Chapter 6 : ไปเจอเพื่อนเก่า
คุณกฤติยากลับมาถึงไร่ก็เย็นมากแล้ว เมื่อเห็นลูกชายตัวดีเดินถือกระเป๋าออกมาจึงเอ่ยทักขึ้น
“อ้าว..จะกลับแล้วเหรอตาตั้ม?”
“ครับคุณแม่ พรุ่งนี้ทำงานวันสุดท้ายแล้วครับ”
“ดี งั้นพรุ่งนี้แม่ไปเลือกการ์ดแต่งงานกับหนูฟ้า เสร็จแล้วค่อยให้คนเอาไปให้ที่ กทม.นะ”
“แล้วแต่คุณแม่เลยครับ ผมปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้วนี่”
“นี่ยังเคืองแม่อยู่อีกเหรอ?”
“จะบอกว่าไม่เลยผมก็คงโกหก ชีวิตของผมทั้งชีวิตนะครับ การตัดสินใจว่าจะแต่งงานหรือไม่นั้น น่าจะให้ผมเป็นคนตัดสินใจเอง แต่นี่คุณแม่ตัดสินใจแทนผมไปหมดแล้ว จะไม่ให้ผมเคืองเลยมันก็คงเป็นไปไม่ได้หรอกครับ”
“แต่ที่แม่ทำไป และสิ่งที่ตั้มกับหนูฟ้ากำลังจะทำ ก็เพื่อคุณพ่อของเรานะครับลูกตั้ม อย่ากังวลไปเลยลูก หนูฟ้าเป็นเด็กน่ารัก เธอจะทำให้ลูกของแม่คนนี้ตกหลุมรักได้แน่ ๆ จ่ะ..หึ!!”
คุณกฤติยาเดินเข้ามาลูบหัวตั้มอย่างเอ็นดู จากนั้นยกหูโทรศัพท์ขึ้น
“หนูติ๋มจ๊ะ ขอแบบการ์ดแต่งงานให้ป้าหน่อยสิป้าจะให้พี่ตั้มเลือกแบบจ่ะ”
ปลายสายรับคำ ส่งแบบการ์ดมาให้อย่างรวดเร็ว คุณกฤติยาส่งต่อให้นลินนิภาทันที พร้อมกับแนบข้อความไปด้วยใจความว่า
“หนูฟ้าเลือกแบบการ์ดส่งมาให้ป้าด่วนเลยนะคะว่าชอบประมาณไหน? ป้าจะจัดพิมพ์เลย”
...
นลินนิภาที่เผลอหลับไป ตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงียเมื่อได้ยินเสียงข้อความจากมือถือ เห็นแบบการ์ดมากมายแต่ก็มาสะดุดตากับการ์ดที่เป็นพลาสติกใสมีตัวหนังสือสีทองดูเรียบหรูจึงกดเลือดการ์ดแบบนั้นส่งให้คุณกฤติยา
เมื่อคุณกฤติยา ได้รับแบบการ์ด ก็ต้องแปลกใจเมื่อ แบบการ์ดที่นลินนิภาเลือกได้ตรงกับแบบการ์ดที่ หมอตั้มเลือก ทำให้คุณกฤติยา ยิ้มออกมา อย่างอารมณ์ดีอุทานขึ้นมาเบา ๆ
“อะไรกันเนี่ย? แบบการ์ดยังเลือกเหมือนกันเลยช่างใจตรงกันอะไรขนาดนี้ คิกๆ”
รีบกดส่งรูปที่สองคนเลือกไว้ส่งให้คุณติ๋มเจ้าของร้านเวดดิ้งค์ทันที กำกับข้อความไปว่า
“ป้าขอวันนี้ซัก 5 ใบก่อนได้ไหมจ๊ะ? พอดีพี่ตั้มจะกลับ กทม.คืนนี้ จะให้เอาไปแจกเพื่อน ๆ ก่อนน่ะจ่ะ”
อีกฝั่งกดสติ๊กเกอร์ ‘โอเค’ กลับมาให้
เวลาผ่านไปสามชั่วโมง ก็มีคนเอาการ์ดมาให้คุณกฤติยาที่บ้าน
“ว้าว!!..เร็วมากจริง ๆ ยังไงป้าค่อยเข้าไปเคลียร์ในวันที่ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวไปลองชุดนะจ๊ะ”
คุณกฤติยาจีบปากจีบคอพูด อีกฝ่ายรับคำพยักหน้าขับรถออกไป
“คุณคะ..นี่ค่ะการ์ดแต่งงานของตาตั้มกับหนูฟ้า สวยไหมคะ?”
คุณกฤติยายื่นการ์ดแต่งงานที่อยู่ในซองสีครีมให้คุณนิคมดู พร้อมดึงการ์ดข้างในออกมา เป็นชื่อที่ขึ้นต้นอักษรย่อ f&t และตามมาด้วยชื่อ นลินนิภา เอกธนนรากุล&เหนือสมุทรบวรกิจวัฒนา ซึ่งเป็นชื่อของฟ้าและหมอตั้มชัดเจน คุณนิคมถึงกับคลี่ยิ้มออกมาด้วยความดีใจเอ่ยชมภรรยาคนสวย
“คุณนี่มันแน่จริง ๆ ผมยอมเลย จัดการทุกอย่างได้ในเวลาสั้น ๆ สุดยอดจริง ๆ”
“จะให้ฉันทำยังไงได้ล่ะคะ? ก็คุณดื้อดึงขนาดนี้ ฉันก็ต้องทำทุกวิธีเพื่อให้คุณไปผ่าตัดให้ได้สิคะ”
“หนูฟ้าเธอเต็มใจจริง ๆ หรือเปล่า? คุณไม่ได้บังคับเธอใช่ไหม?”
“คนอย่างหนูฟ้า บังคับได้ที่ไหนกันล่ะคะคุณ พักผ่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันเอาการ์ดไปให้ตาตั้มก่อน”
“อืม”
คุณอาคมรับคำหลับตาพร้อมกับนอนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อิ่มเอมหัวใจ
...
ฟ้าตื่นขึ้นมาด้วยความไม่สบายใจนัก จึงเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าเดินทางใบเล็ก ๆ สีขาวลายการ์ตูนลิขสิทธิ์
พลันก็ได้ยินเสียงข้อความแชทเข้ามา มือเรียวกดดูข้อความเห็นข้อความที่เป็นภาษาอังกฤษจากเพื่อนสนิทที่ญี่ปุ่นก็ต้องตกใจสุดขีด
มาเอมี : ฮัลโล โซระจัง ตอนนี้พวกเราอยู่ที่แบงคอกด้วยความคิดถึงโซระจังมาก ๆ ฉันจึงรบเร้าให้คุโมรินำพาฉันมาเจอเธอ เธออยู่ที่ไหนมาหาพวกเราได้หรือเปล่า?”
สาวสวยหน้าใสสไตล์ญี่ปุ่นทิ้งข้อความไว้พร้อมแนบรูปถ่ายที่ถ่ายกับวัดในกรุงเทพไว้พร้อมพี่ชาย ทำให้นลินนิภาถึงกับต้องเอามือทาบอกด้วยตกใจเป็นที่สุด
ไม่รอช้า มือเรียวกดรีบกดดูสายการบินไปกรุงเทพ เธอเองก็ตั้งใจที่จะไปเจอปลอบขวัญอยู่แล้ว อยากไปเคลียร์อยากไปพูดคุยสบตา เพื่อให้ตัวเธอเองมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น ประจวบกับสองพี่น้องชาวญี่ปุ่นบินมาหาเธอพอดีหญิงสาวรีบเช็กตารางเที่ยวบินจากนั้นกดซื้อตั๋วทันทีกดเลือกชั้น Fast Seat ที่มีที่ว่างอยู่พอดี รีบอาบน้ำแต่งตัวเดินถือกระเป๋าลากออกจากห้อง
“อ้าวลูกฟ้าจะไปไหนเหรอลูก? ค่ำมืดขนาดนี้แล้ว”
คุณประพันธ์ผู้เป็นบิดาที่กำลังดูทีวีอยู่ในห้องนั่งเล่นเอ่ยทักถามขึ้นเมื่อเห็นลูกสาวแต่งตัวเดินลากกระเป๋าออกมาจากห้องนอน
“คุณพ่อฟ้าจะไปกรุงเทพสัก 4-5 วันนะคะ ไปพักผ่อน เพื่อนมาจากญี่ปุ่นพอดี แล้วก็ไปหาปลอบขวัญด้วยค่ะ”
“เอางั้นเหรอลูก? ได้สิ เดี๋ยวพ่อไปส่งที่สนามบินนะ”
“ค่ะ”
“หนูฟ้าจะไปไหนลูก?"
คุณอลิษาที่เดินออกมาจากห้องครัวเสียงแหลมมาทันทีเมื่อเห็นนลินนิภากำลังจะลากกระเป๋าออกไป
“ฟ้าจะไปกรุงเทพฯค่ะคุณแม่”
พูดเสร็จก็หมุนตัวลากกระเป๋าออกไป
“เดี๋ยวสิ แล้วพรุ่งนี้ที่จะไปลองชุดแต่งงานล่ะลูก?”
“เดี๋ยวถึงกรุงเทพแล้วฟ้าจะโทรบอกคุณป้าเองค่ะคุณแม่ หรือคุณแม่จะโทรไปรายงานคุณป้าเองก็ตามใจค่ะ”
“อุ๊ย!! หนู ยังโกรธแม่อยู่อีกเหรอลูก?”
“ฟ้าเคืองคุณแม่นิดหน่อยเท่านั้นเองค่ะ ที่คุณแม่ทำอะไรโดยที่ไม่ปรึกษาฟ้าก่อน ฟ้าไม่ได้โกรธอะไรแต่ไม่เป็นไรนะคะ ฟ้าเข้าใจคุณแม่ค่ะ ฟ้าไปก่อนนะคะ”
คุณอลิษาผู้เป็นมารดาถึงกับหน้ามุ่ยเมื่อลูกสาวคนเดียวเดินออกไปอย่างหัวเสีย
“ขับรถดี ๆ นะคะคุณ”
หันมาอวยพรผู้เป็นสามีที่เดินตามลูกสาวคยสวยออกไป
...
บนเครื่องบิน
นลินนิภาหย่อนกายนั่งลงบนเก้าอี้สีน้ำเงินเข้ม ถอนหายใจออกมาก้อนใหญ่
“ฟู่!!..เกือบไม่ทันคุณพ่อนะคุณพ่อ ขับรถตอนกลางคืนไม่ได้ก็ไม่บอก เกือบตกเครื่องแล้วไหมล่ะ? ขับรถกลับบ้านจะฺเป็นยังไงบ้างนะ? ”
บ่นไปด้วยมือเรียวก็ค้นหาผ้าปิดตาในกระเป๋าสะพายไปด้วย
“อยู่ไหนนะ!? .. อย่าบอกนะว่าลืมเอามาน่ะ”
ชายหนุ่มที่เอนกายอยู่เบาะข้าง ๆ เปิดผ้าปิดตาออกมาดูด้วยเสียงที่คุ้นหู เขาแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ว่าเสียงที่ได้ยินนั้น คือเสียงของ ‘ว่าที่เจ้าสาวของเขา’ เขาไม่แน่ใจจึงเปิดผ้าปิดตาออกมาดูเมื่อเห็นคนที่มานั่งข้าง ๆ ถึงกับอุทานออกมาเบา ๆ
“น้องฟ้า!!”
นลินนิภารู้สึกเหมือนมีใครกำลังมองมาที่เธออยู่จึงหันไปมอง เมื่อได้สบตากันหญิงสาวถึงกับตกใจอุทานออกมาเป็นภาษาญี่ปุ่น ‘เอ๊ะ!!...’… ‘อุตโช!!!(ตกใจสุดขีด)’
“พี่ตั้ม!!”
“ค่ะ..พี่เอง ตกใจอะไรขนาดนั้นกันคะ?”
“เปล่าค่ะ..คือฟ้าไม่คิดว่าจะมาเจอพี่ตั้มที่นี่ได้น่ะค่ะ”
“หึ!!..น้องฟ้าจะไปกรุงเทพทำไมเหรอคะ?”
“เพื่อนฟ้ามาจากญี่ปุ่นพอดีค่ะ ก็เลยนัดเจอกันที่กรุงเทพ แล้วก็จะไปหาปลอบขวัญด้วยค่ะ ไม่ได้เจอกันนานแล้ว”
“หึ..จะไปเชิญน้องขวัญมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวเหรอคะ?”
“เปล่าค่ะ..แค่คิดถึงเฉย ๆ”
“พี่เชื่อก็ได้ค่ะ เรื่องการแต่งงานของเราเดี๋ยวพี่บอกน้องขวัญเองค่ะ น้องขวัญต้องเข้าใจอยู่แล้ว”
นลินนิภาพยักหน้า ‘หงึก ๆ’ รับทราบ ตั้มดึงปิดผ้าตาลงมาปิดตาตัวเองไว้เช่นเดิม
