บทที่ 4
“จินอาเป็นหัวโจกของนักเรียนโรงเรียนจินยอง ซึ่งเป็นคู่ปรับกับโรงเรียนของฉัน เมื่อวานนี้ฉันกับเพื่อนโดดเรียน เอ๊ย!! ไม่ใช่เราชวนกันไปร้องคาราโอเกะหลังจากโรงเรียนเลิก แต่ยังไม่ทันจะถึงร้านคาราโอเกะเราก็เจอจินอากับพวกซะก่อน ทีนี้คุณรู้ใช่ไหมคือเราออกกำลังกายกันนิดหน่อยแล้วฝ่ายนั้นก็...” เขารีบพูดขัดขึ้นมาก่อน ที่เธอจะเล่าจบ
“ชนะพวกคุณ” แชยองหันไปมองหน้าเขาทันทีที่เขาพูดจาดูถูกเธอและเพื่อนแบบนี้
“เชอะ!! ดูถูกกันเกินไปหน่อยไหม สวย แสบ ซ่าส์ คู่ขามาเฟียอย่างพวกฉันเนี่ยนะจะแพ้พวกนั้น มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วเราสองคนชกพวกนั้นลงไปนอนล้มกลิ้งอยู่กับพื้น ร้องโอดโอยขอความปรานีจากพวกเราน่ะ
สิไม่ว่า” เล่าโอเว่อร์ไปนิดเขาก็คงจะไม่รู้หรอก ว่าที่จริงแล้วพวกเธอจัดการให้พวกนั้นเพลี่ยงพล้ำ จากนั้นเธอสองคนก็ใส่หลวงพ่อโกยวิ่งหนีเผ่นแนบแทบไม่ทัน เขาหัวเราะแชยองรีบโวยวาย
“คุณหัวเราะอะไร...ฉันไม่ได้โม้นะ”
“ผมก็ไม่ได้ว่าคุณโม้ แต่คุณเล่าซะเหมือนกับว่าคุณกับเพื่อนของคุณเป็นซุปเปอร์เกริล”
“จะฟังต่อไหม”
“ฟัง ๆ คุณเล่าต่อสิ” เธอค้อนให้เขาหนึ่งทีก่อนที่จะเล่าต่ออย่างออกรสชาด
“ทีนี้เพราะฉันกับเพื่อนของฉันเป็นคนดี เมื่อพวกนั้นร้องขอความปรานีคนดีอย่างพวกฉันก็เลยปล่อยไป ถือซะว่าปล่อยลูกนกลูกกา”
“อืม...ผมนึกว่าพวกคุณเป็นนางฟ้าซะอีก” แชยองรีบรับสมอ้างทันที
“ก็ทำนองนั้นล่ะ...เรามีเรื่องชกต่อยกันเมื่อวาน วันนี้พี่ชายของจินอาก็เลยยกพวกมาแก้แค้นแทนน้อง สาวของตัวเอง...เชอะน่าขำพวกมันบอกว่าฉันทำให้น้องสาวผู้บอบบางของมันต้องบาดเจ็บ จนถึงกับต้องไปนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล...กล้าพูดมาก ๆ นะที่ว่าน้องสาวผู้บอบบาง ที่จริงต้องบอกว่าจินอาหญิงถึกสุดโหดจะเหมาะกว่า” เธอติดพลาสเตอร์ให้ที่ปลายคิ้วของเขา
“เสร็จซะทีคุณจะไม่ขอบคุณฉันหน่อยเหรอ”
“ห๊า...เอ่อ...ขอบคุณ”
“ไม่เป็นไรเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น แต่คุณรู้อะไรไหมฉันไม่เคยทำแผลให้ใครมาก่อนเลยนะ เพิ่งจะเคยทำให้คุณเป็นคนแรกนี่แหละ” เขาอ้าปากหวอก่อนที่จะพูด
“นี่คุณเห็นผมเป็นหนูทดลองของคุณงั้นเหรอ”
“คุณก็พูดเกินไปไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แต่ฝีมือการทำแผลของฉันก็ใช้ได้นะ หวังว่าคงไม่ทิ้งร่องรอยบนใบหน้าของคุณให้เสียโฉมหรอกไม่ต้องกลัว” เธอดูนาฬิกาที่ข้อมือก่อนที่จะอุทานออกมา
“ตายแล้วเกือบหนึ่งทุ่มแล้ว คุณนายคิมเอาฉันตายแน่เลยที่ป่านนี้ฉันยังไม่ถึงบ้าน ฉันไปก่อนนะรถของฉันมาพอดี” เธอบอกเขาจากนั้นก็รีบวิ่งไปขึ้นรถแต่เขาเรียกเธอไว้ก่อน
“เดี๋ยวก่อนสิ...ผมยังไม่รู้จักชื่อของคุณเลย”
“เรียกฉันว่าแชยองก็ได้” จากนั้นเธอก็ก้าวขึ้นรถโดยสารคันนั้นไปอย่างรวดเร็ว จีเฮรู้สึกถูกชะตากับเธอเขาเองก็หาเหตุผลไม่ได้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น อาจจะเป็นใบหน้าอ่อนใสผิวขาวอมชมพูของเธอดูแล้วตัดกันดีกับผมยาวดำขลับที่มองดูแล้วนุ่มน่าสัมผัส และเรียวปากอิ่มสีชมพูระเรื่อที่ช่างจำนรรจา รวมไปถึงดวงตากลมโตของเธอที่มักจะบ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองได้เป็นอย่างดี เขารู้สึกราวกับว่าเคยเห็นและคุ้นเคยกับดวงตาแบบนี้มาก่อน แต่มันจะเป็นไปได้อย่างไรก็ในเมื่อเขาเพิ่งจะเจอกับเธอครั้งนี้เป็นครั้งแรก หรือเขาจะหลงเสน่ห์ดวงตาคู่นี้ซะแล้ว จีเฮคิดในใจพร้อมกับเผลอยิ้มออกมา ก่อนที่จะเรียกรถแท็กซี่ให้ขับไปส่งเขาที่บ้านของพี่ชาย
เมื่อจีเฮเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นก็พบว่าพี่แทฮยอนกำลังนั่งดูทีวีอยู่ ครอบครัวของจีเฮได้ย้ายไปอยู่ที่อเมริกาตั้งแต่เขายังเด็กเนื่องจากพ่อของเขาต้องไปทำงานที่นั่น พวกท่านก็เลยตกลงที่จะย้ายครอบครัวไปอยู่ที่นั่นด้วย และเมื่อเขาต้องเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยจึงขอกลับมาเรียนต่อที่เกาหลี ซึ่งเป็นประเทศบ้านเกิดของตนเอง
ตอนแรกพวกท่านก็คัดค้านเพราะเป็นห่วง แต่พอลูกชายบอกว่าจะมาพักอยู่กับพี่แทฮยอนพวกท่านก็เลยอนุญาตโดยบินมาส่งเขาด้วยตัวเอง รวมไปถึงพูดจาฝากเขาไว้กับพี่แทฮยอน ท่านฝากให้พี่แทฮยอนช่วยดูแลและตักเตือนเขาในกรณีที่เขาทำอะไรที่ไม่ถูกไม่ควร แทฮยอนรับปากว่าจะดูแลจีเฮอย่างดี และจีเฮเองก็รักและนับถือพี่แทฮยอนเหมือนพี่ชายแท้ ๆ ของเขาเองเลยทีเดียว จีเฮเอ่ยทักทายลูกผู้พี่ของเขา
“หวัดดีครับพี่แทฮยอน...วันนี้ทำไมอยู่บ้านได้ล่ะครับ”
“คืนนี้พี่ไม่ต้องเข้าเวร...จีเฮหน้าของนายไปโดนอะไรมา” จีเฮจับไปที่ปลายคิ้วที่ถูกติดพลาสเตอร์เอาไว้
“ผมมีเรื่องกับเพื่อนนิดหน่อยครับ”
“นายก็เลยใช้กำลังตัดสินความเป็นลูกผู้ชายกันล่ะสิ แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่า นั่งก่อนเดี๋ยวพี่จะไปเอากระเป๋ายามาดูแผลให้” เขาเดินไปนั่งที่โซฟาตัวเดียวกับพี่ชาย
“ไม่ต้องหรอกครับพี่แทฮยอนมีคนทำแผลให้ผมแล้ว”
“แน่ใจนะว่าไม่ต้องให้พี่ดูแผลให้”
“แน่ใจสิครับผมไม่ใช่คนไข้ของพี่แทฮยอนนะครับ ไม่ต้องดูแลผมขนาดนี้ก็ได้”
“จะไม่ให้พี่ดูแลนายได้ยังไงในเมื่อนายเป็นน้องชายของพี่ อีกอย่างคุณน้าทั้งสองก็พูดจาฝากให้พี่ช่วยดูแลนายแทนท่าน เอาเป็นว่าพรุ่งนี้พี่จะเป็นคนล้างแผลให้นายอีกทีก็แล้วกัน”
“ขอบคุณมากครับ”
“แล้วทานอะไรมาหรือยัง”
“ยังเลยครับรู้สึกหิวเหมือนกัน”
“งั้นนายขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าซะก่อน พี่จะให้เขาอุ่นอาหารเตรียมไว้ให้”
“ผมขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะครับเหนียวตัวเต็มที” จีเฮลุกขึ้นไปบนห้องนอนส่วนตัวที่พี่ชายของเขาจัดเตรียมไว้ให้เขาโดยเฉพาะ
แทฮยอนเป็นญาติเพียงคนเดียวที่จีเฮรู้จัก เขาเป็นคุณหมอหนุ่มแถมยังโสดที่สำคัญหน้าตาหล่อราวกับพระเอกละคร พี่แทฮยอนมักจะมีรอยยิ้มบนใบหน้าอยู่เสมอทำให้สาว ๆ ที่ได้พบเห็นไม่ว่าจะเป็นพยาบาลหรือแม้แต่คนไข้ต่างก็พากันหลงรักพี่แทฮยอนของเขา และมันก็ไม่แปลกเพราะพี่ชายของเขาเป็นชายหนุ่มรูปหล่อแถมยังใจดีอีกต่างหากสาว ๆ ก็เลยอดไม่ได้ที่จะหลงรักคุณหมอหนุ่มคนนี้
แต่ที่น่าแปลกก็คือ...พี่ชายของเขาไม่เคยให้ความสนใจผู้หญิงคนไหนเป็นพิเศษเลยสักคน เขาเคยถามถึงเรื่องนี้กับพี่แทฮยอนแต่ไม่ได้รับคำตอบอะไรนอกจากรอยยิ้ม
คืนนั้นกว่าที่จีเฮจะหลับลงได้เวลาก็ล่วงเลยมาเกือบตีสอง เพราะอะไรน่ะเหรอก็เพราะเขามัวนึกถึงแต่ใบหน้าของหญิงสาวที่เขาเพิ่งจะพบเมื่อเย็นนี้ จีเฮไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเธอเลยนอกจากรู้ว่า “แชยอง” คือชื่อของเธอ