ตอนที่ 5 | มายังไงก็กลับอย่างนั้น
“กลับไปได้แล้ว” ธามไทที่ได้ปากกาคืนและกำลังจะลงมือทำงานต่อ หลังจากกินสเต๊กปลาแซลมอนที่รสชาติพอใช้จนหมด ไม่น่าเชื่อว่าเธอเป็นคนลงมือทำเอง แต่เธอกลับเอาแต่นั่งจ้องหน้าไม่ยอมลุกจากเก้าอี้ไปไหน
“ไม่ได้เอารถมาค่ะ รอกลับพร้อมพี่หมอ”
“ฉันไม่ว่าง มายังไงก็กลับอย่างงั้น”
“ไม่เอาหรอก เดี๋ยวเจอแท็กซี่ขี้โกงอีก” ทำหน้ามุ่ยกอดอก คิดถึงเรื่องตอนเย็นแล้วก็โมโห ส่วนธามไทหม่นคิ้วเป็นปมสงสัยแต่ไม่ได้ถามรายละเอียดต่อจากนั้น
“ฉันไม่ได้ขอให้เธอมา เพราะฉะนั้นหาทางกลับเอง”
“แต่ซินบอกแม่แล้วว่าพี่จะเป็นคนไปส่งซินถึงที่บ้านเองค่ะ” หมัดมือชกซะเลยโทษฐานไม่รับโทรศัพท์และอ่านไลน์แล้วไม่ตอบกลับ
“เห็นฉันว่างขนาดนั้นเลยหรือไง คิดจะให้ทำอะไรตามใจก็ได้อย่างนั้นเหรอ” น้ำเสียงเข้มเอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจ ส่งผลต่อหัวใจเยว่ซินทันที จู่ ๆ เธอก็รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“กะ…ก็รอให้พี่หมอเลิกงานก่อนยังไงล่ะคะ ซินไม่ได้รีบซะหน่อย”
ลมหายใจของคนพี่ถูกพ่นออกมาหนัก ๆ บ่งบอกถึงความเบื่อหน่าย แววตาเย็นชาที่มองมาเต็มไปด้วยความรำคาญ เธอมองออก ร่างสูงหยัดกายลุกขึ้นจากเก้าอี้พลางหยิบแฟ้มเอกสารติดมือ
“ไปไหนคะ?” ใบหน้าน่ารักแก้มป่องราวกับลูกซาลาเปาเงยขึ้นมองเจ้าของใบหน้าหล่อ ทว่ากลับไร้ซึ่งคำตอบจากร่างสูง ขาวยาวก้าวเดินออกจากโต๊ะทำงาน ตรงไปยังประตูทางออก
“เดี๋ยว ๆ ซินไปด้วยสิ” เยว่ซินรีบลุกขึ้นเดินตามไปอ้าแขนขวางหน้าคู่หมั้นหนุ่ม ธามไทถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่อีกครั้ง
“รออยู่เนี่ยแหละ”
“บอกก่อนว่าจะไปไหน?”
“ไปทำงาน”
“ที่ไหน?”
ธามไทระบายลมหายใจออกมาเบา ๆ อย่างรำคาญ แต่ก็ยอมตอบ “ห้องฉุกเฉิน”
“อ๋อ งั้นที่ให้ซินรอที่นี่ แปลว่ายอมไปส่งซินแล้วใช่ไหม?”
ธามไทมองใบหน้ากลมคล้ายลูกซาลาเปานิ่ง ๆ ก่อนจะเบี่ยงเท้าเดินออกจากห้องตรวจ โดยไม่ให้คำตอบกับคนตัวเล็ก
“เฮ้อ~” เยว่ซินถอนหายใจออกมาเสียงดัง หลังจากที่บานประตูห้องตรวจปิดสนิท เธอหันหลังเดินไปนั่งบนโซฟาตัวยาว พลางหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูบนโต๊ะกระจกขึ้นมาเล่นฆ่าเวลาด้วยท่าทางที่ค่อนข้างสบายใจ แต่ก็ไม่เชิง เธอมั่นใจว่าคนพี่ไม่ได้โกหก เพราะเขาเกลียดการโกหกจะตาย
“…”
เยว่ซินอยู่ในห้องทำงานของธามไทราว ๆสองชั่วโมง เธอทั้งเล่นโทรศัพท์ ทั้งเดินดูนู่นนี่นั่นแก้เบื่อ และ นั่งดูซีรี่ย์จนแบตเตอรี่หมด ทว่ากลับยังไร้วี่แววของคนพี่ ทั้งที่ตอนนี้ถึงเวลาเลิกเวรแล้ว
“งานยังไม่เสร็จอีกหรือไง” ก้มหน้ามองเข็มนาฬิการาคาแพงบนข้อมือเป็นครั้งที่สาม เข็มสั้นชี้เลขเก้า เข็มยาวชี้เลขหก บ่งบอกถึงเวลาสามทุ่มครึ่ง เลทมาประมาณสามสิบนาที
หญิงสาวจิ๊ปากขึ้นพลางทำสีหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะผุดตัวลุกขึ้น มือเล็กคว้ากระเป๋าสะพายข้างเดินออกจากห้องตรวจอย่างไม่ทนรออีกต่อไป
“ขอโทษนะคะ ถ้าจะขอพบหมอธามไท ที่อยู่ในห้องฉุกเฉินได้ไหมคะ?” เยว่ซินเดินมาถามพยาบาลสาวในเคาน์เตอร์หน้าห้องฉุกเฉิน
“ผ.อ.กลับไปตั้งแต่สามทุ่มแล้วค่ะ”
“กลับไปแล้ว!” เปล่งเสียงดังออกไปอย่างลืมตัว เมื่อถูกทิ้ง ความเชื่อใจที่มีต่อคู่หมั้นหนุ่มพังทลายลงในพริบตาเดียว เขาหลอกให้เธอรอ แต่สุดท้ายก็หนีกลับไปอย่างไม่ไยดี
น่าเจ็บใจชะมัดเธอน่าจะเอะใจตั้งแต่แรก
“...”
ซ่า ~
ครึ้ง! ครึ้ง!
หญิงสาวร่างอวบอั๋นใบหน้ามุ่ยเดินออกจากลิฟต์ของโรงพยาบาลมายังทางออก พบว่าฝนกระหน่ำตกหนัก เสียงฟ้าร้องดังเป็นระยะ ๆ ฟ้าแลบค่อนข้างถี่จนน่ากลัว
“จะตกทำไมตอนนี้เนี่ย” เยว่ซินเดินออกมาหน้าโรงพยาบาลพลางถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่อย่างหงุดหงิด
พรึ่บ!
ฟ้าแลบจนภายนอกที่มืดแต่ไม่สนิทสว่างจ้า พลอยทำให้เยว่ซินตกใจ รีบยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดหูพลางหลับตาปี๋ เพราะรู้ว่าเสียงฟ้าร้องต้องดังตามมาอย่างแน่นอน ซึ่งเป็นดั่งที่คาดเดาไม่มีผิด
ครึ้ง!!!!!
เสียงฟ้าร้องดังสนั่นราวกับสายฟ้าฟาดกับอะไรบางอย่าง
คอนโด ธามไท
“จิ๊!” หมอหนุ่มส่งเสียงในปากอย่างหงุดหงิด เมื่อในหัวเอาแต่คิดเรื่องอื่น ตั้งแต่กลับมาจากโรงพยาบาลกระทั่งอาบน้ำเสร็จมานั่งทำงานที่ค้าง แต่กลับไม่มีสมาธิทำงานเลยแม้แต่น้อย
พ่นลมหายใจออกมาหนัก ๆ แล้ววางปากกา หยัดกายลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินไปเปิดตู้เย็น หยิบขวดน้ำเปล่าขึ้นมาเปิดดื่มจนหมด หวังให้จิตใจสงบลงบ้าง แต่กลับไม่ช่วยอะไรเลย จึงตัดสินใจเดินเข้าห้องนอนเพื่อพักสายตา ทว่าทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ
“อะไรกันนักหนาวะ!” หมอหนุ่มดันตัวลุกขึ้นเปิดไฟหัวนอน ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูบนโต๊ะข้างเตียงเพื่อต่อสายหาใครบางคน
คิ้วหนาทั้งสองข้างชนกัน เมื่อได้รับคำตอบจากพยาบาลสาว นัยน์ตาคมกริบกรอกไปมองนาฬิกาแขวนผนัง พบว่าอีกสิบห้านาทีจะเที่ยงคืน หนำซ้ำตอนนี้ฝนยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดตก
“จะนอนที่นั่งเลยหรือไง” นิ้วแกร่งกดวางสายพลางถอนหายใจ วันนี้ถอนหายใจจนนับไม่ถ้วน
@โรงพยาบาล วรเซษฐี
แกรก
ประตูห้องตรวจถูกผลักเข้ามา พลันดึงความสนใจเยว่ซินที่ดูซีรี่ย์จีนในจอคอมพิวเตอร์ตรงโต๊ะทำงานของธามไท กำลังฟินไปกับพระเอกและนางเอก ต้องปรายตาไปมองร่างสูงอยู่ในชุดลำลองเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสีดำราคาแพงราวกับนักศึกษา
“เอ้า!พี่ธาม…กว่าจะมาได้ ชินรอตั้งนานแหนะ” ใบหน้าใสซื่อของหญิงสาว รวมถึงซองช็อกโกแลตที่ถูกแกะกินวางเกลื่อนบนโต๊ะทำงาน สร้างความหงุดหงิดใจให้หมอหนุ่มเป็นอย่างมาก
“ใครอนุญาตให้เธอใช้คอมฉัน”
“ก็อนุญาตตัวเองสิคะ โทรศัพท์ซินแบตหมด ฝนก็ตก ฟ้าก็ร้อง ไม่รู้จะทำอะไร ก็เลยนั่งดูซีรี่ย์ซะเลย”
“โรงพยาบาลนะไม่ใช่บ้าน”
“ใครบอกให้พี่ทิ้งซินเองล่ะ คนโกหก! ไหนบอกเกลียดคนโกหกนักหนาไง แต่ตัวเองกลับทำซะเอง”
“ฉันไม่ได้โกหก”
“โกหก!” เยว่ซินผุดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้เท้าสะเอวเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยเถียงอย่างไม่ยอม
“ฉันไม่เคยตกลงที่จะไปส่งเธอ”
“คนหัวหมอ!”
“พอ! จะกลับไหมบ้าน”
“ดึกแล้วอะ นอนที่คอนโดพี่หมอสุดหล่อดีไหมน่า~” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนริมฝีปากอวบอิ่ม พลันทำให้หมอหนุ่มรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดที่กลับมาพาตัวเธอไปส่งที่บ้าน
“จะอยู่ต่อที่นี่ก็ตามใจ” ว่าจบธามไทหมุนตัวเดินไปเปิดประตูทันที
“รอซินด้วยสิ!” เยว่ซินรีบปิดคอมพิวเตอร์ เก็บซองช็อกโกแลตทิ้งถังขยะ เร่งฝีเท้าตามธามไทออกไปอย่างไม่โอ้เอ้…