**บทที่ 2**
**บทที่ 2**
“เป็นไงเฮีย เรียบร้อยดีไหมครับ”
“อืม ส่งสัญญาเช่าไปให้ลูกค้าด่วนด้วย”
“ครับ แล้ววันนี้ไม่ไปสนามแข่งหรอเฮีย”
“ไป… แต่ตอนนี้กูหมดอารมณ์แล้ว เพราะมึง ทำให้กูเสียเวลา มึงดูเวลาจะไปห่าอะไรตอนนี้ เซ็งวะ เอาเหล้ามาดิ” ผมทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาตัวใหญ่ก่อนจะยกขาพาดลงไปบนโต๊ะกระจกที่ตั้งเข้าชุดกัน
“ผมขอโทษคราบบบบ” เนมลากเสียงยาว ก่อนจะรินเหล้าใส่แก้วให้ผม ที่เปรียบเสมือนพี่ชายของเขา เพราะเนมอยู่กับผมมานาน เราจึงเหมือนคนในครอบครัว
“แล้วไอ้โตมันจะกลับตอนไหน”
“พรุ่งนี้ก็กลับมาแล้วครับ”
“ทำไมวันนี้ร้านเงียบจังวะ”
“ไม่ให้เงียบได้ไงครับ วันนี้ตำรวจลงเลยปิดร้าน สายเพิ่งเข้ามาบอกผมก่อนหน้าที่เฮียจะเข้ามานี่เอง” เนมรายงานสถาณการณ์ให้ผมฟัง เมื่อหลีเลี่ยงไม่ได้ก็คงต้องทำตามกฏ เหตุการณ์แบบนี้ก็ไม่ได้มีบ่อยมากนัก
“มีแต่เรื่อง กูกลับก่อนแล้วกัน ถ้าไม่มีอะไรมึงก็กลับไปพักผ่อน อย่าลืมสัญญาเช่าของลูกค้าล่ะ” ผมยกแก้วเหล้าขึ้นกระดกรวดเดียว ก่อนจะเดินออกจากห้องมา ก้าวเดินตรงมายังรถที่จอดอยู่หลังร้านที่เป็นโรงจอดรถส่วนบุคคล หยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบจนหมดม้วนก่อนจะขับรถออกไป ใบหน้าสวยของหญิงสาวที่เจอเมื่อ 2 ชั่วโมงที่แล้ว ยังปรากฏชัดเจน แม่ง!! ทำไมต้องคิดถึงด้วยว่ะ ผู้หญิงก็เหมือนกันหมดหน้าสวยแต่ใจทราม!!
@ สองอาทิตย์ผ่านไป
“คริส แกเป็นไรว่ะ ยังไม่ลืมเรื่องนั้นอีกหรอ เห็นนั่งเหม่อนานแล้วนะ” ใบบัวเพื่อนสาวคนสนิทของฉัน ในกลุ่มสาวสวยสามคน รวมทั้งทอฝัน พวกเราทั้งสามสาวนัดกันทานข้าวร้านอาหารติดแม่น้ำเจ้าพระยา ในช่วงค่ำของวันแรกที่กลับมาถึงเมืองไทย
“ก็มีคิดบ้างสิคะ ใครจะไปลืมได้ลงว่ะ”
“ลืมๆ มันไปเถอะ อะไรไม่ดี ผู้ชายมีเกลื่อน หน้าอย่างแกหาเอาสักร้อยคนยังได้” ทอฝันพูดขึ้น เมื่อเธอเห็นฉันนั่งหน้าอมทุกข์
“บางครั้งคนที่ใช่อาจหายากมากนะแก ฉันอยากเจอแบบ เห็นปุ๊บแล้วตกหลุมรักทันทีจะมีไหมแกว่า”
“นี่ยังไม่ตื่นสินะ ยัยบัว ตบกระบาลมันสักหน่อย เผื่อสติมันจะกลับมาเหมือนเดิม”
“อยู่เป็นโสดก็ดีนะแก เหมือนฉันกับยัยฝันไง”ใบบัวเอ่ยขึ้น
“แล้วใครบอกว่าฉันจะมีแฟนละ แค่รักแรกของฉันก็เต็มกลืนแล้ววะ วันที่อกหักอยากเมาแต่กลับกินเหล้าไม่ได้ เบื่อตัวเอง” ฉันพูดออกมาอย่างเซ็งเล็กน้อย
“สรุปเราสามคนโสด แล้วจะรออะไรละว่าป่ะ” ทอฝันหันมาสบตากับใบบัว
“จัดไป ฉันไม่ได้ไปที่นั่นนานแล้ว ยัยคริสจะได้ไปเปิดหูเปิดตาด้วย” ใบบัวกล่าว “กินข้าวได้แล้ว ฉันอุตส่าห์มีเวลาว่าง”
การสนทนาหยุดเพียงเท่านั้น ฉันหันมาสนใจอาหารตรงหน้า เลิกคิดถึงความรักที่จบลงอย่างไม่สวยงาม
ฉันใช้ชีวิตด้วยตัวเองตั้งแต่จบ ม.ปลาย พ่อกับแม่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ฉันเริ่มทำงาน ทำทุกอย่างที่ได้เงิน แต่โชคยังเข้าข้างฉันอยู่บ้างเมื่อพ่อกับแม่ที่จากไปได้มอบใบหน้าอันสวยงามมาให้ ความสวยของฉันดึงดูดผู้ชายมากมายเข้ามาหา รวมทั้งแฟนคนแรกที่เป็นรักครั้งแรก เขาช่วยเหลือฉันทุกอย่าง จากที่แค่ชอบในความดีของเขา พอนานเข้า มันทำให้ฉันหลงรักเขาในที่สุด
ครอบครัวของชายหนุ่มเป็นคนจีน เขาเชื่อฟังพ่อกับแม่เป็นอย่างมาก เธอยังจำได้ดีวันที่แฟนหนุ่มพาเธอไปเปิดตัวที่บ้าน ทุกคนต่างมีสีหน้าไม่ต้อนรับเธออย่างเห็นได้ชัด
แต่แฟนหนุ่มยังคงพูดปลอบใจคริสอยู่เสมอว่าสักวันครอบครัวของเขาต้องยอมรับเธอได้แน่ ซึ่งนั้นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่ คริสตัดสินใจไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนไปอยู่ต่างประเทศสองปี
เมื่อเดินทางไปที่นั่นเธอได้รู้จักกับเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง เขาชวนคริสร่วมลงทุนผลิตภัณฑ์ด้านความงาม เธอพอมีเงินเก็บอยู่บ้างคิดอยู่นานแต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจเอาเงินทั้งหมดที่มีทุ่มไปกับการลงทุน โชคดีที่เธอได้กำไรเป็นกอบเป็นกำจากการลงทุนนี้
เมื่อครบสองปี เธอจึงเดินทางกลับไทย พร้อมการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จากหญิงสาวที่ต้อยต่ำ บัดนี้กลายเป็นนางหงส์ที่ใครๆ ต่างหมายปอง แต่ใจของเธอกลับมีแค่เขา ดูเหมือนการพบกันครั้งนี้แฟนหนุ่มของเธอดูเปลี่ยนไปมาก
เขาไม่กล้าสบตา จากคนที่เคยจับมือกันเวลาเดินข้ามถนน สายตาที่มองเธอด้วยความรักบัดนี้มีแค่ความเฉยชา สุดท้ายเป็นเธอเองที่ทนรับความเฉยชานั้นไม่ได้
พอมารู้ตัวอีกที เธอก็โดนบอกเลิกกลางลานกิจกรรมของมหาลัยเสียแล้ว แต่ดีหน่อยมันเป็นวันสอบวันสุดท้ายของภาคเรียนสุดท้าย เขาช่างเลือกเวลาได้เหมาะสม เธอต้องขอบคุณเขาด้วยไหม ที่บอกเลิกหลังจากสอบเสร็จ ไม่งั้นจิตใจคงไม่เป็นอันทำอะไรเป็นแน่
คริสเก็บเรื่องที่เธอทำธุรกิจกับเพื่อนเอาไว้ หวังจะเซอร์ไพรส์แฟนหนุ่มหลังเรียนจบ แต่เธอกลับได้เซอร์ไพรส์ใหญ่กว่าแทน เฮ้ยย….ชีวิต คิดแล้วก็เศร้า “ที่ใดมีรักที่นั่นย่อมมีทุกข์” คำนี้ยังใช้ได้เสมอ ยิ่งกลับเธอในตอนนี้
ถึงแม้ตอนนี้ทุกอย่างจะดีขึ้น แต่เธอกลับมองไม่เห็นแสงสว่างทางไหน ไม่รู้จะทำทุกอย่างเหล่านี้ไปเพื่อใคร ลำพังตัวเองก็ไม่อยากได้อยากมีอะไรมากมาย
เมื่อไม่มีเขา เหมือนทุกอย่างพังลงในชั่วพริบตา และที่เจ็บยิ่งกว่า เขามีแฟนใหม่ แฟนที่คบกันมาสองปี สองปีที่เธอไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยน สรุปคือกินหญ้ามานานจนเขางอกยาว แต่ไม่รู้ตัว
คิดถึงเรื่องนี้แล้วก็ทำให้เธอกระเดือกข้าวลงคอไม่ได้ น้ำตาพลานจะไหลอยู่ตลอด แค่คิดเห็นใบหน้าที่แสนอ่อนโยนของเขา ความเลวที่เขาทำมันก็หายไปชั่วพริบตา ถ้าจะให้เขากลับมา เธอก็พร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่ อย่างไม่ลังเล
บางคนอาจบอกว่าเธอมันโง่ เขาทำขนาดนี้แล้วยังไปรักเขาอีก คนมีความรักจะเข้าใจทำไมเราถึงเลือกที่จะกลับไปที่เดิม พร้อมที่จะให้อภัยเขา เพราะ “รัก” คำเดียว ล้วนๆ มีแค่เนื้อ ไม่มีน้ำ แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะเขาจะแต่งงานอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้านี้
สุดท้ายรักครั้งแรก ก็มาถึงคราว “อวสาน”