ตอนที่4 การพรากจากกันของสองพี่น้อง
“เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร” หลี่เยว่เล่อถามหลู่ม่านม่าน
“เจ้าค่ะ ข้ารู้ท่านคือพี่สาวฝาแฝดของฮองเฮา” หลู่ม่านม่านเอ่ย
หลู่ม่านม่านปรนนิบัติอาบน้ำให้หลี่เยว่เล่อ นางมองหลี่เยว่เล่ออย่างพินิจพิจารณา แต่นางกลับไม่เห็นว่าหลี่เยว่เล่อจะมีส่วนไหนที่เหมือนสวี่ฮองเฮาเลย
‘หรือว่านางจะหลอกลวงอ๋องน้อยเหลียนว่านางคือพี่สาวฝาแฝดของฮองเฮา เพราะอย่างไรเสียพวกเขาทุกคนล้วนไม่เคยเจอกัน หากนางคิดจะแอบอ้างก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ แต่คนอย่างท่านอ๋องน้อยเหลียนก็ไม่น่าจะโดนหลอกง่ายๆ’ หลู่ม่านม่านได้แต่คิดอยู่ในใจไม่กล้าเอ่ยออกมา
“เจ้าอยากรู้สินะว่าทำไมหน้าตาข้าถึงไม่เหมือนฮองเฮา” หลี่เยว่เล่อเอ่ยเมื่อเห็นท่าทางของหลู่ม่านม่าน
“เจ้าค่ะ ท่านรู้ได้อย่างไรว่าข้าน้อยสงสัยเรื่องนี้หรือเจ้าค่ะ”
“หน้าตาเจ้าบ่งบอกนะสิ อีกทั้งข้าเห็นเจ้าแอบมองหน้าข้าอยู่หลายครั้งตั้งแต่ในห้องโถงแล้ว”
“ขอโทษเจ้าค่ะ ข้าน้อยเสียมารยาทแล้ว ข้าน้อยเพียงเคยได้ยินว่าฝาแฝดจะมีหน้าตาที่เหมือนกัน แต่ท่านกับฮองเฮากลับไม่มีส่วนไหนที่คล้ายคลึงกันเลย” หลู่ม่านม่านยิ้มอย่างอายๆ เมื่อได้รู้ว่าตนได้แสดงทีท่าน่าอายให้หลี่เยว่เล่อเห็น
“หน้านี้ไม่ใช่หน้าจริงของข้า” หลี่เยว่เล่อดึงหน้ากากหนังเนื้อออกมา เผยหน้าจริงให้หลู่ม่านม่านเห็น
ม่านม่านตกตะลึงดวงตาเบิกโต นางไม่คิดว่าหลี่เยว่เล่อจะแปลงโฉมได้อย่างแนบเนียนจนแยกไม่ออกว่าเป็นหน้ากาก และยังตื่นเต้นที่ได้พบเจอกับคนที่มีหน้าตาเหมือนกับสวี่ฮองเฮาจนแยกไม่ออก เช่นนี้ก็ไม่แปลกที่ท่านอ๋องน้อยเหลียนจะรู้ได้ทันทีว่านางเป็นใครถึงแม้จะไม่เคยพบเจอกันมาก่อน
“สมแล้วที่เป็นฝาแฝด ท่านช่างเหมือนฮองเฮาจริง ๆหากใส่เสื้อผ้าเหมือนกันข้าน้อยต้องแยกไม่ออกเป็นแน่ว่าคนไหนคือคุณหนูหลี่คนไหนคือฮองเฮา” ม่านม่านยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เพราะนางมั่นใจแล้วว่านี่คือพี่สาวของฮองเฮาจริง ๆ และนางดีใจแทนฮองเฮาที่จะได้เจอกับพี่สาวที่นางรอคอยมานาน
เมื่อ19ปีก่อน
เหลียนอ๋องได้รับข่าวจากสหายฮั่วว่าภรรยาของเขาคลอดลูกแฝดหญิง จึงได้ส่งองครักษ์ลับหลี่ที่สนิทข้างกายมาส่งมอบของขวัญให้หลานสาวทั้งสอง เนื่องจากองครักษ์ลับหลี่และสหายฮั่วรู้จักกันเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว หากองครักษ์ลับหลี่จะเดินทางมาเพื่อเยี่ยมเยือนก็คงดูไม่แปลกนัก
ถึงเหลียนอ๋องจะเป็นอ๋องครองแคว้นแต่กับสหายเขาก็เป็นคนที่จริงใจและไม่ถือฐานะ ยิ่งกับสหายตั้งแต่วัยเยาว์ที่สนิทกับเขาตั้งแต่ยังเป็นเพียงองค์ชายที่ไม่ได้มีความสำคัญและไม่ได้มีอำนาจเพราะมีมารดาเป็นเพียงเสียนเฟยเท่านั้น เขาจึงให้ความสำคัญกับสหายฮั่วมากเป็นพิเศษ
ใจจริงเขาอยากเดินทางมาด้วยตนเอง เพราะอยากมาเห็นหน้าหลานสาวทั้งสอง และในใจยังอยากหมั้นหมายหลานสาวหนึ่งคนให้กับบุตรชายของเขาที่เพิ่งอายุได้5หนาวอีกด้วย
เหตุที่เหลียนอ๋องมาเองไม่ได้เพราะเขาเป็นอ๋องครองแคว้นเหลียนการจะเดินทางออกนอกเมืองโดยเฉพาะจะเดินทางมาเมืองหลวงย่อมเกิดผลกระทบหลายด้าน ถึงตัวเขาเองไม่มีเจตนาร้าย และเขาเชื่อว่าฮ่องเต้องค์ก่อนที่เป็นพี่ชายต่างมารดากันจะไว้ใจเขา แต่พวกขุนนางย่อมไม่คิดเช่นนั้นและคงจะกราบทูลเรื่องของเขาจนต้องทำให้ฮ่องเต้ลำบากใจ
อีกทั้งหากเขามาส่งของขวัญให้สหายฮั่วอย่างโจ่งแจ้ง ก็อาจนำภัยมาสู่สหายฮั่วได้ เพราะอย่างไรสหายฮั่วก็เป็นองครักษ์ประจำตำหนักเฉียนชิงที่ฮ่องเต้ทรงประทับอยู่ หากมีคนรู้ว่าสหายฮั่วติดต่อกับท่านอ๋องครองแคว้นก็อาจสร้างความเดือดร้อนให้สหายฮั่วได้
แต่ใครจะรู้ว่าการส่งคนมามอบของรับขวัญหลานทั้งสองครั้งนี้จะกลับกลายเป็นมารับหลานทั้งสองไป ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีเพราะหากไม่มีองครักษ์ลับหลี่ที่ท่านเหลียนอ๋องส่งมาในวันนั้นเด็กน้อยทั้งสองคงไม่มีโอกาสมีชีวิตอยู่จนถึงวันนี้
แต่เพราะองครักษ์ลับหลี่ผู้นั้นต้องพาเด็กน้อยทั้งสองหนีการตามล่า และยังต้องกลบเกลื่อนตัวตนของตนเองเพราะเขาไม่รู้ว่าเหตุใดครอบครัวสกุลฮั่วจึงถูกฆ่าล้างตระกูล หนำซ้ำไม่ใช่คนทั่วไปนักฆ่าที่มาล้วนมีทักษะที่ถูกฝึกมาเป็นอย่างดี เขาจึงไม่อาจเร่งกลับแคว้นเหลียนได้ แต่หากจะให้หอบเด็กทั้งสองไปด้วยก็คงไม่ได้ แต่จะฝากเด็กไว้กับผู้อื่นเขาเองก็ไม่ไว้วางใจ
เขาจึงนำเด็กไปฝากไว้กับพี่ชายที่เป็นทหารเก่า เพราะการออกรบทำให้แขนของพี่ชายเขาขาดไปหนึ่งข้าง พี่ชายเขาจึงได้ขึ้นไปอยู่บนเขาเป็นนายพรานหาของป่าเพื่อเลี้ยงชีพ แต่หากจะทิ้งเด็กทั้งสองไว้ก็กลัวมีคนตามมาแล้วจะรู้ว่าเด็กทั้งสองเป็นลูกของสหายฮั่ว เพราะการเกิดของเด็กแฝดใช่ว่าจะพบเจอกันบ่อย จึงได้ฝากเด็กเอาไว้คนเดียวให้พี่ชายและพี่สะใภ้คอยดูแล
ส่วนเด็กอีกคนเขานำกลับมายังแคว้นเหลียนแต่ไม่ได้เอาเข้าวัง เขาจ้างให้คนตระกูลหลู่เลี้ยงดู ถึงอย่างไรตระกูลหลู่ก็เคยทำงานเป็นสายข่าวให้กับเขา เขาจึงวางใจฝากเด็กไว้ได้
เพราะการเดินทางไกลหนำซ้ำเด็กน้อยเพิ่งลืมตาดูโลกได้ไม่นาน บวกกับให้บุรุษที่ไม่เคยเลี้ยงดูเด็กมาก่อนดูแล จึงไม่ได้รับการดูแลที่ดีนักทำให้ร่างกายของเด็กอ่อนแอทำให้แฝดผู้น้องกลายเป็นเด็กขี้โรค
เมื่อเหลียนอ๋องทราบเรื่องราวทั้งหมดจากองครักษ์ลับหลี่จึงได้ส่งคนไปสืบหาว่าผู้ใดคือคนที่ส่งนักฆ่ามาฆ่าล้างตระกูลของสหายฮั่ว แต่กลับไร้วี่แวว เหลียนอ๋องจึงคิดได้อย่างเดียวว่าต้องเป็นคนที่มีอำนาจในวังหลวงแน่นอน แต่เพราะสาเหตุอะไรนั้นเขาเองก็ไม่สามารถรู้ได้
เพราะไม่รู้ตัวคนบงการเหลียนอ๋องจึงยังไม่กล้ารับเด็กน้อยทั้งสองเข้ามาเลี้ยงดูอย่างเปิดเผย ได้แต่ส่งเงินทองและข้าวของเครื่องใช้ให้เด็กทั้งสอง และให้คนเหล่านั้นดูแล
หลังจากเวลาผ่านไปเด็กน้อยทั้งสองอายุได้3หนาว เหลียนอ๋องเห็นว่าเวลาผ่านมานานแล้ว จึงได้คิดจะรับพี่สาวฝาแฝดที่ถูกเลี้ยงด้วยคนตระกูลหลี่เข้ามาเลี้ยงในแคว้นเหลียน
แต่เมื่อไปรับกลับได้เห็นความรักลึกซึ้งที่ฮูหยินหลี่และเด็กน้อยมีต่อกัน เพราะฮูหยินหลี่ไม่มีบุตรจึงเลี้ยงดูนางมาราวกับเป็นบุตรสาวแท้ๆ ส่วนพี่สาวฝาแฝดที่คิดว่าตนเป็นบุตรสาวของคนตระกูลหลี่เมื่อรู้ว่าต้องจากลากับพ่อแม่ของตนเด็กน้อยก็ร้องไห้ไม่หยุด คนที่เลี้ยงดูมาก็อดที่จะร้องไห้ตามไม่ได้ เหลียนอ๋องเห็นเช่นนั้นก็นึกสงสารจึงไม่อยากฝืนใจพรากทั้งสองออกจากกัน จึงได้ให้เงินก้อนใหญ่เพื่อให้ตระกูลหลี่กลับเข้าเมืองเปิดกิจการและหาอาจารย์มาสั่งสอนให้แฝดผู้พี่ได้ร่ำเรียนหนังสือ
ส่วนแฝดผู้น้องหลังจากเหลียนอ๋องเสด็จไปเยี่ยมชาวบ้าน เมื่อกลับเข้าวังมาก็ให้คนแพร่ข่าวไปว่าพบเจอเด็กน้อยหมดสติอยู่ระหว่างทางกลับ เหลียนอ๋องเห็นแล้วถูกชะตาจึงรับไว้เป็นบุตรบุญธรรม ที่ทำเช่นนี้เพราะเหลียนอ๋องเองก็ไม่รู้ว่านักฆ่าเหล่านั้นว่างมือไปหรือยัง จึงจำเป็นต้องปล่อยข่าวออกไปเช่นนั้น