย่าวู่วาม อย่าวู่วาม
“ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่...คุณไม่ถูกผู้ชายคนนั้นทำร้ายใช่ไหมครับ”
“ไม่ค่ะ”
“งั้นก็ดีแล้วครับ ต่อไปก็อย่าซ่าแบบเมื่อกี้อีกนะ มันอันตรายเกินไปรู้หรือเปล่า ยิ่งมาคนเดียวยิ่งต้องระวัง ผู้ชายสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้ ยิ่งในสถานที่แบบนี้ยิ่งไม่ได้เลยครับ”
“แล้วคุณไว้ใจได้ไหมคะ...อุ๊ป!!” บุณณดายกมือขึ้นมาตะครุบปากตัวเองแทบไม่ทัน ดวงตากลมโตเบิกกว้างด้วยความอาย เมื่อเผลอพูดตามจิตใต้สำนึกของตัวเองออกไป
ส่วนคนถูกถามเลิกคิ้วเข้มขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มของเสือร้ายชวนละลายปรากฏชัดบนใบหน้า เมื่อพินิจคนตรงหน้าอย่างถี่ถ้วน พบว่าหญิงสาวตรงหน้านั้นสวยสะดุดตา ไหนจะรูปร่างอรชรที่ซ่อนอยู่ภายใต้ชุดรัดรูปสีดำนี่อีกล่ะ ช่างน่าค้นหาเสียจริง จะได้ไหมนะ ถ้าเขาอยากจะพาเธอไปพิสูจน์ความจริง
“ถ้าคุณอยากรู้ว่าผมไว้ใจได้ไหม ก็คงต้องลองพิสูจน์ดูเองนะครับ” เพราะแอลกอฮอล์เริ่มครอบคลุมสติมากไปกว่าครึ่ง หรือเพราะกำลังถูกท้าทายและเชิญชวนอยู่ในที บุณณดาจึงลืมหมดสิ้น ว่าชายตรงหน้าที่เธอเคยเจอวันนั้นมากับผู้หญิงและอาจจะเป็นแฟนของเขาก็เป็นได้
ร่างบางเดินเข้ามาใกล้ หยุดยืนอยู่ตรงหน้า นิ้วเรียวจิ้มจงบนแผ่นอกกว้างผ่านเสื้อยืดสีดำธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เพราะแค่มองผ่านๆ ก็รู้ว่าราคาของเสื้อตัวนี้เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
“แล้วต้องพิสูจน์แบบไหนคะ ถึงจะรู้ว่าไว้ใจได้หรือไม่ได้” คนถูกถามเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ สายตาคมทอดมองหญิงสาวทอประกายระยิบระยับดุจดวงดาวนับร้อยอยู่ในนั้น ใช้นิ้วชี้ม้วนผมของหญิงสาวเล่น
“พิสูจน์แบบตัวต่อตัว เสี่ยงหน่อย แต่ผมว่าคุ้ม” ใบหน้าสวยพยักหน้ารับ วางฝ่ามือลงบนแผ่นอกกว้างที่แน่นเปรียะด้วยมัดกล้าม เลื่อนขึ้นมาโอบรอบลำคอแกร่ง ช้อนสายตาขึ้นมองโดยไม่รู้เลยว่าตัวเองได้เผลอแสดงกิริยาท่าทางยั่วยวนออกไป ให้เสือตรงหน้าอยากขย้ำมากแค่ไหน
“ฉันจะเสียเปรียบไหม จะขาดทุนหรือเปล่า” คนถูกถามหัวเราะขบขัน นี่เขากำลังคุยกับหญิงสาวนักเที่ยว หรือคุยกับนักธุรกิจกันแน่ ถึงได้คำนึงถึงเรื่องขาดทุนหรือได้กำไร
“ผมจะทำให้คุณเต็มอิ่ม เกินคำว่าได้กำไรอีกครับ”
“แล้วคนของคุณ”
“มีแค่ผมกับคุณ ไม่มีใครทั้งนั้น” มือหนาประคองใบหน้าสวยใช้หัวแม่มือเกลี่ยแก้มใส
บุณณดากลืนน้ำลายอึกใหญ่ กับรอยยิ้มมุมปากดูมีเสน่ห์ของเขา นัยน์ตาคมทอประกายแพรวพราวระยิบระยับดั่งดวงดาวทอแสงบนนภาที่มืดสนิท ช่างน่าหลงใหลเหลือเกิน เหมือนตัวเองกำลังหลงระเริงกับอะไรบางอย่างที่หาทางออกไม่เจอ มีแต่อยากเดินเข้าไปหาตามคำเชิญชวนของเขา
ลืม...ลืมว่านี่คือสิ่งที่เธอไม่ควรกระทำมากที่สุด ที่มายืนพูดคุยกับชายแปลกหน้า แต่ทำไมหัวใจกลับสั่งสมองว่าเขาสามารถไว้ใจได้ เธอสามารถไว้ใจและฝากชีวิตไว้กับผู้ชายคนนี้ได้ ทั้งที่เพิ่งเจอกันแค่สองครั้งเท่านั้น ทำไมเธอถึงไม่กลัวเขา ทำไมเธอถึงไม่ขยะแขยงเขาเหมือนขยะเเขยงผู้ชายคนนั้น แต่กลับอยากให้เขาอยู่ใกล้แบบนี้
นี่มันอะไรกัน...
“ผมเพิ่งได้ไวน์มาจากฝรั่งเศส คุณสนใจอยากลองชิมดูไหม”
“ที่ห้องคุณ?” ถามหยั่งเชิงออกไป
“ไวน์อยู่ในรถ คุณอยากชิมที่ไหนได้ทั้งนั้น ห้องคุณเป็นไง เพื่อความสบายใจของคุณ”
“คิดอะไรไม่ดีกับฉันหรือเปล่า”
“ก็คุณน่าคิด หรือว่าคุณไม่สะดวกให้ผมคิดก็ไม่เป็นไร สวยแบบคุณคงมีแฟนแล้วแน่ๆ ก็ดีเหมือนกัน ผมยังไม่อยากกินบาทาใครตอนนี้ งั้นขอตัวนะครับ” ผละตัวออกห่างโค้งศีรษะให้บุณณดาเล็กน้อยและส่งยิ้มให้ จากนั้นก็หมุนตัวเดินไปยังรถของตัวเอง
โดยมีคนที่บอกว่าตัวเองมีแฟนมองตามหลังไปอย่างชั่งใจว่าจะเอายังไงต่อดี ปล่อยไปไหมหรือว่ายื้อเวลาดีๆ แบบนี้ให้อยู่ต่อ
“ฉันไม่มีแฟน” เสียงร้องตะโกนตามหลังมาทำให้เท้าของชายหนุ่มชะงักลง ร่างสูงหมุนตัวกลับมาหาเจ้าของประโยคด้วยรอยยิ้มดีใจ
“ฉันอยากกินไวน์ที่โรงแรมวิรชัชกุล คุณจะว่ายังไง” ชื่อโรงแรมที่หญิงสาวเอ่ยออกมาเรียกให้คิ้วเข้มขมวดเข้ากันเล็กน้อย โรงแรมดังระดับห้าดาวเสียด้วย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้คัดค้านอะไรออกไป
“ได้ครับ”
“ขอไปรถคุณได้ไหม ฉันดื่มไปตอนนี้เริ่มมึนๆ ไม่อยากขับรถ” ไม่รู้ว่าจะเป็นการอ่อยเบอร์แรงไปไหม แต่ปากเจ้ากรรมก็ดันไวกว่าสมองที่คิดอะไรไม่ค่อยออก ทำให้พูดอะไรแบบนั้นออกไป
“ได้ครับ” มือหนายื่นมาตรงหน้า พลางส่งยิ้มบางให้บุณณดา มีหรือที่บุณณดาจะปฏิเสธได้ลง วางมือลงบนฝ่ามืออบอุ่นให้ชายหนุ่มจับเดินไปยังรถ
การได้เดินเคียงคู่ไปกับใครสักคน ได้มีใครสักคนจับมือเดินไปแบบนี้ มันให้ความรู้สึกดีแบบนี้นี่เอง มันอบอุ่นแบบนี้นี่เอง
ยังไม่ทันไร ความเพ้อฝันก็เข้ามาแทรกซึมในความคิดเสียแล้ว ช่างเป็นอะไรที่บ้าสิ้นดี