ตำหนักฝูหมิง มีนายหญิงแล้ว (จีนโบราณ)
บทย่อ
คำโปรย “ท่านอ๋อง พวกเราหย่ากันเถิด” “ใช้ได้ที่ไหน สมรสพระราชทานจะหย่าก็หย่าได้เยี่ยงนั้นหรือ” เรื่องย่อ หลี่หรูหราน ใช้ชีวิตสนุกไปวัน ๆ นางเป็นไข่มุกบนฝ่ามือของตระกูลหลี่ ทั้งแก่นแก้วแสนซน ชมชอบเข้าหอนางโลม พูดคุยกับเหล่าสาวงาม ใครเล่าจะคิดว่า จะมีสมรสพระราชทานมาให้ถึงจวน เดิมทีนางมีแผนการเอาไว้ แต่คาดไม่ถึงว่าหายนะมาเยือน ในวันที่นางแต่งงานกับเซียวจิ้นคัง ใครเล่าจะคิดว่าในตำหนักท่านอ๋องผู้ยิ่งใหญ่ กลับมีมือสังหาร ปลายดาบแหลมคมเยียบเย็นนั่นจดจ่ออยู่ลำคอของเจ้าสาว โลหิตค่อย ๆ ซึมทีละนิด ทีละนิด นางไร้ท่าทางหวาดกลัว แต่กลับทอดสายตามองไปยังเจ้าของตำหนัก เห็นเขาไม่มีความทุกข์ร้อน ในใจของนางล้วนก่นด่าสาปแช่งคนชั่วแทบไม่หยุดพัก ส่วนเซียวจิ้นคังมิได้มีสีหน้าอันใด กลับดูเรียบเฉย ราวกับคนไร้ความรู้สึก เขากลับนั่งจิบชาอย่างสบายอกสบายใจ ซ้ำยังพูดขึ้นว่า “นางมิได้มีความสำคัญกับข้า หากนางตายในคืนเข้าหอ ก็ถือว่าเป็นคราวเคราะห์ของนางก็แล้วกัน”
ตอนที่ 1 เย้าแหย่
จวนตระกูลหลี่
หลี่หรูหรานเป็นบุตรีเพียงคนเดียวของท่านแม่ทัพหลี่ มีพี่ชายขุนนางขั้นสาม ซ้ำยังพ่วงตำแหน่งท่านอาจารย์ นางถูกเลี้ยงดูด้วยแม่นมเถาของมารดา ด้วยเพราะท่านแม่นางจากไปตั้งแต่ห้าหนาว ยามนี้ แม่นมเถาผู้นี้นั้นอายุก็มากแล้ว และยังมีความสำคัญยิ่งนักต่อตระกูลหลี่
ฐานะของแม่นมเถาก็ดูเหมือนสูงกว่าสาวใช้ทั่วไป ท่านแม่ทัพหลี่ยังต้องเกรงอกเกรงใจนางไม่น้อย และไม่หยิ่งหย่อนไปกว่าญาติผู้หนึ่ง
หลังจากที่ฮูหยินของท่านแม่ทัพหลี่จากไปอย่างสงบแล้ว ชายผู้นี้มิได้มีภรรยาใหม่เพิ่มเข้ามาแต่อย่างใด นั่นเป็นเพราะเขามีใจรักมั่น แม้นว่าจะมีเหล่าบุตรีของขุนน้ำขุนนางในเมืองหลวง หว่านเสน่ห์หมายตาตำแหน่งฮูหยินแม่ทัพ
ชายผู้นี้ก็ออกปากปฏิเสธทันควัน ถึงแม้คนผู้นั้นจะมากด้วยอำนาจก็ตามที แม่ทัพหลี่มีบุตรชายและยังมีบุตรีซึ่งเป็นที่รักใคร่ดุจไข่มุกบนฝ่ามือ สองคนพี่น้องรักใคร่กลมเกลียวแนบแน่นนัก ติดอยู่แค่ว่า พี่ชายมักหวงน้องสาวจนออกนอกหน้าเท่านั้นกระมัง
เห็นว่าไม่ใช่แค่พี่ชายของนางที่หวงแหนนาง ยังมีท่านแม่ทัพหลี่อีกด้วยที่หวงนางราวกับหยกล้ำค่า มิให้ผู้ใดมาเชยชมได้ง่าย ๆ ถึงเป็นอย่างนั้น หลี่หรูหรานเองยังมีคู่หมายตั้งแต่เยาว์วัย
ถูกทาบทามหมั้นหมายด้วยเพราะภรรยาของแม่ทัพหลี่ นางได้ตกปากรับคำกับอีกฝ่ายเอาไว้ แม่ทัพหลี่ค้านหัวชนฝา แต่ก็ต้องยินยอมให้ภรรยาเป็นใหญ่
เมื่อภรรยาจากไป หลี่เจี้ยนจึงหาทางคิดกำจัดเจ้าว่าที่ลูกเขยตัวดีนั่นเสีย นับว่าโชคดีที่สวรรค์เข้าข้าง จู่ ๆ ก็กลายเป็นบิดาของลูกในท้องสตรีนางหนึ่ง
เช่นนั้นแม่หลี่เจี้ยนจึงฉวยโอกาสนี้ถอนหมั้น และจัดงานเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ ชาวบ้านร้านตลาดต่างหัวเราะขบขันและร่วมยินดีด้วย มอบผลไม้ รวมถึงของขวัญให้แก่คุณหนูหลี่อีกด้วย
ฝ่ายอดีตคู่หมั้นพอทราบข่าวแล้วก็หัวเสียไม่เบา ถูกหยามหน้าเยี่ยงนี้มีหรือจะนิ่งเฉยให้คนตระกูลหลี่ข่มเหงรังแกได้ลงคอกัน เขาอ้อนวอนให้บิดาทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการแก้แค้นคนตระกูลหลี่
ทว่าพวกเขาเป็นแค่ขุนนางตัวเล็ก ๆ ไม่มีอำนาจข่มเหงรังแกใต้เท้าหลี่ ซึ่งเป็นแม่ทัพผู้องอาจ จึงทำได้เพียงแค่เก็บความคับแค้นเอาไว้ในใจ รอโอกาสเหมาะ ๆ มาถึง คิดบัญชีย้อนหลังก็ยังไม่สายไปนัก
พวกเขาล้วนนึกเสียดายความงดงามของคุณหนูหลี่ หากมาเป็นสะใภ้คงเชิดหน้าชูตาได้มากโขทีเดียว อีกทั้งใต้เท้าหลี่เป็นผู้ใดกัน ใครบ้างมิอยากเกี่ยวดองทั้งฐานะตำแหน่งล้วนโดดเด่น ได้รับความดีความชอบมากมายจากหวงตี้ ใครเล่าไม่อยากตีสนิท ทว่าเจ้าลูกชายดันไม่รักดี ก่อเรื่องทำสตรีอื่นท้องขึ้นมา
หลี่หรูหรานผู้นี้มีความงามปานล่มแคว้นก็ว่าได้ รูปร่างบอบบางใบหน้าเรียวเล็ก ดูน่ารักน่าทะนุถนอมยิ่งนัก ริมฝีปากของนางนั้นแดงระเรื่อ ราวกับว่าทาชาดเพิ่มสีสัน ยามแย้มยิ้มหัวเราะก็มักทำให้ผู้คนยิ้มตาม หากใครได้เมียงมองก็เป็นอันตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ
นิสัยของคุณหนูหลี่ผู้คนภายนอกหากไม่รู้ คงคิดว่าเป็นคุณหนูในห้องหอผู้เพียบพร้อมไปเสียทุกกระเบียดนิ้ว ทว่าผู้คนล้วนเข้าใจผิด นิสัยของนางนั้นล้วนมิได้มีความอ่อนหวานแม้แต่น้อย กลับมีแต่ความแก่นแก้วแสนซนและดื้อรั้น
ทั้งยังซุกซนแก่นแก้วราวกับม้าพยศ มักท่องเที่ยวยามราตรีเฉกเช่นบุรุษก็ไม่ปาน ขนาดบิดาสั่งห้าม พี่ชายก่นด่าทุกวี่วัน มีหรือที่หลี่หรูหรานจะฟังกัน คำพูดเหล่านั้นเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาทันทีทันใด
ถึงชมชอบสนุกสนานเพียงใดก็ตามที คุณหนูผู้ยังไม่ออกเรือนมักอำพรางใบหน้างาม ด้วยหมวกผ้าโปร่งสีดำคลุมลงมาจนถึงปลายคาง เผื่อมีใครจดจำได้ขึ้นมา แล้วกล่าวรายงานบิดา มิเช่นนั้นไม่เพียงแค่หูชา อาจถูกแม่นมเถาลงโทษให้คัดตำราสตรีอีกด้วย
หากวันไหนนางเบื่อ ๆ ก็มักฟาดฟันหุ่นไม้เล่น คล้ายกับว่าโกรธใครมาเป็นแรมปี มือเรียวที่คิดว่านุ่มนิ่มน่าสัมผัสนะหรือ หาใช่ไม่ช่างหยาบกระด้างราวกับบุรุษเสียอย่างนั้น
เพราะนิสัยประหลาดของนางนั้น ทำให้สาวใช้ในเรือนไม่กล้าเข้ามาวุ่นวาย มีเพียงแค่เสี่ยวถิงเท่านั้น ชมชอบขลุกตัวอยู่กับคุณหนูรอง
ถึงกิริยาช่างกระโดกกระเดกหาเป็นสตรีเรียบร้อยอ่อนหวาน พูดจามักห้วน ๆ และนิสัยห้าวหาญ หากนางแย้มยิ้มโปรยเสน่ห์ใส่เหล่าบุรุษเมื่อไหร่ เป็นอันว่าชายหนุ่มได้หลงใหลเป็นแน่
รอยยิ้มน้อย ๆ ของหลี่หรูหรานทำให้ใครต่อใครเคลิบเคลิ้มหลงใหล ดวงเพราะดวงตาคู่หวานระยิบระยับพร่างพราวนั้นคล้ายกับว่ากำลังยั่วยวนชายหนุ่มให้ตกอยู่ในห้วงเสน่ห์อันเล่าร้อน ตราตรึงไม่จางหาย
จึงเป็นเหตุให้แม่ทัพหลี่และท่านอาจารย์หลี่หวงแหนนางกว่าสิ่งอื่นใด หากในวังมีเทียบเชิญร่วมงานเลี้ยงเมื่อใด ตระกูลหลี่มิเคยให้คุณหนูรองร่วมงานเลี้ยง ซ้ำบ่ายเบี่ยงหรือไม่ก็ปล่อยข่าวว่านางเป็นโรคประหลาดหน้าตาอัปลักษณ์
จนกระทั่งวันที่แม่ทัพหลี่ถูกเชิญไปยังห้องอักษร โดยมีท่านกงกงเป็นผู้ถ่ายทอดรับสั่ง “แม่ทัพหลี่มีรับสั่งจากฝ่าบาทเชิญท่านที่ห้องทรงอักษรขอรับ”
ผู้ถูกเชื้อเชิญมีสีหน้าไม่สู้ดีนัก เอ่ยถามเสียงกระท่อนกระแท่นขึ้นว่า “ท่านกงกง ทราบหรือไม่ฝ่าบาทประสงค์สิ่งใด” เขาจะได้หาทางรับมือถูก
“ข้าน้อยไม่ทราบขอรับ อีกเดี๋ยวแม่ทัพหลี่ก็คงรู้ ตามข้าน้อยมาเถิด” น้ำเสียงเล็กแหลมนี้ ทำให้ผู้ฟังไม่ไว้วางใจสักนิด แต่ก็เดินตามแผ่นหลังของท่านกงกงชราไปอย่างว่าง่าย แม้นว่าในใจจะครุ่นคิดอย่างว้าวุ่นวายก็ตามที
“ฝ่าบาท ท่านแม่ทัพมาถึงแล้วพ่ะย่ะค่ะ” กงกงชรากล่าวรายงาน ใบหน้าเหี่ยวย่นประดับด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอ ผายมือเชิญท่านแม่ทัพอย่างนอบน้อม
ส่วนแม่ทัพหลี่มีสีหน้าคล้ายกำลังกล้ำกลืนฝืนทนอยู่นั่น ไม่รู้ว่าหวงตี้จะเล่นงานอันใดเขากันแน่ อาจเป็นงานเลี้ยงเมื่อเดือนก่อน หรือว่างานเลี้ยงก่อนหน้านี้ เขาครุ่นคิดอยู่นาน กระทั่งสุรเสียงของหวงตี้เขาก็ไม่ได้ยิน
กงกงชราจึงกระตุกแขนเสื้อแล้วผายมืออย่างนอบน้อมอีกครั้ง “เชิญท่านแม่ทัพข้างใน ข้าน้อยจะให้นางข้าหลวงนำน้ำชาและขนมมาให้ขอรับ”
“ไม่ต้องหรอกท่านกงกง คงพูดคุยไม่นาน” ชายสูงวัยรู้สึกมีบางอย่างไม่ชอบมาพากลเข้าแล้ว เห็นสายพระเนตรจ้องมองมา จะดื่มน้ำชากินขนมลงได้เยี่ยงนั้นหรือ
“เจ้าอย่าได้เกรงใจเจิ้น อีกหน่อยพวกเราก็ดองกันแล้ว” ผู้สูงศักดิ์หัวเราะเบา ๆ เห็นท่าทีระแวดระวังตนของแม่ทัพหลี่ก็นึกชอบใจนัก จึงออกปากเย้าแหย่สักเล็กน้อย
หากมิใช่เพราะตาแก่แม่ทัพหลี่หวงแหนบุตรสาว ท่าทางสีหน้าช่างดูกระวนกระวายใจ จึงเหมาะนักที่จะเอ่ยปากกลั่นแกล้ง อยากรู้นักว่า หากบุตรสาวออกเรือนขึ้นมาจริง ๆ จะมีสีหน้าอย่างไร
แม่ทัพหลี่กำลังจะหย่อนกายนั่งลงเก้าอี้ พอได้ยินสุรเสียงของหวงตี้ เขาถึงขั้นตกอกตกใจ อุทานเสียงดัง “หา...”