ตอนที่ 2/1
ตอนที่ 2/1
ตอนที่ 2/1
ลีลี่ออกจากร้านกาแฟของตัวเองมาได้ ก็รีบมาหาผู้ชายถึงที่สนามฟุตบอลเลย ใช้เวลาเคลียร์ร้านกาแฟซึ่งเป็นกิจการเล็กๆ ของตัวเองมาได้ก็ไม่ถึง 1 ชั่วโมง
วันนี้เพื่อนของเฮียอรรถแวะไปซื้อกาแฟที่ร้าน ถึงได้รู้ว่ามีแข่งบอลกันที่นี่ สโมสรของพ่อเฮียฉี
และที่ลี่ต้องรีบแว๊นมอไซค์มา ก็เพราะรู้ว่าหลังจากเขาเลิกแข่งกันแล้วกลุ่มชายฉกรรจ์นับ 10 คน จะแวะกันไปที่ไหนต่อ
“ตามมาทำไม?” เฮียอรรถส่งสายตารำคาญมองหน้าลี่ เขาถอนหายใจใส่เธอเป็นประจำจนเริ่มชินแล้ว
3 วันแล้วที่ป๊าม๊าของเฮียอรรถไปธุระต่างจังหวัดยังไม่กลับ จากเดิมที่กำหนดบอกว่าจะกลับมื่อวาน ทว่ายังติดงานจัดการธุระฝั่งนั้นไม่แล้วเสร็จ ได้ข่าวว่าญาติฝั่งครูเอื้องเสียก็เลยต้องรีบไปกะทันหัน แต่เฮียอรรถไม่ได้ไปด้วย ซึ่งลี่เองก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด
“ก็มาตามเฮียกลับบ้านไง” มืดค่ำไม่รู้จักทางกลับบ้าน ทั้งที่ก็รู้ว่าไม่มีคนอยู่ แทนที่รู้สึกเป็นห่วงบ้านกลับเอาเวลามาเที่ยวเตร่
“นี่ เป็นแม่รึไงกัน? รำคาญ” เขาตำหนิคนมาใหม่พร้อมกับเดินมุ่งตรงไปที่รถ เพื่อนขับออกไปกันทุกคนแล้ว จะเหลือก็แต่เขากับไอ้เชี่ยวนี่แหละ ที่กำลังจะตามไปติดๆ
ไม่นานเพื่อนรักของเขาก็ตามตูดมาติดๆ รวมทั้งแม่คนที่สองของเขาด้วย
วันนี้ไอ้เชี่ยวมันไม่ได้เอารถมา คงจะอาศัยเขาไปที่ร้านเชษด้วย มันกระซิบบอกเขาว่าจะไปนั่งรออยู่ในรถเปิดแอร์เย็นๆ ระหว่างที่เขาจะต้องไล่เคลียร์แม่คนที่สองกลับไปเฝ้าบ้านแทน
“นี่เฮียจะรีบไปไหน?” เธอยังคงเดินตามมาถี่ๆ
เขาหยุดเดินกะทันหันจนอีกฝ่ายที่ไม่ทันระวังตัวเผลอชนเข้า ใบหน้ามนสวยกระแทกเข้ากับแผ่นหลังที่เปียกชุ่มไปด้วยเหงื่ออย่างจัง จนความเปียกชื้นนั้นติดใบหน้าไปด้วย
“อี๊! จะหยุดเดินทำไมไม่บอก!” เธอเอ็ดคนตรงหน้าพลางยกมือขึ้นเช็ดแก้มขาวๆ ของตนเอง
“แล้วใครบอกให้ตามมา?”
“ก็มาตามเฮียกลับบ้านไง วันนี้ม๊าเฮียโทรมาบอกให้เฮียรีบกลับ ไม่มีคนเฝ้าน้องจู๋” น้องจู๋ หรือที่เรียกกันว่า ไอ้กระจู๋หมากระจอก มันเป็นสุนัขพันธุ์บ็อกเซอร์ ลูกผสมระหว่างบูเลนไบเซอร์กับอิงลิชบูลด็อก มันเป็นเพศผู้ลักษณะตัวอ้วนท้วม ขนสีครีมปนขาว ชอบทำหน้าโง่ๆ ตลอดเวลา ทั้งที่จริงๆ แล้วมันฉลาดเอาเรื่อง
เดิมทีไอ้จู๋มันไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของบ้านเขา ทว่าตอนที่มันยังเด็ก มันหลงทางถูกปล่อยทิ้งเอาไว้ ม๊าเขาเลิกงานแล้วขับรถมาเห็นเข้าก็เลยได้มันมาเป็นลูกชายเล็กของบ้าน
...ไม่ใช่สิ มันไม่ใช่ลูกชาย แต่เป็นคุณชายเลยต่างหาก เพราะทั้งป๊ากับม๊าเขารักมันมาก มากกว่าลูกในไส้อย่างเขาเลยด้วยซ้ำ ไอ้กระจู๋หมาหน้ามึนที่เขาเกลียดมัน มันคือศัตรูหมายเลขหนึ่ง ตัวหารมรดกกับเขา!
“แล้วไง? ปกติม๊ากับป๊าไม่อยู่ เธอก็มีกุญแจเข้าไปให้อาหารมันได้
อย่ามาบอกเลยว่าคำสั่งของป๊ากับม๊าที่ให้เขากลับไปเฝ้าบ้าน ดูแลไอ้กระจู๋ ทั้งที่แต่ก่อนลีลี่ก็เลี้ยงดูและให้อาหารมันแทนได้
แต่เธอหาข้ออ้างไง ข้ออ้างเพื่อที่จะใช้หาเรื่องไม่ให้เขาออกไปไหนกับเพื่อน
เธอมันร้าย!
“เฮียอรรถ! นี่!”
เขาไม่สนจะยืนต่อปากต่อคำกับยัยลีลี่อีกต่อไป จึงรีบสาวเท้าขึ้นไปยังรถที่มีเพื่อนตัวเองนั่งรออยู่ก่อนหน้านี้
สายธารเองก็ดูเป็นงาน เมื่อเห็นว่าเพื่อนรีบกระโดดขึ้นฝั่งคนนั่งแล้ว คนขับอย่างเขาจึงมีหน้าที่รีบเหยียบคันเร่งเบี่ยงรถออกหนีจากมารดาคนที่สองของไอ้อรรถให้ได้
และแล้วพวกเขาก็หลุดพ้น คราวนี้ลีลี่คงตามมาไม่ทัน อัครเดชหายใจโล่ง มองดูพระอาทิตย์นอกถนนเหมือนมันกำลังเคลื่อนที่วิ่งตามรถเขาไปด้วย คงจะมีแต่มันเท่านั้นแหละที่วิ่งตามเขาทัน ส่วนยัยจอมวุ่นวายนั่นป่านนี้คงร้องไห้ขับมอไซค์กลับบ้านไปแล้ว
“แม่ง กูล่ะเหลือเชื่อกับน้องลี่จริงๆ ว่ะ ทนชอบผู้ชายเฮ็งซวยแบบเพื่อนกูมาได้ยังไง ตั้งแต่ตีนเท่าฝาหอย จนตอนนี้หอยเท่าฝาห..”
“ไอ้เชี่ย! หยุดเลยมึง”
สายธารรีบยกมือขึ้นลูบใบหน้าตัวเองอย่างแรง เพราะน้ำลายของเพื่อนที่พูดพร้อมประโยคเมื่อครู่นี้ มันกระแทกใส่หน้าเขาเต็มๆ “กูชื่อเชี่ยว ไม่ใช่เชี่ย ไอ้เวร”
“เออรู้แล้ว เดี๋ยวเถอะมึง แล้วก็หยุดพูดถึงยัยเด็กนั่นสักที กูรำคาญ”
มีวันไหนบ้างที่เขาจะไม่เห็นเธอวิ่งมาทำหน้าสลอนใส่เขา
คำตอบคือไม่มี...
ไม่มีวันไหนที่เขาจะเป็นอิสระจากผู้หญิงคนนี้ได้
ทั้งที่ภาวนาขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุกวันว่าตื่นเช้าขออย่าได้เจอหน้า แต่ก็นะ... อย่างที่เห็น
โถ่เว้ย! ใช่สิ นอกจากที่เขาจะไม่ใช่ลูกรักป๊ากับม๊าแล้ว ยังจะไม่ใช่ลูกรักของพระเจ้าอีก ถึงว่า... ขออะไรไป แม่งแคนเซิลออเดอร์กูหมดเลย