**บทที่ 1**
**บทที่ 1**
“เฮีย ตอนนี้อยู่ไหน” เสียงตามสายดังผ่านเข้ามาในโทรศัพท์เครื่องหรู คนต้นสายพูดขึ้นมาด้วยความเร่งรีบทำให้คนที่อยู่ปลายสายขมวดคิ้วเข้าหากันด้วยความสงสัย
“มีอะไร….กูทำธุระอยู่”
“เฮียแวะไปโกดังหน่อย มีลูกค้าจะเข้าไปดูโกดังเก็บของ โซนบี โกดัง 13 , 14 ครับ”
“ทำไมมึงไม่ไปเอง แล้วนี่เวลาไหน จะมาดูโกดัง มึงบ้าหรือเปล่า” เสียงถอนหายใจอย่างไม่สบอารมณ์ ผมยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดูเวลา 20.28 น. มันใช่เวลาที่ต้องมาดูโกดังเก็บของตอนนี้ไหม?? แต่ช่างแม่ง… ลูกค้าคือพระเจ้า “แล้วมึงทำเ**ย อะไรอยู่ไหน กูจ้างมึงมาทำงานเสือกมาใช้กู”
น้ำเสียงสุดเหวี่ยงของผมทำให้ลูกน้องคนสนิทถอนหายใจออกมา ก่อนรีบตอบคำถามของผู้เป็นนายจ้างในทันที
“โห้ เฮีย ตอนนี้ผมอยู่ที่บาร์ ลืมไปแล้วหรอ เฮียโต ไปต่างประเทศ ไม่มีใครอยู่เลย หรือเฮียจะให้ผมทิ้งงานตรงนี้ไปโกดังครับ” เนม ลูกน้องคนสนิทของผม ตอบกลับมาอย่างว่องไว
“เอ่อๆ กูรู้แล้ว แค่นี้” ผมกดตัดสายทันที ก่อนที่จะเปลี่ยนเส้นทางการเดินรถ แรกตั้งใจจะขับตรงไปยังสนามแข่ง ที่นัดกับเพื่อนเอาไว้ แต่ก็คงต้องยกเลิก คิดมาแล้วก็อารมณ์เสีย ถ้าลูกค้าดูแล้วไม่ทำสัญญาเช่านะเจอดีแน่!! ผมคาดโทษลูกค้าเอาไว้ในใจตลอดการเดินทางมาที่โกดังเก็บของ
“คริส แกไม่ไปกับพวกฉันจริงดิ” ทอฝัน เอ่ยขึ้น เมื่อฉันเดินตรงมาที่รถยนต์คู่ใจ
“ไม่อะ ฉันมีนัดไปดูโกดัง ต้องรีบไป เดี๋ยวสาย”
“ดูโกดังอะไรเวลานี้ว่ะ แล้วจะไปคนเดียวหรือไง ให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหม”
“เปล่า พี่ดินไปด้วยแต่ไปเจอกันที่โกดัง เลิกถามมากได้แล้วฉันไปล่ะ เอาไว้ฉันกลับมาจากจีนอาทิตย์หน้าค่อยไปเลี้ยงฉลองแล้วกันนะ” ฉันว่าแล้วก็เดินขึ้นรถมาไม่ลืมถอดชุดครุยรับปริญญาออกมาวางเอาไว้บนเบาะข้างคนขับ ก่อนสตาร์ทเครื่องยนต์
วันนี้เป็นวันรับปริญญาของฉัน ซึ่งก็ได้เข้ารับปริญญาในช่วงบ่ายกว่าจะออกมาจากหอประชุมก็ปาเข้าไปเกือบหกโมงเย็น ฉันมองนาฬิกาข้อมือ อย่างเป็นกังวล รถลาบนท้องถนนมากมายแล้วจะไปถึงที่นั้นกี่โมง
ฉันขับรถมาแถวชานเมือง เพื่อมาตรวจดูโกดังสินค้าที่จะเช่าเพื่อเก็บสินค้านำเข้าจากต่างประเทศ โกดังที่เคยได้ไปดูเอาไว้เกิดปัญหาผู้เช่าคนเก่ายังเคลียร์ของออกจากโกดังไม่หมด จึงต้องหาโกดังเก็บของใหม่เร็วไว เพราะของจะเข้ามาในไทยในอีกสองวัน
บรื้น บรื้น
เสียงรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์คันใหญ่สีดำ ขับมาจอดที่หน้าโกดัง เรสไม่รอช้าเขารีบก้าวลงจากรถเดินไปเปิดประตูโกดังทั้งสองที่อยู่ติดกัน เพื่อรอเวลาลูกค้าที่นัดจะเข้ามาดูสถานที่ ไม่นาน รถยนต์สีขาว BMW ก็ขับเข้ามาจอดหน้าบริเวณโกดัง เรสยืนกอดอกพิงกำแพงมองรถยนต์คนดังกล่าวอย่างใจเย็น แต่คนบนรถกลับไม่ยอมลงมาจากรถสักที เขาพยายามหักห้ามอารมณ์ของตัวเอง และยืนรอนานเกือบ ยี่สิบนาที ก่อนจะมีรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์คันใหญ่สีขาววิ่งเข้ามาจอดด้านหน้ารถยนต์ ชายหนุ่มร่างกายสมส่วนสวมชุดหนังสีดำก้าวลงจากรถ เขาถอดหมวกกันน๊อคออกเผลยให้เห็นใบหน้าหล่อคมเค้ม ดวงตาสีดำสนิทนั้นดูน่าค้นหายิ่งนัก
คริสมองเห็นบุคคลที่เธอรอคอยมาถึงแล้วจึงรีบก้าวลงจากรถ ใบหน้าสวยออกแนวลูกครึ่งไทย-ฝรั่งฉายยิ้มจนแก้มป่องส่งไปให้กลับชายหนุ่มตรงหน้าทันที คริสสวมใส่ชุดนักศึกษาติดกระดุมถึงลำคอขาวกระโปรงทรงเอสีดำเลยเข่า เธอสวมรองเท้าฟองน้ำหูหนีบแทนรองเท้าคัทชูสีดำส้นหนา ทำใด้ดูแปลกตายิ่งนัก
“พี่ดิน สวัสดีค่ะ” เธอยกมือขึ้นไว้ พร้อมรอยยิ้ม
“โทษที รถติด เลยมาช้านิดหน่อย รอพี่นานไหม หืม” ไอดินเดินตรงเข้ามาหาหญิงสาวตรงหน้า พร้อมเอามือวางบนศีรษะทุยนั้นอย่างรักใคร่
“ไม่ค่ะ” คริสยิ้มให้ไอดิน เขาเป็นลูกชายของป้า ซึ่งเป็นญาติที่เหลือเพียงคนเดียวของเธอ
“อ้าววันนี้รับปริญญาหรอ ไม่เห็นบอกพี่”
“ค่ะ เห็นพี่ดินยุ่งๆ หนูเลยไม่อยากรบกวน อีกอย่างมันก็ไม่ได้สำคัญอะไรมาก” คริสเดินเข้ามาภายในโกดังพร้อมกับไอดิน
“สวัสดีครับ” ผมเอ่ยทักทายลูกค้าทั้งสองคน มองหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า ตั้งแต่หัวจรดเท้า ใบหน้าสวยถูกแต้มด้วยเครื่องสำอางสีหวาน เข้ากับทรงผมที่เกล้าขึ้นอย่างสวยงาม ผิวเนียนขาวจนเห็นเส้นเลือด คนอะไรขาวฉิบหาย!! แถมสวยซะด้วย แม่งเสียดายมากับแฟนซะได้ ผมคิดในใจ
“สวัสดีค่ะ ขอโทษนะคะที่ให้รอ และรบกวนเวลานี้ค่ะ ฉันชื่อคริสค่ะ” คริสยกมือไว้เรส ก่อนจะส่งยิ้มหวานให้มาให้ผม ตอนนี้หัวใจละลายไปแล้วครับ เหมือนเธอกำลังหย่อนเบ็ดลงมาในบ่อเพื่อให้ปลาอย่างผมงับเหยื่อ
“ไม่เป็นไรครับ ถ้างั้นเดินดูได้ตามสบายเลยนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ” คริสเดินสำรวจโกดังขนาดไม่ใหญ่มาก ทั้งสองโกดังมีไอดินมาช่วยดูอีกแรง ทั้งสองพูดคุยกันไปมา นานนับชั่วโมง “รบกวนส่งสัญญาเช่ามาทางอีเมลที่คริสให้ไว้ได้เลยนะคะ แล้วเรื่องที่คุยกับคุณเนมไว้ ว่าคริสจะขนสินค้าเข้ามาไม่เกินสองวันนี้ ได้ไหมคะ”
“เดี๋ยวผมจัดการเรื่องสัญญาให้ ถ้าเซ็นสัญญาเสร็จเรียบร้อยคุณจะขนสินค้ามาตอนไหนก็ได้ครับ”
“โอเคค่ะ ถ้างั้นรบกวนด้วยนะคะ” คริสยิ้มหวานให้กับผมอีกครั้ง “คริสขอตัวกลับก่อนนะคะ” เธอเดินออกมาพร้อมชายหนุ่มอีกคนตรงไปยังรถของตัวเอง
“ช่วงนี้คริสไม่ว่างใช่ไหม แม่บ่นหา ว่างๆ ก็กลับบ้านด้วยล่ะ”
“ค่ะ ช่วงนี้คริสยุ่งๆ นะค่ะ เอาไว้คริสกลับมาจากจีนแล้ว จะไปทานข้าวที่บ้านนะคะ”
“ดูแลสุขภาพด้วย อย่าทำแต่งาน ดูสิ เหมือนจะผอมลงนะเรา” ไอดินพูดแหย่หลานสาว ก่อนจะเจออาการงอนของคริส
“นี่ประชดใช่ไหมคะ อ้วนก็บอก แต่ถึงหนูจะอ้วนก็น่ารักนะ” คริสยิ้มแฉ่งจนตาหยีให้กับไอดิน การพูดคุยของทั้งสองอยู่ในสายตาของผมตลอดเวลา “พี่กลับได้แล้วค่ะ วันนี้ขอบคุณมากๆ ที่มาทำธุระกับหนู แล้วเจอกันนะคะ”
“ขับรถดีๆ นะ” ไอดินพูดพร้อมก้าวขึ้นรถของตัวเอง คริสก็เช่นกัน เธอเปิดประตูรถก้าวขึ้นนั่งประจำคนขับก่อนที่เธอจะขับรถออกไป
“แม่งโคตรสวย น่ารักซะด้วยสิ หวังว่าคงได้เจอกันอีกนะ” ผมมองตามหลังรถยนต์สีขาว แล้วจดจำเลขทะเบียนเอาไว้จนขึ้นใจ
ความรู้สึกอยากได้มาครอบครองกำลังทำให้ผม อยู่ไม่เป็นสุข แต่เธอกลับเป็นลูกค้าของผม ซึ่งผมเองก็มีคติประจำใจ…สมภารไม่กินไก่วัด แต่ถ้าหากไก่มันน่ากิน…แล้วสมภารจะอดใจไหวได้เช่นไร…