ตอนที่ 1/3
ตอนที่ 1/3
หลังจากวันนั้นมานี่ 3 วันแล้ว ที่เกิดเรื่องขึ้นวันนั้น สุดท้ายทั้งคู่ก็หาข้อสรุปกันไม่ได้ คนที่บุกรุกขึ้นบ้านคนอื่นก็ยอมเดินกลับมาบ้านตัวเองด้วยสภาพห่อเหี่ยวไปทั้งตัว ส่วนคนที่อยากจะเอาแต่ตัวลี่ก็ต้องคิดใหม่ จากที่ก่อนหน้านั้นไปกินเหล้าที่บ้านเพื่อนกำลังกรึ่มๆ เมาได้ที่ ก็เกิดอยากเอาลี่ขึ้นมา ทว่าพอฝ่ายนั้นซักไซ้หวังจะเอาเขามาเป็นผัวจริงๆ ให้ได้ จากที่กรึ่มๆ เมา ก็ต้องสร่างขึ้นมาทันตา และแล้วก็เลยคิดใหม่ได้ว่าต่อให้คุณเธอ จะหุ่นสวย ผิวดี ตาคม นมโต และน่าจะเยเย้สักแค่ไหน แต่ถ้าขึ้นชื่อว่าลีลี่เด็กสาวขี้บ่นข้างบ้าน ต่อให้วันนั้นเขาจะปวดค*วยตัวเองจนอยากจะแย่รูใส่แค่ไหนก็ต้องหักห้ามใจ และปล่อยให้เรื่องนี้มันเกิดขึ้นไม่ได้
"ไอ้อรรถ เป็นห่าอะไรวะวันนี้ไม่มีสมาธิเลยนะมึง" ไอ้เชี่ยว หรือน้ำเชี่ยว สายธาร ปัฐมาทร ลูกชายเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างและอุปกรณ์การก่อสร้าง หนึ่งในเพื่อนร่วมทีมในสนามบอลคนสนิทเดินถือน้ำขวดมากระแทกใส่อกเขาแบบเล่นทีจริง
ก็วันนี้แมตช์สำคัญที่ทีมเขากำลังจะเอาแต้มคืนมาได้ หลังจากที่เคยแพ้ทีมนั้นมาสัปดาห์ที่แล้ว แต่แล้วก็แพ้ทีมนั้นอีกรอบด้วยสกอร์ 1-3 เกือบตีไข่ไม่แตกแล้ว ดีที่ช่วงหลังมีคนทำคะแนนได้ ไม่อย่างนั้นวันนี้ไอ้เชี่ยวเพื่อนเขานี่แหละจะเชือดทุกคนในทีม มันเป็นคนทำอะไรจริงจังเสมอ โดยเฉพาะเรื่องเตะบอล มันชวนเขามาเล่นจนกลายเป็นงานอดิเรกไปแล้ว
ขณะที่อัครเดชและสายธารกำลังนั่งพักเหนื่อยหลังจบเกมการแข่งขัน ไม่นานก็มีเพื่อนร่วมทีมยกโขยงกันออกมาจากสนาม หลายคนยังคงบ่นพึมพำกับการแข่งขันที่จบไป บ้างก็เดินเกาหัวหงุดหงิดไม่หาย
มีจังหวะหนึ่งที่ทางฝั่งนั้นได้เล่นลูกโทษ เพราะความอัครเดชดันไปเตะขามันล้มกลิ้งลงหลายตลบไปกับพื้นหญ้า ไม่รู้ว่ามันเจ็บจริงหรือแสดงโชว์เพื่อเอาลูกโทษอยู่กันแน่ จากที่เปิดแต้มด้วยการยิงประตูลูกโทษได้ ฝ่ายนั้นก็ได้แต้มติดต่อกันมาเลย
3 ต่อ 1 คะแนน งานนี้ฝ่ายนั้นคงยิ้มหน้าบานกันยกใหญ่แล้ว แต่ทีม 'นั่งร้านยานยนต์' หรือจะยอมให้ทีมของไอ้สารวัตรหน้าวอกนั่น ฟ้ายังมีหม่น ฝนยังมีวันแล้ง สลากยังมีกินแบ่ง หากจะเต็มใจแพ้ไม่มีทาง... พี่ติ๊กไม่ได้บอก แต่กูบอกเอง
"แม่งเอ้ย หงุดหงิดว่ะ!" เป็นภาคภูมิเพื่อนร่วมทีมเอ่ยขึ้น เขาชักสีหน้าใส่คนที่นั่งข้างสนามก่อนหน้านี้ หากไม่เป็นเพราะอัครเดช ป่านนี้เราไม่ปล่อยให้เสียแต้มง่ายๆ หรอก
"เอาหน่าไอ้ภูมิ มึงก็ใจเย็นๆ หน่อย" น้ำเชี่ยว หรือสายธาร เอ่ยปลอบเพื่อน สายตาของไอ้ภูมิราวกับจะฉีกเนื้อไอ้อรรถออกมาเป็นชิ้นๆ และเพื่อนในทีมอีกหลายคนก็เช่นกัน
แต่คนที่กำลังทำให้เพื่อนหงุดหงิดอยู่กลับนิ่งเฉยทำท่าไม่เดือดร้อน ทั้งที่ในใจก็รู้ดีว่าตัวเองผิด แต่แล้วไงวะ... ถ้าคนของทีมนั้นไม่มากวนตีนใส่กูก่อนมันคงไม่โดนกูเตะหรอก
พูดแล้วก็หมั่นไส้ไอ้คนชื่อจักร กวนตีนกูชิปหายหลายรอบแล้วมันน่ะ อย่ามาอ้างว่าเป็นเพื่อนกับไอ้สารวัตรปลื้มเลย มันใหญ่แล้วไงวะ กูใหญ่กว่าแล้วกัน... หมายถึงหำกูนะที่ใหญ่กว่ามึงอ่ะไอ้เหี้ย
"ไอ้อรรถ กูถามจริงๆ วันนี้มึงเป็นห่าไร" คนปากปีจออย่างภาคภูมิก็ยังไม่ยอมจบ จะเอาเรื่องเพื่อนตัวเองให้ได้ เขาเองก็อยากชนะทีมนั้นให้ได้สักที แม่งแข่งกันมากี่ทีก็แพ้พวกมัน ไอ้พวกทีมตำรวจนั่นมันชอบทำตัวกร่างอ้างว่าเก่ง นำทีมโดยไอ้สาววัตรปลื้ม ลูกชายผู้กำกับเหม พวกตระกูลนี้แดกตำแหน่งราชการมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ไม่แน่ใจว่าที่ได้กันมาเพราะผลงานหรือเพราะระบบอุปถัมภ์ที่เครือญาติพวกมันสร้างมา และลูกน้องของมันอีกน่าหมั่นไส้
"กูหมั่นไส้มัน จบนะ" อัครเดชตอบเพื่อนสั้นๆ
ภาคภูมิรู้ว่าอัครเดชและเพื่อนเขาหลายคนก็ไม่ชอบขี้หน้ามัน ทว่าการที่อัครเดชใช้อารมณ์นำเกม มันมีแต่เสียกับเสีย
"คราวหน้ามึงใจเย็นกว่านี้ มึงก็รู้ว่าพวกต้องชนะให้ได้"
"เออ กูขอโทษแล้วกัน" ขอโทษที่กูเตะตัดขามันน้อยไปหน่อย
น้ำเชี่ยวนั่งฟังเพื่อนๆ อยู่สักพัก พอทุกคนเริ่มสงบสติอารมณ์ตัวเองลงได้ พวกจึงลุกขึ้นยืนเอามือเท้าเอวควานหาเสียงตัวเอง "เฮ้ย จบแล้วใช่ไหมพวกมึง เคลียร์กันจบแล้วก็ไปแดกเหล้ากันดีกว่า กูหิวจนตับสั่นแล้ว"
เพื่อนในทีมพยักหน้าเห็นพร้องต้องกัน ชีวิตแก๊งบักขี้เมามันก็มีกันอยู่แค่นี้ เตะบอลเสร็จก็นู่นแหละร้านเหล้าไอ้เชษ หรือไม่ก็ที่อู่ซ่อมรถของไอ้ฉีมัน แต่ช่วงนี้เพื่อนฉีมันกำลังติดหลี ไม่ยอมต้อนรับเพื่อนเข้าบ้าน วันๆ เอาแต่ทำตามคำสั่งเมีย จากที่เคยไปเที่ยวเตร่ด้วยกันกับเพื่อนฝูง ทุกวันนี้กลับกลายเป็นแมวเชื่องๆ ทำแต่งานหาเงินซื้อนมเลี้ยงลูก
"เออ เจอกันร้านไอ้เชษนะพวกมึง" อัครเดชลุกขึ้นยืน เตรียมกระเป๋าสัมภาระพร้อมจะไปขับ BMW คันโปรดของตัวเองออกไปที่นัดหมาย ขณะที่เพื่อนๆ คนอื่นก็กำลังสลายตัวเดินไปที่รถของใครของมัน
ไอ้เชษมันรวยเอารวยเอาไม่ใช่เพราะร้านมันดีหรอก แต่เป็นเพราะได้ขายเหล้าให้เพื่อนขี้เมาอย่างพวกเขานี่แหละ เรียกได้ว่าซัปพอร์ตกิจการของเพื่อนกันแบบสุดๆ
แต่แล้วยังไม่ทันจะก้าวออกไปถึงรถ กลับได้ยินเพื่อนเขาร้องสะกิดก่อน
"เฮ้ย! ไอ้อรรถ กูว่างานนี้มึงแห้วแล้วว่ะ" น้ำเชี่ยวเพยิดหน้าให้เพื่อนหันไปดูบุคคลมาใหม่
"?"
อัครเดชหันหลังไปตามทิศทางทีเพื่อนส่งซิก เขาถอนหายใจแรงๆ พร้อมกับส่ายหน้า เมื่อร่างอรชรของใครบางคนกำลังเดินมุ่งมาทางเขา
"เจ้าที่มึงมาละ อดแน่มึง" นี่ก็ซ้ำเติมกูจังเลย
"เฮียอรรถ! จะไปไหน?" เสียงแปดหลอดของคุณเธอดังขึ้นตั้งแต่ยังเดินมา
ไม่ถึงตัวเขา พูดดักทางกูซะขนาดนี้ งานเข้าแล้วล่ะ