ตอนที่3 สาเหตุที่มาเยือน
วันต่อมา ณ ตำหนักคุนหนิง
“ถวายบังคมฝ่าบาท” สวี่ฮองเฮาลุกขึ้นย่อตัวทำความเคารพทันทีที่เห็นหนิงเฉิงฮ่องเต้ก้าวเท้าเข้ามาถึงห้องโถงรับแขก
“ไม่ต้องมาพิธี” หนิงเฉิงฮ่องเต้เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
หนิงเฉิงฮ่องเต้รู้ว่าสวี่ฮองเฮายังไม่หายดี จึงได้ให้อ๋องน้อยเหลียนมาเข้าเฝ้าที่ตำหนักคุนหนิงแทนที่จะให้ไปเข้าเฝ้าที่ตำหนักเฉียนชิง แต่เขากลับคาดการณ์ผิดไป เขาคิดว่าอ๋องน้อยเหลียนจะเดินทางมาถึงก่อนเขา แต่จะให้เขายืนรออยู่หน้าตำหนักก็จะเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในวังหลัง เขาจึงต้องเข้ามารอในตำหนัก
สวี่ฮองเฮาให้นางกำนัลยกชาเข้ามาให้หนิงเฉิงฮ่องเต้ทั้งคู่นั่งเงียบไม่เอ่ยอันใดต่อกัน จนกระทั่งสวี่ฮองเฮาไอเสียงดังขึ้น
“เจ้าอาการเป็นเช่นไรบ้าง ต้องให้เชิญหมอหลวงมาหรือไม่” หนิงเฉิงฮ่องเต้หันมาเอ่ยกับสวี่ฮองเฮาหลังจากได้ยินเสียงไอ
“หม่อมฉันไม่เป็นอันใดมากเพคะ ไม่ต้องเชิญหมอหลวงมาหรอกเพคะ” สวี่ฮองเฮายิ้มให้หนิงเฉิงฮ่องเต้ เมื่อเห็นท่าทางเป็นห่วงของเขา
เขาไม่แม้แต่จะส่งยิ้มคืนให้นาง รอยยิ้มของสวี่ฮองเฮาหายไปทันทีที่หนิงเฉิงฮ่องเต้เมินหน้าใส่นาง ทั้งสองกลับไปนั่งนิ่งเงียบอีกครั้ง ทำเอาคนที่อยู่ภายในห้องโถงรับแขกรู้สึกอึดอัดไปด้วย
เพียงไม่นานทุกคนก็รู้สึกหายใจทั่วท้องทันทีเมื่อเกากงกงเข้ามารายงานว่าอ๋องน้อยเหลียนมาถึงตำหนักคุนหนิงแล้ว แต่เขาไม่ได้มาเพียงคนเดียวยังนำสตรีมาอีกนางหนึ่งด้วย
เมื่อเขาทั้งสองเข้ามายังห้องโถงได้พบเจอกับหนิงเฉิงฮ่องเต้และสวี่ฮองเฮา พวกเขาก็ทำความเคารพอย่างนอบน้อม
“ตามสบาย ไม่ต้องมากพิธี” หนิงเฉิงฮ่องเต้เอ่ย
“ขอบพระทัยฝ่าบาท” อ๋องน้อยเหลียนกับหลี่เยว่เล่อเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
“กระหม่อมขอแนะนำฝ่าบาทให้รู้จัก สตรีผู้นี้คือหลี่เยว่เล่อนางเป็นสหายของฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ เพราะนางต้องไว้ทุกข์ให้บิดามารดาที่เสียไปจึงทำให้ไม่ได้เจอกับฮองเฮาเสียนาน ก่อนจะมาแต่งงานกับฝ่าบาท ฮองเฮาทรงบ่นอยากเจอนางมาตลอด วันนี้กระหม่อมจึงพานางมาหาฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ” อ๋องน้อยเหลียนแนะนำสตรีที่อยู่ด้านข้างให้หนิงเฉิงฮ่องเต้ได้รู้จัก และเพื่อจะบอกแก่สวี่ฮองเฮาเป็นนัยว่าสตรีผู้นี้เป็นใคร
สวี่ฮองเฮาเมื่อได้ยินชื่อของสตรีผู้นั้นก็ถึงกับยิ้มออกมาอย่างดีใจจนมีน้ำใสๆซึมออกมาจากหางตา เมื่อนางตั้งสติได้ก็ยกผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาทันทีแต่ไม่ทันหนิงเฉิงฮ่องเต้ก็หันมาเห็นเสียแล้ว
“เจ้าเป็นอันใดอย่างนั้นหรือ”
“หม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ เพียงแต่หม่อมฉันดีใจที่ได้เจอนางเท่านั้น”
ท่าทีของสวี่ฮองเฮาทำให้หนิงเฉิงฮ่องเต้แปลกใจอยู่ไม่น้อย เพราะหากเป็นสหายที่สวี่ฮองเฮาอยากพบเจอจริง ๆก็ต้องแสดงท่าทีดีใจตั้งแต่เห็นหน้าของนาง แต่สวี่ฮองเฮากลับแสดงความดีใจหลังจากอ๋องน้อยเหลียนแนะนำนาง หรือความจริงแล้วสวี่ฮองเฮาไม่ได้รู้จักนางมาตั้งแต่แรก แต่กำลังแสร้งเป็นดีใจที่เจอนางให้เขาได้เห็น
หนิงเฉิงฮ่องเต้สังเกตว่าหลี่เยว่เล่อผู้นี้ตั้งแต่เข้ามานางก็เอาแต่มองสวี่ฮองเฮาและเผลอยิ้มออกมาบ่อยครั้ง เขามั่นใจว่าหลี่เยว่เล่อผู้นี้จะต้องรู้จักสวี่ฮองเฮาจริง ๆ และการมาของอ๋องน้อยเหลียนกับหลี่เยว่เล่อในครั้งนี้ต้องมีแผนการซ่อนอยู่เป็นแน่ ไม่เช่นนั้นแล้วคงไม่โกหกเขาเรื่องที่ทั้งสองเป็นสหายกัน
ยังไม่ทันที่พวกเขาจะได้พูดคุยกันต่อ สวี่ฮองเฮาก็ไอขึ้นมาอีก แต่ครั้งนี้นางไอไม่หยุดและดูเหมือนจะรุนแรงขึ้น หนิงเฉิงฮ่องเต้จึงได้สั่งให้คนไปเชิญหมอหลวงมาตรวจร่างกายของสวี่ฮองเฮา และให้เหล่านางกำนัลพาสวี่ฮองเฮาไปพักผ่อน
หนิงเฉิงฮ่องเต้หันมาเห็นสีหน้าของอ๋องน้อยเหลียนกับหลี่เยว่เล่อมีท่าทางเป็นห่วงสวี่ฮองเฮาจนเห็นได้ชัด จึงได้ทีเชื้อเชิญให้ทั้งคู่พักอยู่ในวังหลวงก่อน เพื่อจะได้จับตาดูทั้งคู่ได้โดยง่าย
“ฮองเฮาร่างกายไม่แข็งแรงนัก บวกกับอากาศช่วงนี้เริ่มเย็นแล้ว นางยังปรับร่างกายไม่ได้ พวกเจ้าก็อยู่ค้างในวังเถิดเราจะให้คนไปจัดเตรียมที่พักให้ พวกเจ้าเดินทางมาเหนื่อยก็พักผ่อนเอาแรงก่อน พรุ่งนี้ค่อยมาเข้าเฝ้าฮองเฮาอีกครั้ง”
“กระหม่อมเป็นบุรุษค้างในวังคงไม่เหมาะสมนัก กระหม่อมขอกลับไปพักที่นอกวังดีกว่าพ่ะย่ะค่ะ การมายังเมืองหลวงของกระหม่อมครั้งนี้มีเพียงพาหลี่เยว่เล่อมาพบกับฮองเฮาเท่านั้น จึงไม่อยากรบกวนฝ่าบาท” อ๋องน้อยเหลียนรู้ว่าหนิงเฉิงฮ่องเต้ให้คนคอยจับตาดูเขาตั้งแต่เข้าเมืองมา เขาจึงได้บอกสาเหตุที่แท้จริงให้หนิงเฉิงฮ่องเต้ได้รับรู้ เพื่อให้เขาคลายความระแวงลง
“รบกวนอันใดกันถึงอย่างไรเจ้าก็เป็นแขกเราก็ควรดูแลเจ้าให้ดี หากเจ้าไม่อยากค้างในวัง เราก็จะให้คนเตรียมเรือนรับรองให้ที่นอกวัง ส่วนหลี่เยว่เล่อในเมื่อนางเป็นสหายที่ไม่ได้พบเจอกันมานานของฮองเฮา เช่นนั้นเจ้าก็ค้างที่ตำหนักคุนหนิงแล้วกัน” หนิงเฉิงฮ่องเต้เอ่ยพร้อมหันไปมองหน้าหลี่เยว่เล่อ
“ขอบพระทัยเพคะฝ่าบาท” หลี่เยว่เล่อเห็นท่าทางอ๋องน้อยเหลียนจะคัดค้านหนิงเฉิงฮ่องเต้ จึงรีบเอ่ยขึ้นทันที
“เช่นนั้นก็ดี เกากงกงท่านไปส่งท่านอ๋องน้อยเหลียนออกจากวัง และจัดเตรียมเรือนรับรองให้อ๋องน้อยเหลียนด้วย” หนิงเฉิงฮ่องเต้พูดกับหลี่เยว่เล่อเสร็จ ก็หันมาสั่งขันทีข้างกาย ก่อนจะเสด็จออกจากตำหนักคุนหนิงไป
“หากเจ้าต้องการอันใด ก็บอกกับนางกำนัลหลู่ได้นะ” อ๋องน้อยเหลียนหันมาเอ่ยกับหลี่เยว่เล่อด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเป็นห่วง แต่จะพูดมากกว่านี้ก็ไม่ได้เพราะเกากงกงยืนอยู่ไม่ไกลนัก
“เพคะ ท่านอ๋องน้อยอย่างได้เป็นห่วงหม่อมฉันเลย หม่อมฉันปรับตัวเก่ง ถึงจะแปลกที่หม่อมฉันก็อยู่ได้เพคะ” นางตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม
“ท่านอ๋องน้อย อย่าได้ทรงเป็นห่วงคุณหนูหลี่เลยเพคะ ฮองเฮาทรงให้หม่อมฉันมาคอยดูแลคุณหนูหลี่ เช่นนั้นหม่อมฉันต้องดูแลคุณหนูหลี่เป็นอย่างดีแน่เพคะ” หลู่ม่านม่านเดินมาได้ยินที่อ๋องน้อยเหลียนเอ่ยกับหลี่เยว่เล่อพอดีจึงได้รีบเข้ามาบอกอ๋องน้อยเหลียนเพื่อให้เขาสบายใจ
หลังจากหนิงเฉิงฮ่องเต้กับอ๋องน้อยเหลียนออกจากตำหนักคุนหนิงไป หลู่ม่านม่านนางกำนัลคนสนิทที่รับใช้สวี่ฮองเฮาตั้งแต่อยู่แคว้นเหลียนก็มาพาหลี่เยว่เล่อไปยังห้องรับรอง
“เจ้าเตรียมน้ำให้เราอาบหน่อยได้หรือไม่” หลี่เยว่เล่อเมื่อเข้ามาภายในห้องรับรอง ก็เอ่ยขึ้นเสียงดัง
เมื่อหลู่ม่านม่านได้ยินเช่นนั้นก็สั่งให้นางกำนัลคนอื่นไปเตรียมน้ำอุ่นและเสื้อผ้ามาให้หลี่เยว่เล่อทันที หลู่ม่านม่านไล่นางกำนัลคนอื่นออกไป
“พวกเจ้ามีอะไรก็ไปทำเถอะ ฮองเฮาสั่งให้ข้าดูแลคุณหนูหลี่ เช่นนั้นข้าก็จะเป็นคนปรนนิบัติคุณหนูหลี่เอง”
เมื่อทุกคนออกไปหมดแล้ว หลี่เยว่เล่อก็ถอดอาภรณ์ออกก่อนจะลงไปในอ่างน้ำเพื่อแช่น้ำอุ่น นางรู้ดีว่ายามอาบน้ำจะเป็นยามที่องครักษ์ลับจะต้องถอยออกไปไม่กล้ามาจับตาดูนาง และยังเป็นข้ออ้างในการไล่เหล่านางกำนัลขันทีที่เป็นหูเป็นตาให้หนิงเฉิงฮ่องเต้ได้อีกด้วย
“เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร” หลี่เยว่เล่อถามหลู่ม่านม่าน