บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 7 | ดอกไม้สำหรับคนหล่อ

โรงพยาบาล วรเชษ

เยว่ซินอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวทำจากผ้าไหมอิตาลี ด้านนอกสวมทับด้วยเสื้อสายเดี่ยวครอปสีดำอย่างเรียบหรูดูดี ส่วนท่อนล่างเป็นกระโปรงทรงเอสีฟ้าสั้นเลยเข่า สาวเท้าเดินบนรองเท้าผ้าใบสีขาว ไปที่เคาน์เตอร์พยาบาลพร้อมกับ อาหารในถุงกระดาษ และ ช่อดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่ในมือทั้งสองข้าง

“สวัสดีค่ะ ไม่ทราบว่าหมอธามไทอยู่ในห้องตรวจไหมคะ?” ริมฝีปากอวบอิ่มส่งยิ้มใจดีให้พยาบาลสาวหน้าเคาน์เตอร์ แต่หล่อนกลับมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างไร้มารยาท

แพรเบ้ปากคิดในใจ นี่น่ะเหรอคู่หมั้นหมอธามไท ทั้งเตี้ย ทั้งอ้วน หน้าตาก็ติดลบ หึ ก่อนจะเอ่ยตอบออกไป “ไม่อยู่ คุณมีธุระอะไรกับหมอธามเหรอคะ”

“ไปไหน?” เยว่ซินถามกลับน้ำเสียงห้วน ๆ รู้สึกไม่พอใจกับสายตาที่พยาบาลสาวมองมาอย่างดูถูกเมื่อสักครู่

“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ”

“อยู่หน้าห้องเจ้านาย แต่ไม่รู้หมายความว่ายังไง?”

“ดิฉันเพิ่งมาเข้าเวรค่ะ”

เยว่ซินชักสีหน้ากัดฟันดังกรอดพลางถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่อย่างพยายามระงับอารมณ์ เพราะท่าทางน่าหมั่นไส้ของพยาบาลสาว

ยัยนี่! วอนจริง ๆ

“หมอธามอยู่ไหน?” เยว่ซินกดเสียงต่ำถามอีกครั้ง บ่งบอกถึงอารมณ์ที่กักเก็บไว้ใกล้ปะทุออกมาทุกที หากพยาบาลสาวไม่ตอบคำถาม

แพรยังตีหน้าซื่อ แม้จะถูกสายตาของเยว่ซินมองมาอย่างกดดันก็ตาม

“ว่ายังไงคะ?”

“น้องเยว่ซิน” เสียงขานเรียกของใครบางคนดึงสายตาเยว่ซินให้หันไปมอง ร่างสูงเจ้าของใบหน้าหล่อ ตาคม ผิวขาว อยู่ในชุดกาวแพทย์ที่เดินมาหยุดยืนตรงหน้า เธอรู้สึกคุ้นตา แต่นึกไม่ออกว่าเคยเจอกันที่ไหน

“มาหาไอ้ธามเหรอครับ”

“ค่ะ ว่าแต่พี่คือ…”

“ชาญครับ”

เยว่ซินทำสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะนึกออกในเวลาต่อมา “อ๋อค่ะ ไม่ได้เจอกันนาน ซินหลงลืมไปบ้าง ไม่โกรธกันนะคะ”

“ครับ มาหาไอ้ธามสินะครับ”

“ค่ะ พี่ชาญพอจะทราบไหมคะ ว่าพี่ธามอยู่ไหน ซินถามพยาบาลคนนี้แล้วแต่เธอบอกไม่รู้” สิ่งที่เยว่ซินกำลังฟ้องหมอหนุ่มแผนกอายุรกรรม ทำเอาแพรหน้าเจื่อนไปทันที เธอโกหกเพราะไม่อยากให้ผู้หญิงรูปร่างอวบอ้วน ไร้เสน่ห์ เจอกับหมอหนุ่มเจ้าของโรงพยาบาล แม้ว่าทั้งสองจะเป็นคู่หมั้นกันก็ตามแต่

“แพรเพิ่งนึกออกค่ะ แล้วก็กำลังจะบอกคุณผู้หญิงคนนี้ค่ะ แต่คุณหมอชาญเข้ามาซะก่อน”

“แก้ตัวหน้าด้าน ๆ เลยนะคะ”

เยว่ซินตอบโต้ไปตรง ๆ ทำเอาทั้งแพรและชาญอึ้งไปไม่น้อย โดยเฉพาะแพรที่หน้าเสียไปเลย

….

“ไอ้ธามมันตรงเวลา เดี๋ยวเที่ยงก็ปล่อยนักศึกษาแล้วล่ะ”

“ค่ะ”

“นั่นไง นักศึกษาเริ่มทยอยกันออกมาจากห้องแล้ว”

เยว่ซินหยุดเดินตามชาญพลางหันมองนิ้วยาวชี้ไปตรงหน้า เหล่าบรรดานักศึกษาแพทย์ปีสี่ต่างพากันเดินออกมาจากห้องเรียนของตึกโรงพยาบาล

“ไปกันครับ”

เยว่ซินพยักหน้ารับ จากนั้นจึงเดินไปพร้อมกัน

“พี่หมอ” เยว่ซินฉีกยิ้มกว้างสดใสจนตาหยี เมื่อได้เห็นใบหน้าหล่อคุ้นเคยที่อยากพบเจอมากที่สุด เธอวิ่งพรวดเข้าไปหาด้วยความดีใจ จนลืมคนที่พามาไปชั่วขณะ

ส่วนธามไทขมวดคิ้วยุ่งมองชาญอย่างคาดโทษ ที่พาเธอคนนี้มา ชาญที่รู้ความหมายก็ไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ

“ซินเอาข้าวเที่ยงมาให้ แล้วก็นี่ค่ะ ดอกไม้สำหรับคนหล่อของซิน” ประโยคเอาใจแกมหยอดของหญิงสาว สองหนุ่มถึงกับมองตากันอย่างมีความคิดเห็นตรงกัน

“รีบรับไว้สิวะไอ้หมอ” ชาญเร่งเร้าหวังแกล้งธามไท เพราะสังเกตเห็นท่าทีของเพื่อนแล้วดูไม่ชอบใจสักเท่าไหร่ ที่คู่หมั้นสาวมาเยือนถึงที่ ธามไทตวัดสายตามองเพื่อนสนิทอย่างก่นด่าทางสายตา

“เอาเวลานี้ไปทำประโยชน์อย่างอื่น ดีกว่ามาตามตอแยฉันนะ มันน่ารำคาญ”

“คำพูดคำจาฟังแล้วเจ็บจังเลยนะคะ แต่ว่าซินไม่ถือสาหรอกค่ะ แล้วซินก็ไม่อยากทำอะไรที่มีประโยชน์ด้วย อยากเจอพี่หมอสุดหล่อมากกว่า” ขยิบตาให้คนพี่หนึ่งทีอย่างผู้ชนะ

“ตอกกลับไอ้หมอยิ้มยากได้เยี่ยมเลยครับ” ชาญปรบมือเข้าข้างเยว่ซินอย่างต้องการกลั่นแกล้งธามไท ที่ถูกคู่หมั้นสวนกลับไปอย่างกวนประสาท จนใบหน้าหล่อ ๆ ฉายแววหงุดหงิดอย่างเปิดเผย

เยว่ซินหันไปส่งยิ้มให้ชาญอย่างขอบคุณ แล้วหันไปยักคิ้วให้คู่หมั้นหนุ่ม ธามไทถึงกับถอนหายใจยาว ๆ แล้วก้าวขายาวเดินผ่านทั้งคู่ไปอย่างหงุดหงิด

“เดี๋ยวสิพี่หมอยังไม่รับของจากซินเลยนะ” เยว่ซินส่งเสียงโวยวาย พร้อมทั้งรีบวิ่งตามธามไทไป

ชาญคลี่ยิ้มพลางส่ายหน้าไปมา แล้วเดินตามทั้งคู่ออกจากห้องสี่เหลี่ยม

“ซินทำสเต๊กปลาแซลมอน น้ำผักผลไม้สกัดเย็นที่พี่ชอบมาให้แล้วนะคะ ไม่เห็นจำเป็นต้องซื้ออาหารเพิ่มเลย”

ธามไทถอนหายใจออกมาอีกครั้ง เมื่อเยว่ซินเดินตามมาถึงโรงอาหารพูดแจ๋น ๆ อยู่ข้างตัว ในขณะที่กำลังต่อแถวซื้ออาหาร จนตกเป็นเป้าสายตาของคนรอบข้าง

“ถ้าไอ้หมอไม่กินให้พี่กินแทนก็ได้นะครับน้องเยว่ซิน” ชาญที่ยืนต่อแถวอยู่ด้านหลังธามไทก็เอ่ยขึ้นเสนอตัวอย่างทีเล่นทีจริง

“ขอโทษนะคะพี่ชาญ แต่ซินทำมาให้พี่หมอกินคนเดียวน่ะค่ะ” เยว่ซินปฏิเสธออกไปตรง ๆ ทำเอาชาญหน้าแตกเป็นเสี่ยง ๆ จนแทบไปต่อไม่ถูก ไม่คิดว่าหญิงสาวเจ้าของใบหน้ากลม แต่น่ารักจะเลือดเย็นได้ถึงเพียงนี้ ที่จริงในประโยคไม่จำเป็นต้องมีคำขอโทษก็ได้

“อ่อ คะ..ครับ ผมรู้อยู่แล้วน่ะครับ แค่แหย่เล่นเฉย ๆ”

“ไปค่ะพี่หมอ ไม่ต้องซื้อหรอก” เยว่ซินส่งยิ้มให้ชาญอย่างขอไปที ก่อนจะดึงท่อนแขนแกร่งธามไทเร้า ๆ ให้เดินตามไปที่โต๊ะอาหารอย่างถือวิสาสะ จนคนถูกบังคับทั้งรู้สึกรำคาญทั้งโมโหแทบเก็บอารมณ์ไม่อยู่

“เร็วสิพี่หมอ อ๊ะ!” ใบหน้าน่ารักบิดเบ้ทันควัน เมื่อข้อมือเล็กถูกมือใหญ่ของคู่หมั้นบีบรัดแน่น ก่อนจะใช้แรงที่มีมากกว่าดึงมือเธอออกจากท่อนแขนแกร่งอย่างไม่ไยดี แล้วรีบสาวเท้าเดินหนีไปทันที โดยไม่พูดอะไร

“จิ๊! อย่าบอกนะว่าจะยอมอดข้าว เพื่อหนีซินอะ” เยว่ซิน บ่นอุบอิบเบา ๆ ให้ได้ยินคนเดียว แล้วถอนหายใจฟึดฟัดเมื่อไม่ได้ดั่งใจ ก่อนจะเดินกระทืบเท้าออกจากโรงอาหารของโรงพยาบาล โดยมีสายตาของชาญมองตามหลังไป

“คู่นี้ดูท่าคงลงเอยกันยาก” ชาญส่ายหน้าไปมาสองสามที แล้วระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ ก่อนจะสั่งอาหารกับแม่ครัว เมื่อถึงคิวตัวเอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel