บทที่ 8
ภาพที่น้ำทิพย์กำลังกินอาหารและหยอกล้อกับใครอีกคน ใครอีกคนที่ว่าถ้าเป็นเพื่อน ๆ ของเธอผมจะไม่อะไรเลย แต่ภาพที่ผมเห็นตรงหน้ามันคือผู้ชาย!
ผมควรรู้สึกยังไง ดีใจเหรอที่แฟนตัวเองติดต่อไม่ได้แล้วยังมากินข้าวกับผู้ชายคนอื่น ขอโทษนะครับ ผมไม่ได้พ่อพระขนาดนั้น...
ผมตัดสินใจเดินเข้าไปหาทั้งสอง โดยมีน้องดาเดินตามอยู่ข้างหลัง
กึก!
“ไง ติดต่อไม่ได้ แต่มานั่งกินข้าวกับผู้ชายคนอื่นเนี่ยนะ” ผมพูดพร้อมกับมองหน้าเธออย่างโกรธ ๆ
“แล้วยังไง” เธอพูดเสียงเรียบก่อนจะมองหน้าผม
“เหอะ ทิพย์ มันไม่ควรรึเปล่าวะ เธอมีแฟนอยู่แล้วนะเว้ย”
“มีแฟน? เหอะ ถ้ามีแล้วเหมือนไม่มีก็อย่ามีมันเลยดีกว่า”
“หมายความว่ายังไง” เธอไม่ตอบผม แต่เลือกที่จะไปคุยกับไอ้หน้าขาวนั่น เรียกเช็กบิลก่อนที่ทั้งคู่จะพยายามเดินออกไป
แต่จังหวะที่เธอจะเดินผ่านผมไปนั้น สายตาเธอก็เหลือบไปเห็นน้องดาเข้าซะก่อน เธอหันมายิ้มเยาะเย้ยใส่ผมนิดหน่อยแล้วรีบเดินผละไป แต่มีหรือผมจะยอม
ผมรีบก้าวเดินตามคนทั้งสอง จนเราทั้งสี่คนมาหยุดอยู่ที่ลานจอดรถ ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าความบังเอิญหรือว่าอะไร เพราะรถผมกับรถไอ้หน้าขาวนั่นมันจอดอยู่ข้างกันพอดีเลย!
“ทิพย์ คุยกันให้รู้เรื่อง”
“ไม่มีเรื่องอะไรจะคุย” เธอพูดพร้อมกับมองหน้าผมด้วยสายตาท้าทาย อารมณ์ที่ร้อนอยู่แล้วของผมยิ่งร้อนขึ้นไปอีก
“ที่หายไป คือไปอยู่กับมันมาสินะ” ผมรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นแบบนั้นแต่ปากผมก็ยังพูดออกไปอยู่ดี
เพียะ!
“อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะเหมือนตัวเอง” ทันทีที่ผมพูดจบเธอก็ตวัดฝ่ามือตบลงบนหน้าผมอย่างแรง
“แล้วถ้าไม่ให้คิดแบบนี้จะให้คิดไงวะ ก็เห็นอยู่ว่าเธออยู่กับมัน ติดต่อก็ไม่ได้ ไปหาก็ไม่เจอ ถามจริงเถอะที่เธอระแวงฉันกับน้องดาอย่างนั้นอย่างนี้ก็เพราะแบบนี้ใช่ไหม” ผมพูดด้วยความโมโห
“แบบไหน” น้ำทิพย์ก็ตอบผมกลับด้วยความโมโหไม่แพ้กัน ส่วนน้องดากับไอ้หน้าขาวนั่นผมไม่สนใจมากนักว่าจะคิดอะไร เพราะตอนนี้สิ่งที่ผมสนใจคือเคลียร์กับเธอให้รู้เรื่อง!
“ก็แบบนี้ไง มีคนอื่น เลยคิดว่าฉันจะเป็นเหมือนเธอทั้ง ๆ ที่ฉันย้ำแล้วย้ำอีกว่าฉันกับน้องดาเป็นแค่พี่น้องกัน”
“เฮ้ย! มากไปปะวะ เห็นแค่นี้ก็คิดว่าฉันจะเป็นแบบนั้นไปแล้วเหรอ คิดว่าฉันง่ายมากสินะ”
“...” ผมไม่ตอบอะไร เพราะผมเองก็ตกใจกับคำพูดของตัวเองมากเหมือนกัน
“เหอะ ถามจริงเถอะตลอดเวลาที่คบกัน นายไม่รู้จักฉันจริง ๆ เหรอเหนือนที แล้วก็นะ พี่น้องบ้าอะไรวะจะไปรับไปส่งพาไปซื้อของ เทนัดแฟนแล้วไปอยู่กับคนที่เรียกว่าน้องสาว แบบนี้มันไม่เรียกว่าน้องแล้ว เอ็นดูหรือจะดูเอ็นกันแน่ ไงล่ะเด็ดพอไหม”
“น้ำทิพย์!” ผมตะคอกชื่อเธอออกมาด้วยความไม่พอใจ เพราะแรก ๆ เธอพูดกับผม ก่อนจะส่งสายตาและคำพูดถากถางไปหาน้องดาที่ตอนนี้ยืนน้ำตาคลออยู่
“ฉันไม่เคยทำอะไรแบบนั้น”
“อ๋อ... เหรอ”
“...”
“งั้นตอบฉันหน่อยสิเหนือนที ว่าพี่น้องบ้านไหนเขาจูบกัน”
“...”
“ตอบไม่ได้ใช่ไหมล่ะ หึ” ใช่ ผมตอบเธอไม่ได้ เพราะวันนั้นผมเป็นคนดึงน้องดาเข้ามาจูบเอง แต่นั่นก็เพราะต้องการประชดเธอทั้งนั้น
“พี่ทิพย์คะ น้องดากับพี่นะ..”
“ฉันไม่ใช่พี่เธอ ไม่ต้องมาสะเออะเรียก”
น้องดายังพูดไม่ทันจบประโยคน้ำทิพย์ก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน ทำให้จากตอนแรกที่น้องดาน้ำตาคลอ ตอนนี้ยืนร้องไห้แล้ว
“พูดกับน้องมันดี ๆ หน่อยทิพย์ น้องมันยังเด็ก”
“ผมว่าคุณควรเข้าข้างคนที่คุณเรียกว่าแฟนมากกว่าน้องนะครับ”
“เสือกอะไรด้วย” ผมหันไปต่อว่าไอ้หน้าขาวทันทีที่มันเอ่ยปาก และนั่นทำให้น้ำทิพย์ตวัดสายตามองผมด้วยความไม่พอใจ
เราสองคนยืนจ้องตากันแต่ไม่มีใครพูดอะไร
“ฮึก คุณทิพย์คะน้องดาขอโทษถ้าทำให้คุณทิพย์เข้าใจผิด แต่น้องดากับพี่เหนือไม่มีอะไรกันจริง ๆ นะคะ”
“โอ๊ย ตอแหลเก่ง! นี่ ถามจริงเถอะนะ ไม่เหนื่อยเหรอ แอ๊บเก่ง ดรามาเก่ง เล่นละครเก่ง ปรบมือ”
แปะ แปะ แปะ
น้ำทิพย์พูดพร้อมกับปรบมือไปด้วย ผมมองการกระทำของเธอด้วยความผิดหวัง ไม่คิดเลยว่าเธอจะเป็นคนแบบนี้
“เลิกด่าว่าน้องดาและฉันสักทีทิพย์ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน”
“ฮะ ฮะ ฮะ หมดความอดทน? กล้าพูดเนอะ คนที่ต้องพูดประโยคนั้นคือฉันนี่ คืออีน้ำทิพย์คนนี้!” เธอพูดพร้อมกับชี้นิ้วเข้าหาอกตัวเอง สายตาที่เธอมองมาที่ผมมันเต็มไปด้วยความเสียใจ ผิดหวัง
“ทิพย์ใจเย็น”
“ไม่เย็นมันแล้วค่ะพี่วี ทิพย์ทนมานานเกินพอละ ถ้ามันจะแตกก็ให้มันแตกหักกันไปวันนี้แหละ ทิพย์เหนื่อย!” เธอพูดกับไอ้หน้าขาวที่ชื่อวีพร้อมกับมองหน้าผม สายตาของเธอเต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวจนผมรู้สึกหวั่นใจ
“นายจำวันที่นายขอฉันเป็นแฟนได้ไหมเหนือนที นายพูดว่าอะไร นายบอกว่าจะทำให้ฉันมีความสุข จะไม่เห็นใครสำคัญไปกว่าฉัน แล้วนี่อะไร ตอบสิ ตอบ!!”
เธอพูดด้วยความโมโห เสียงของเธอทั้งสั่นทั้งดัง ผมก้มหน้าหลบสายตาเธอ เพราะผมตอบเธอไม่ได้เนื่องจากผมเคยพูดไว้แบบนั้นจริง ๆ
“ตอบไม่ได้ใช่ไหมล่ะ หึ! ฉันเชื่อใจนายมาตลอดจนกระทั่งมันเข้ามา” เธอพูดพร้อมกับมองไปที่น้องดา
“ฉันกับน้องดาไม่..”
“พอ! เลิกพูดว่าไม่ได้เป็นอะไรกันสักที ปากนายพูดว่าไม่แต่การกระทำไม่ใช่ นายอาจไม่รู้ตัวแต่ไม่ใช่กับฉัน มันไม่เหมือนเดิมเว้ย นายไม่เหมือนเดิม”
“ทิพย์” ผมเรียกชื่อเธอเสียงอ่อย เพราะตอนนี้เธอพูดพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมา
“ฉันเชื่อใจนายแต่นายไม่เคยเชื่อใจฉัน ตลอดเวลาที่เราคบกัน ไม่มีเลยสักนิดที่นายจะนึกถึงความรู้สึกฉันเลยเหนือนที คนรอมันเหนื่อยนะเว้ย แล้วฉันก็อึดอัดมากด้วย” ผมมองดูเธอเงียบ ๆ ใจก็อยากเข้าไปปลอบแต่ขากับก้าวไม่ออก ได้แต่ยืนมองเธออยู่ในอ้อมกอดของใครอีกคนอยู่แบบนั้น
“นายกับฉันทะเลาะกันบ่อยขึ้นตั้งแต่เด็กดารินนี่เข้ามา ลองคิดดูเหนือนทีว่าเราคุยกันเรื่องนี้ไปมากเท่าไหร่” มันก็จริงของเธอ ระยะหลังเราทะเลาะกันบ่อยขึ้นด้วยเรื่องเดิม ๆ ที่เกี่ยวกับน้องดา
“บอกตรง ๆ นะ ฉันว่าเราตกลงคบกันเร็วเกินไป เราควรพอแค่นี้เถอะ พักไว้แค่ตรงนี้ อย่าฝืนอีกเลย”
“ไม่นะน้ำทิพย์ เธอเป็นแฟนฉัน เป็นผู้หญิงคนเดียวที่ได้สถานะนั้น”
“ถ้ามีสถานะแฟนแล้วนายไม่ได้ใส่ใจดูแลมัน ฉันว่าฉันไม่ต้องการว่ะ หึ อยากได้มากใช่ไหม ฉันยกให้!”
“ฉันเป็นคน เธอไม่มีสิทธิ์ยกฉันให้ใครนะน้ำทิพย์ อ้อ ที่พยายามพูดมาทั้งหมดทั้งมวลเนี่ย เพราะเธออยากไปเริ่มต้นใหม่กับมันใช่ไหม” ผมพูดออกมาด้วยความโมโห เธอพูดออกมาได้ยังไงว่าจะยกผมให้คนอื่น
“จะใช่หรือไม่มันก็เรื่องของฉัน!”
“...” แล้วก็เกิดความเงียบขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่ผมจะเจ็บจนจุกในประโยคต่อมา
“เลิกกันเถอะ ไม่อยากคบกับควาย!”
ไม่มีแม้แต่น้ำตา ไม่มีแม้แต่สายตาของความอาลัยอาวรณ์ เสียงเรียบ ๆ ติดจะเย็นชาของน้ำทิพย์พูดมันออกมาจนทำให้ผมเจ็บไปทั้งหัวใจ ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะดึงรั้งเธอไว้ให้ฟังที่ผมจะพูด
ทำได้เพียงมองตามแผ่นหลังบางที่เดินหันหลังไปกับผู้ชายที่ชื่อวีนั้นอย่างหมดแรง เธอจากผมไปแล้ว...
เจ็บจนอยากจะร้องไห้ แต่ทำได้แค่กลืนก้อนสะอื้นลงคอไปเท่านั้น ยิ่งมองตามรถที่ขับออกไปไกลเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ผมรู้ว่านับจากวันนี้ผมคงไม่มีเธอมาคอยกอด มาคอยอ้อนผมอีกแล้ว ไม่มี...