3.น้ำแกงขี้เถ้า
เมื่อเห็นน้ำตาที่เอ่อล้นขอบตาเหลียงม่านฉี บุรุษผู้พรากความบริสุทธิ์ของนางไปได้ใช้นิ้วตนเช็ดหยาดน้ำอุ่นๆ ซึ่งไหลอาบแก้มให้คนงาม ก่อนจูบซับตรงหางตาอย่างสงสารและเห็นใจ
เหลียงม่านฉีสะดุ้งเล็กน้อย แม้ประหลาดใจ หากนางสัมผัสได้ถึงความอ่อนหวาน ความเอ็นดูของเขาที่มีให้ตน
“หากทำให้เจ้าเจ็บช้ำน้ำใจ ข้าคงนับว่าเป็นบุรุษที่ชั่วร้ายยิ่ง”
เหลียงม่านฉีส่ายหน้า นางเต็มใจเมื่อได้หลับนอนกับเขา บุรุษผู้นี้ หล่อเหลา และยังเป็นคนที่คลั่งรักยามโถมแรงใส่เรือนกายนาง ชาตินี้นางไม่รู้ว่า จะพานพบคนเช่นเขาได้อีกหรือไม่
“มิใช่อย่างนั้น ผู้น้อยยินดีเหลือเกิน ยามเห็นคุณชายมีความสุข”
“ฮ่าๆ ๆ ช่างพูด ทั้งหมดเป็นเพราะอาหารเจ้าอร่อยจับใจข้า และยังทำให้มีแรงมหาศาล รับรองข้าจะตบรางวัลให้เป็นอย่างดี!”
เหลียงม่านฉีพยักหน้าอย่างเข้าใจ ก่อนเอ่ยถามคนตัวโตด้วยความเขินอายสักหน่อย ซึ่งกำหนดการทำงานนางคือ ระยะเวลาห้าวัน จากนั้นนางต้องกลับไปที่เหลาอาหารเถื่อน เพื่อดูผลงานที่ผู้เป็นเจ้ามือง ฝ่ายนั้น ให้นางปรุงยากับน้ำหมักให้เขาดื่ม เพื่อจะได้มีกำลังวังชา เข้าหอกับอนุคนใหม่ที่มีวัยคราวลูก
“ผู้น้อย ต้องรับใช้คุณชาย อีกสักกี่รอบเจ้าคะ...” เหลียงม่านฉีถามอย่างคนอ่อนต่อโลก
และเขายกยิ้มตรงมุมปาก เป็นรอยยิ้มร้ายๆ ที่ชวนให้หัวใจสาวอ่อนระทวย
“สักสามรอบเป็นอย่างต่ำ แม่ครัวเช่นเจ้า รับมือข้าไว้หรือไม่!”
หญิงสาวขัดเขิน ทั้งรู้สึกว่า บุรุษที่เคยเห็นเขานั่งอยู่บนรถเข็นที่มีกลไกพิเศษ ยามนี้กลายเป็นอาชาศึก และมีพลังล้นเหลือ
ฝ่ายนางเป็นสตรีที่ทำงานในหอนางโลมมาก่อน ถึงไม่ได้ทำหน้าที่นอนให้บุรุษขึ้นคร่อม ด้วยขายเสียงร้องเพลง รวมถึงร่ายรำ หากทำได้ไม่ดี จึงถูกไล่ไปดูแลด้านอาหารการกิน กระนั้นพวกผู้ชายชั้นต่ำ ต่างมองว่านางคือสตรีที่มีไว้ปรนเปรอให้พวกเขาระบายตัณหา
“สิ่งที่ข้าเอ่ย ทำให้เจ้าตกใจเช่นนั้นหรือ แต่อย่าได้คิดว่าข้า ละโมบ อยากเอาสนุกฝ่ายเดียว แต่นั่นเป็นเพราะเจ้างาม และยังทำสิ่งที่ถูกใจข้า เช่นนี้ย่อมสร้างความต้องการ จนข้าลืมตัว”
หลังปลดปล่อยความสุขอาบล้น และอยู่ใกล้ชิดกัน นางสังเกตว่า เขามีใบหน้าละอ่อน อายุคงยี่สิบต้นๆ ริมฝีปากเป็นสีสด ร่างกายไม่ได้ผ่ายผอม หากมีน้ำมีนวล ส่วนที่ควรมีกล้ามเนื้อดูแข็งแรงสมชายชาตรี และขาที่สามของเขา ตัวนางไม่อยากเชื่อว่าคนที่นั่งบนรถเข็น ยามเดินเหินต้องพึ่งไม้เท้า กลับมีสิ่งมหัศจรรย์ซ่อนเร้นไว้ มันงดงาม ใหญ่โต ทั้งน่าเกรงงามด้วยเมื่อพองขยายมีเส้นเลือดปูดโปนชัดเจน
แต่เดิมนางเคยแต่เห็นขาที่สามของบุรุษในรูปวาดหนังสือ และของที่จำลองขึ้นจากแท่งหยก หรือไม้แกะสลัก เมื่อคุณชายท่านนี้ เปิดเผยสิ่งที่งามของกลางกายให้นางได้ประจักษ์ เหลียงม่านฉียอมรับว่า นางคงไม่อาจลืมทั้งภาพ และรสสัมผัสอันซ่านสยิวไปชั่วชีวิต
“หากกล่าวตามตรง ข้าอยากนอนกับเจ้าไปจนกว่าจะหมดแรง ตั้งแต่ดื่มกินอาหารที่เจ้าปรุง แท่งหยกนั้นตั้งโด่ชี้ฟ้า ซึ่งตัวข้าคงไม่อาจสวมกางเกงได้ หากไม่ทำให้มันหายกราดเกรี้ยว”
“แต่ คุณชายเพิ่ง...บอกรักผู้น้อย ไปเมื่อครู่”
เหลียงม่านฉีเลือกใช้คำพูดเช่นนั้น นางไม่อาจเอ่ยถึงการส่งความเข้มข้นของบุรุษ เข้าไปในร่างกายตนตรงๆ
“โอ้ เข้าใจพูด ข้าเป็นฝ่ายบอกรักเจ้าอย่างนั้นหรือ ฮ่าๆ ๆ”
“หากคนครัว มือหยาบ ตีนหยาบ และโง่เขลา กล่าวสิ่งใดที่ไม่สมควร ขอให้คุณชายยกโทษ”
“เหลวไหล เจ้านุ่มนิ่มไปทุกๆ ส่วน โดยเฉพาะพื้นที่หวานฉ่ำแฉะที่ข้ามอบความรักลึกสุดใจเมื่อครู่”
หญิงสาวหัวเราะคิกคัก นางชอบเขา และอีกฝ่ายนางไม่อาจล่วงรู้ชื่อแซ่ด้วยซ้ำ ด้วยถูกพาตัวมาจากเหลาอาหารเถื่อนที่เปิดอยู่ข้างถนนสายโลกีย์ ก่อนขึ้นรถม้า โดยนายจ้างให้นางใช้ผ้าปิดตา นางกลัวทั้งตื่นเต้น ทว่าเมื่อรู้ถึงยอดเงินที่จะได้รับเป็นยอดถึงแปดสิบตำลึงทอง เงินมากมายเช่นนี้ ช่างน่าเหลือเชื่อ ด้วยเกือบสามปีที่เปิดเหลาเถื่อน ให้มากที่สุดนางหาเงินได้เพียงสิบตำลึงทอง ดังนั้นค่าจ้างครั้งนี้ นางสามารถซื้อที่ดินได้ในเมืองเป่ยจงบริเวณท้ายตลาดได้สักแปลงเล็กๆ พร้อมปลูกสร้างร้านอาหารสำหรับค้าขาย
ดังนั้น เหลียงม่านฉีจึงยินดีกระทำทุกอย่างหากเขาสั่ง ให้นางปรุงยาพิษ หรือน้ำแกงขับเลือดสตรี เพื่อไม่ประสงค์จะมีบุตร นางก็พร้อมลงมือ
แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์ใจคือ นางอยู่ที่นี่ได้สี่วัน ทำอาหารให้คุณชายผู้นี้ด้วยความสุข กระทั่งเขาอยากพบหน้านาง จากนั้นสิ่งที่แสนจะโลดโผนได้เกิดขึ้น นางไม่ได้แค่ขายอาหาร หากต้องมอบความสุขผ่านเรือนร่างอันบริสุทธิ์นี้ด้วย
“ผู้น้อย ปรุงทุกอย่างที่นายท่านต้องการแล้ว หากปรารถนาสิ่งอื่นมากกว่านั้น ก็ยินดีรับใช้ เพียงแต่การทำอาหารนับว่าเหนื่อยยากลำบากที่สุด แต่การปรนนิบัติบุรุษด้วยร่างกาย ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน”
บุรุษที่นั่งอยู่บนเตียง หัวเราะเสียงห้าวใหญ่ คราวนี้สีหน้าเขาออกจะเจ้าเล่ห์อยู่สักหน่อย แมวน้อยที่นางเห็นบนรถเข็นก่อนหน้า กลายเป็นเจ้าป่าผู้ยิ่งใหญ่
“ได้ ข้ายินดีจ่ายค้าจ้างให้เจ้าเพิ่มอีกสองเท่า เพียงอยากรู้นักว่า ลีลาคณิกาที่ปรุงอาหารได้เลิศรสนั้น จะมีฝีมือทำให้ข้าหลั่งได้ โดยไม่ต้องสับสะโพกใส่เจ้าหรือไม่!”