Chapter 5 : ตกลงค่ะ
คุณกฤติยากลับมาที่ไร่ของตนด้วยอารมณ์ที่แจ่มใส
“กลับมาแล้วเหรอครับคุณแม่?”
ตั้มเอ่ยทักขึ้นเมื่อเห็นผู้เป็นแม่เดินเข้ามาในบ้าน
“จ้า..ตาตั้ม หนูฟ้าล่ะลูก?”
“แหม!! กลับมาถึงก็ถามหาลูกสาวเลยนะครับ”
“แหงล่ะ..ก็ฉันมีแต่ลูกชายนี่นา”
“กำลังทาน อาหารเที่ยงกับคุณพ่ออยู่ครับ”
“อ้าว..แล้วตั้มไม่กินกับน้องกับคุณพ่อเหรอ?”
“ตั้มอิ่มแล้วครับคุณแม่”
“อ๋อ งั้นก็ดีเลย เดี๋ยวแม่ก็เข้าไปทานกับสองคนนั้นด้วยดีกว่า คิก ๆ”
“วันนี้ดูอารมณ์ดีจังเลยนะครับคุณแม่ มีเรื่องอะไรดี ๆ เกิดขึ้นเหรอครับ?”
ตั้มถามผู้เป็นมารดาด้วยความสงสัยเมื่อเห็นเธออารมณ์ดีเป็นพิเศษในวันนี้
“มีสิจ๊ะ คิก ๆ วันนี้แม่มีเรื่องจะพูดกับตั้มหน่อยน่ะ"
“เรื่องอะไรกันครับคุณแม่ ถึงทำให้คุณแม่อารมณ์ดีได้ขนาดนี้?”
ตั้มขมวดคิ้วสงสัยพร้อมยิ้มแซวผู้เป็นมารดา
“จำได้ไหมที่แม่ถามตั้มว่า ตั้มกับหนูปลอบขวัญเป็นยังไงบ้างช่วงนี้?”
“จำได้ครับคุณแม่”
“แล้วตั้มตอบว่ายังไงนะ?”
“ตั้มตอบว่าก็เรื่อย ๆ ครับแล้วก็บอกว่า รู้สึกความสัมพันธ์ยังไม่ชัดเจน ตอนนี้น้องขวัญก็เหมือนจะห่าง ๆ ตั้มไปครับ”
“หึ..วันนี้แม่ไปคุยกับคุณน้าอลิษา คุณน้าประพันธ์มาน่ะลูก แม่ไปสู่ขอหนูฟ้ามาให้ตั้มแล้วนะ”
“ห๊ะ!! อะไรนะครับ?”
ตั้มตกใจคิดว่าตัวเองได้ยินไม่ชัด
“แม่บอกว่าแม่ไปสู่ขอหนูฟ้ามาให้เราแล้ว ได้ยินชัดยัง?..มันเป็นความต้องการของคุณพ่อน่ะ ที่อยากได้หนูฟ้ามาเป็นลูกสะใภ้ พ่อเขาชอบหนูฟ้ามาตั้งแต่มากับหนูขวัญตอนมัธยมแล้วแหละ”
“แต่ผมไม่ได้ ‘รัก’ น้องฟ้านะครับคุณแม่!!”
ตั้มพูดออกมาด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียวตะเบงเสียงดัง คุณกฤติยา ‘ชู่ว์’ ปากใส่ตั้มทันทีเพราะกลัวหนูฟ้าจะมาได้ยินเข้า
“ตาตั้ม!! ทำไมพูดแบบนี้ล่ะลูก? เดี๋ยวน้องมาได้ยินเข้าน้องจะเสียใจเอานะลูก!!”
“แม่ก็รู้นี่ครับ ว่าผมกำลังตามจีบน้องขวัญอยู่ จะให้ผมแต่งงานกับน้องฟ้าได้ยังไง?”
“น้องขวัญๆๆๆ ก็แล้วยังไง? ฉันอยากจะรู้นักว่าคนที่อยู่ตรงนี้กับคนที่อยู่ตรงนั้น คนไหนสำคัญกว่ากัน? ตาตั้มแกคิดดูให้ดีนะ ที่พ่อแก่ดีวันดีคืนขึ้นในตอนนี้ ส่วนหนึ่งมาจากใคร? กับปลอบขวัญก็ไม่ใช่!! ตั้งแต่พ่อแกเข้าโรงพยาบาลไปเนี่ย มีสักครั้งไหม? ที่ปลอบขวัญจะโทรมาถามอาการห๊า!! ทุกครั้งที่กลับบ้านมามีมาหา มาทักทายบ้างไหมที่เขาจะมาเยี่ยมพ่อกับแม่? มีแต่หนูฟ้านี่แหละที่คอยโทรมาถามสอบถาม โทรมาพูดคุย แกลองไปคิดดูให้ดีนะ ว่าคนไหนกันแน่สำคัญกว่ากัน? ระหว่างคนที่อยู่ตรงนั้นกับคนที่อยู่ตรงนี้ ฉันไม่ใช่ไม่ชอบหนูปลอบขวัญหรอกนะ แต่แกก็เห็นแล้วนี่ ว่าหนูฟ้าน่ะเขาน่ารักขนาดไหน ถ้ายังมองไม่เห็นอีก ฉันก็จนใจจนปัญญาแล้วแหละ”
“ แต่ผมไม่ได้ ‘รัก’ น้องฟ้าครับคุณแม่รู้ไว้ด้วยว่าผมไม่ได้ ‘รัก’ เธอมากไปเกินกว่าคำว่า ‘น้องสาว’ ครับ” นลินนิภาที่เปิดประตูออกมาพอดี ก็ได้ยินประโยคสุดท้าย ที่หมอตั้มพูดกับคุณกฤติยา ว่า ‘ไม่ได้รักเธอ มากกว่าคำว่าน้องสาว’ ขอบตาของเธอถึงกับร้อนผ่าวขึ้นมา หญิงสาวก้มหน้าลงเล็กน้อย ยอมรับในสิ่งที่เพิ่งได้ยินสูดลมหายใจเข้าให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อสะกดอารมณ์และน้ำตาเอาไว้ แล้วเงยหน้าขึ้น ปั้นยิ้มบนใบหน้าใหม่อีกครั้ง ยืดอก และเดินเข้าไปหาสองแม่ลูกที่กำลังยืนสนทนากันอยู่ ในมือถือถาดอาหารที่ทานแล้ว ของคุณนิคมและเธอออกมาด้วย
“คุยอะไรกันอยู่หรอคะคุณป้า พี่ตั้ม หน้าตาเคร่งเครียดเชียวค่ะ?”
“อ๋อ..เรื่องสำคัญจ้าหนูฟ้า”
คุณกฤติยาวาดยิ้มบนใบหน้าให้กับว่าที่ลูกสะใภ้อย่างอบอุ่นตอบคำถาม
“สำคัญขนาดไหนล่ะคะเนี่ย? ดูพี่ตั้มหน้าเครียดเชียวค่ะ”
นลินนิภาพยายามพูดเชิงเย้าหยอกสองแม่ลูกมองหน้าสลับสองคนไปมา แต่หมอตั้มก็ยังทำหน้าตาเคร่งขรึมเช่นเดิม
“สำคัญมาก ๆ เลยล่ะจ่ะลูก..หนูฟ้า เอางี้ละกันนะลูกวันนี้หนูฟ้ากลับไปพักผ่อนที่บ้านก่อนแล้วกันนะจ๊ะ เดี๋ยวป้าให้พี่ตั้มไปส่ง”
“หูย!!..คงจะสำคัญมากจริง ๆ สินะคะ ให้ฟ้ากลับบ้านเลย คิกคิก”
“ก็ประมาณนั้นแหละลูก ตาตั้มไปส่งน้องกลับบ้านหน่อยสิ”
“ผมไม่ไป!! ใครเสนอหน้ามาเองก็กลับไปเองก็แล้วกัน..คงอยากมีผัวจนตัวสั่นสินะ..หึ!!”
ทั้งสีหน้าและแววตาของหมอตั้มที่เปลี่ยนไปทำให้นลินนิภาถึงกับงงหนักว่ามันเกิดอะไรขึ้น?
“ตาตั้ม!!” คุณกฤติยาถึงกับเอ็ดลูกชายตัวดีออกมาเสียงดังเมื่อได้ยินประโยคที่ไม่เสนาะหู
ตั้มไม่สนใจเสียงเอ็ดของผู้เป็นมารดา พูดเสร็จชายหนุ่มก็เดินเข้าห้องของคุณนิคมไปอย่างรวดเร็วทิ้งให้นลินนิภาที่กำลังชะงักอยู่ เพราะได้ยินประโยคที่ เธอไม่เคยได้ยินจากเขามาก่อนยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้น
“เกิดอะไรขึ้นเหรอคุณป้า? ทำไมพี่ตั้ม ถึงมองฟ้าและใช้คำพูดแบบนั้นกับฟ้าด้วยล่ะคะ?”
“ไม่มีอะไรหรอกจ้าลูกหนูฟ้า พี่ตั้มก็คงจะตกใจนะลูก แต่เดี๋ยวเขาก็คงจะดีขึ้น หนูกลับบ้านไปพักผ่อนก่อนเถอะจ๊ะ เดี๋ยวป้าไปส่งให้นายชูขับรถไปให้”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณป้าฟ้ากลับเองได้ค่ะ ฟ้าฝากลาคุณลุงด้วยนะคะ ไม่อยากเข้าไปเจอพี่ตั้มนะค่ะคุณ ไม่รู้ว่าโมโหอะไรฟ้า แต่กลัวสายตาที่พี่ตั้มมองฟ้าเมื่อกี้เหลือเกินค่ะ”
“ป้าต้องขอโทษแทนพี่ตั้มของหนูด้วยนะจ๊ะที่ทำกิริยามารยาทที่ไม่น่ารักออกมา เดี๋ยวป้าไปส่งดีกว่าทิ้งหนูไปคนเดียวป้าไม่สบายใจ .. ป่ะไปกันเถอะ”
“แต่ว่าคุณลุง…”
“ไม่เป็นไรหรอกจ่ะ ตาตั้มอยู่แล้วกันเถอะจ่ะเดี๋ยวจะค่ำเอา”
“ค่ะคุณป้า”
นลินนิภาเดินตามว่าที่แม่สามีที่เธอยังไม่รู้ไปอย่างว่าง่าย
...
สองคนขึ้นไปนั่งบนรถ ภายในรถ บรรยากาศอึดอัดอย่างที่สุด คุณกฤติยาจากที่เป็นคนพูดเก่งคุยจ้อก็เงียบขรึมอย่างเห็นได้ชัด นลินนิภาที่สงสัยงุนงงในเหตุการณ์เมื่อกี้ ก็ยิ่งมึนงงสงสัยหนักเข้าไปอีกเมื่อเห็นพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของคุณกฤติยา สองคนไม่พูดอะไรกันจนถึงไร่เอกธนนรากุล
...
ไร่เอกธนนรากุล
“อ้าว!! หนูฟ้ากลับมาแล้วเหรอลูก?”
คุณอลิษาเอ่ยทักลูกสาวเสียงใสขึ้นทันทีเมื่อเห็นลูกสาวสุดที่รักเดินเข้ามาในบ้าน และก็ต้องแปลกใจเล็กน้อยที่คุณกฤติยาเดินตามลูกสาวของเธอเข้ามาด้วย
“อ้าว..คุณพี่..ก็..มาด้วยเหรอคะ?”
คุณอลิษาคลี่ยิ้มออกมาจาง ๆ เพราะไม่คิดว่านลินนิภาจะมีคนติดตามมาด้วย
“ค่ะ..คุณแม่”
“พอดีตาตั้มไม่ว่างน่ะ พี่เลยอาสามาส่งหนูฟ้าเอง”
“อ๋อ..อย่างนั้นเองเหรอคะ? เชิญนั่งก่อนค่ะคุณพี่เดี๋ยวสาจะให้แม่บ้านนำอาหารว่างมาเสิร์ฟให้นะคะ”
“พี่อยู่ไม่นานหรอก ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว คุยกันตอนนี้เลยดีกว่านะพี่ว่า”
“อ๋อ..ก็ได้ค่ะ สาก็กะว่าจะบอกลูกอยู่เหมือนกันค่ะ”
“มีเรื่องอะไรกันเหรอคะ คุณแม่ คุณป้า?”
“ป้าไม่อ้อมค้อมแล้วนะ ป้ามาสู่ขอหนูฟ้ากับคุณพ่อคุณแม่ของหนูเรียบร้อยแล้ว และทั้งสองคนก็ตกลงแล้วป้าก็อยากจะบอกเรื่องนี้กับหนูแต่อยากให้มาฟังพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้ดีกว่า
นลินนิภาแทบทรุดเมื่อได้ยินในประโยคที่คุณกฤติยาพูดออกมา
“ไม่ได้นะคะคุณป้า!! คุณพ่อคุณแม่!! แบบนี้มันไม่ถูกต้องนะคะ พี่ตั้มกับปลอบขวัญกำลังคบกันอยู่ แบบนี้ก็เท่ากับฟ้าไปทำให้พวกเขามีปัญหากันนะคะ อีกอย่างพี่ตั้มไม่ได้รักฟ้า เราสองคนจะแต่งงานกันได้ยังไงกันคะ?”
“ตาตั้มกับหนูขวัญได้มีอะไรกันเลยลูก พี่ตั้มของหนูก็บอกป้าแล้วว่าห่างกันไป เพราะตอนนี้เขาก็มาดูแลคุณลุงแถมโรงพยาบาลสัตว์ที่กำลังสร้างอยู่อีกแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่สองคนนี้จะมาบรรจบกันได้ เชื่อป้าเถอะนะหนูฟ้า สองคนนี้เขาไม่มีอะไรกันจริง ๆ”
“แต่…”
“แม่เช็คมาแล้ว หนูขวัญกับพี่ตั้มยังไม่ได้เป็นแฟนกันนะลูก”
คุณอลิษาสำทับขึ้นอย่างใจเย็น
“แล้วพี่ตั้มล่ะคะ? พี่เขาไม่พอใจฟ้า ก็เพราะเรื่องนี้ใช่ไหมคะ?”
“เรื่องตาตั้ม ป้าจะเป็นคนพูดและอธิบายให้พี่เขาฟังเองนะลูก หนูเป็นคนน่ารักใครอยู่ใกล้ก็รักหนูทั้งนั้น ตาตั้มเป็นคนปากกับใจไม่ตรงกัน หนูอย่าถือสาเลยนะลูก อีกไม่กี่วันพี่ต้ากับพี่เต้ก็จะมารับคุณลุงไปผ่าตัดที่ต่างประเทศแล้ว คุณลุงบอกว่าจะไม่ไปไหนทั้งนั้นถ้าหนูไม่ไปด้วย และป้ากับลุงไม่อยากให้หนูไปในฐานะคนดูแลเพราะญาติ ๆ ทางนั้นเขาก็อยากเห็นหลานสะใภ้ในฐานะเมียตาตั้ม อีกทั้งหากไปในฐานะคนดูแลก็กลัวหนูจะถูกรังแกได้ง่าย ๆ ป้าขอโทษนะที่เห็นแก่ตัวอย่างนี้ แต่ป้าไม่มีทางเลือกแล้วจริง ๆ นะลูกหนูฟ้า ฮือ ๆ ๆ”
คุณกฤติยาร้องไห้ออกมาด้วยความอัดอั้นตันใจ ไม่ใช่ว่าเธอจะอยากบังคับจิตใจลูกและหนูฟ้า แต่เพราะกลัวว่าสามีผู้เป็นที่รักจะเป็นอะไรไปอีกเธอจึงต้องทำแบบนี้
“ไม่เป็นไรนะคะคุณป้า อย่าร้องไห้เลยนะคะ”
นลินนิภาเองก็ไม่ได้อึดอัดใจที่จะแต่งงานกับหมอตั้ม เธอตั้งใจไว้แล้วว่าทั้งชีวิตนี้จะมีแค่พี่ตั้ม เหนือสมุทร คนเดียวเท่านั้น ต่อให้ได้แต่งงานหรือไม่ได้แต่งกับชายหนุ่ม เธอก็จะรัก และซื่อสัตย์กับเขาแค่คนเดียวตลอดไป
“แล้วหนูจะช่วยป้าได้ไหมจ๊ะ? แต่งงานกับพี่ตั้มเพื่อพาคุณลุงไปผ่าตัดที่รัสเซียด้วยกัน?”
“ตกลงค่ะ..หนูจะแต่งงานกับพี่ตั้มค่ะคุณป้า”
นลินนิภาสบตากับคุณกฤติยาพยักหน้ารับคำ คุณกฤติยายิ้มออกมาด้วยความดีใจกรี๊ดออกมาสุดเสียง โผกอดนลินนิภาอย่างแรงจนร่างบางถลาไปข้างหลังเกือบล้ม
“กรี๊ดดดดด!!!..ขอบคุณมากนะลูกหนูฟ้า ป้าดีใจจริง ๆ ดีใจมาก ๆ ป้าจะนำข่าวดีนี้ไปแจ้งคุณลุง เขาจะต้องดีใจมากแน่ ๆ ลูก ป้ากลับก่อนนะ พรุ่งนี้ป้าจะให้พี่ตั้มมารับ ไปลองชุดและเลือกการ์ดแต่งงานนะจ๊ะ ป้ากลับก่อน แล้วเจอกันนะลูก”
คุณกฤติยาโผกอดนลินนิภาอีกครั้งรีบเดินออกจากบ้านไป นลินนิภาหันมาสบตาผู้เป็นบิดาและมารดา สองคนพยักหน้าให้ลูกสาวย้ำความมั่นใจให้กับลูก ร่างบางจึงเดินเข้าห้องนอนตัวเองทิ้งตัวบนเตียงนอนสีขาวสะอาดตาความรู้ดีใจและเสียใจก่อเกิดขึ้นมาพร้อมกัน จนเธอไม่รู้ว่าจะต้องรู้สึกยังไงกันแน่จนผล็อยหลับไป
...
ตัดมาที่ หมอตั้ม
เมื่อได้คุยกับคุณกฤติยาแล้วจึงยกโทรศัพท์กดหาปลอบขวัญ
RRRRRRRR เสียงไลน์ปลอบขวัญดังขึ้น เป็นรูปหมอตั้ม
ปลอบขวัญ : สวัสดีค่ะพี่ตั้ม คุณพ่อ เป็นยังไงบ้างคะ?
หมอตั้ม : ดีขึ้นมากแล้วค่ะน้องขวัญ แต่ยังต้องกายภาพบำบัด พี่ ๆ ของพี่จะพาคุณพ่อไปผ่าตัดที่ ต่างประเทศน้อง ขวัญเป็นไงบ้างคะ? โทรคุยกันแบบนี้มา สามเดือนแล้ว ไม่ได้เจอกันเลย
ปลอบขวัญ : ขวัญสบายดีค่ะพี่ตั้ม พี่ตั้มไม่ต้องกังวลนะคะ ทำหน้าที่ ของพี่ตั้มให้ดีที่สุดเลยนะคะ มีอะไรก็โทรหาขวัญได้ตลอดเลย ขวัญดีใจค่ะ ที่คุณพ่อพี่ตั้มดีขึ้น
หมอตั้ม : กำลังใจส่วนนึงก็มาจากน้องขวัญด้วยนั่นแหละค่ะ พี่ขอโทษนะคะที่ไม่ได้ไปหาน้องขวัญเลย ที่ทำงานก็ไม่ได้เจอกันเลย เพราะพี่ยุ่งมากๆ เลยค่ะ
ปลอบขวัญ : ไม่เป็นไรเลยค่ะพี่ตั้ม ขอบคุณมากนะคะที่คิดถึงขวัญ
หมอตั้ม : ครับ พี่ก็คิดถึงน้องขวัญตลอดนะครับ .. น้องขวัญครับเอ่อออ…..
ปลอบขวัญ : คะ?
หมอตั้ม : ไม่มีอะไรค่ะ .. แค่นี้ก่อนนะคะ พี่ไปดูแลคุณพ่อก่อน
ปลอบขวัญ : ค่ะ
บทสนทนาสั้น ๆ จบลงตั้มถอนหายใจเฮือกใหญ่ไม่รู้ว่าจะบอกปลอบขวัญยังไงดี ชายหนุ่มเอนหลังลงที่โซฟาสีขาวนวลหน้าห้องของคุณอาคม เอามือก่ายหน้าผาก หลับตาพ่นลมหายใจยาว ๆ ออกมา ด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้ง
“ฟู่!!!”
