บท
ตั้งค่า

เรื่องเล่าขานที่ ๕ มนุษย์ในดินแดนหมาป่า

เรื่องเล่าขานที่ ๕

มนุษย์ในดินแดนหมาป่า

สระมรกต

"เฉียนเย่เจา สรุปเรื่องที่เจ้าพวกตาแดงพูดมา มันเป็นเช่นไร?"

หลังจากที่กลับมาจากลานประลอง เฉียนไฮ่เจินก็เอาแต่เดินตามรัชทายาทเพื่อถามหาความจริงจากเรื่องเมื่อครู่ ถึงแม้เมื่อยามอยู่ลานประลองจะไม่แสดงอาการว่าสนใจ เพราะต้องรักษาหน้ารัชทายาท หากแสดงออกไปว่าพวกเขาสงสัยในตัวองค์รัชทายาทเช่นกันและไม่ได้รู้เรื่องราวอันใดแม้แต่น้อย บัลลังก์จะสั่นคลอนได้ ซึ่งปกติก็สั่นแรงอยู่แล้ว

"นั่นสิ เจ้าไม่อธิบายต่อพวกนั้น พวกข้าพอเข้าใจ แต่เจ้าจะไม่อธิบายให้พวกข้าฟังไม่ได้"

เฉียนหลงเป่าเห็นด้วย เรื่องนี้ตัวเขาก็อยากรู้ ด้วยมีกฎเหล็กว่า มนุษย์หมาป่าห้ามกินเนื้อมนุษย์เด็ดขาด ไม่เช่นนั้นเลือดจะเปลี่ยนสี เช่นพวกเจ้าตาแดง

"ข้าก็รอฟังเช่นกัน" คนสุดท้ายคือ เฉียนหยาง

เฉียนเย่เจาหยุดเดิน หันมาหาขุนพลหรือ สถานะหนึ่งคือลูกพี่ลูกน้อง

บุรุษเย็นชาแสนเหี้ยมโหดถอนหายใจออกมาอย่างยอมแพ้

"พวกเจ้าคิดว่าเป็นอย่างไร?"

เฉียนเย่เจาไม่ต้องการอธิบาย จึงเอ่ยถามให้พวกเขาได้แสดงความคิดเห็นออกมาเอง

"ตามนิสัยเจ้า เจ้าต้องการทำลายการประลองนี้"

คนแรกคือเฉียนไฮ่เจิน

เฉียนเย่เจายิ้มมุมปากลูบคางของตน ทุกคนรอฟังคำตอบว่าจะถูกหรือไม่

"ผิด ข้ายังไม่คิดถึงเรื่องนั้นเลย แต่ วันนี้ยิงธนูนัดเดียวได้ นกมาเพิ่มก็ดี"

เฉียนไฮ่เจินเสไปมองทางอื่นด้วยรู้สึกอับอายที่เดาผิด

เฉียนหลงเป่าเห็นเฉียนไฮ่เจินเดาผิด ก็ลองเดาบ้าง

"เจ้าเบื่อ เลยไปหาเรื่องพวกนั้นเล่น"

เฉียนเย่เจาหรี่ตามองหลงเป่าที่แสดงสีหน้าคาดหวังว่าตนจะถูกแต่ เฉียนเย่เจาก็ดับฝันเขา พลางปลอบประโลมที่ดูเหมือนคำเยาะเย้ยเสียมากกว่า

"เจ้านี่ ต้องใช้ความคิดให้มากๆหน่อยนะ"

เมื่อสองคนเดาไม่ถูก สายเลือดเฉียนทั้งสามจึงหันไปหาคนที่ยังไม่ได้เดา

เฉียนหยางนิ่งคิดไปนาน นานมาก จนเฉียนเย่เจาเริ่มขี้เกียจรอ เดาว่า เฉียนหยางคงหาคำตอบไม่ได้แต่ไม่อยากตอบผิด จึงใช้ความเงียบเข้าสู้แทนรอให้ตนเฉลยเอง

"ข้าขอถามก่อน"

ในที่สุดเฉียนหยางก็เอ่ยขึ้น

เฉียนเย่เจาเลิกคิ้วขึ้น ทั้งประหลาดใจระคนถูกใจ

"ว่ามา"

"เหยื่ออยู่ที่ใด?"

"ที่นี่"

ทุกคนตาโต เฉียนหยางอมยิ้ม ถามต่อ

"สตรี?"

ยามนี้ เฉียนเย่เจาไม่ได้ตอบในทันที เพียงเท่านั้นก็เป็นคำตอบให้เฉียนหยางแล้ว

แต่สิ่งที่ตนคาดเดาทำให้เฉียนหยางรู้สึกหวาดกลัวกับคำตอบ

"อย่าบอกว่าเจ้า ผูกจิตกับนาง"

นาน....เฉียนเย่เจาถึงยอมตอบ

"มิถูกและมิผิด"

"เฉียนเย่เจา!"

ขุนพลทั้งสามตะโกนลั่นบริเวณ คาดไม่ถึงว่าเขาจะทำมันจริงๆ

"ข้ามิได้ตั้งใจ"

เฉียนเย่เจายอมรับความจริง

วันแรกที่นางตื่นขึ้นมา ครานั้นที่นางจะล้ม ตนช่วยประคองนางและเผลอสบตานาง แต่จริงๆการผูกจิตมิใช่เพียงแค่มองตา เราเลือกไม่ได้หรอกว่า เนื้อคู่ของเราจะเป็นผู้ใด และการผูกจิตที่มักกระทำกัน จะต้องผ่านการเข้าพิธีสมรส ถึงจะเรียกว่า เป็นการผูกจิตที่ถูกต้อง

"หากองค์ฮ่องเต้ทรงทราบ เจ้าตายแน่ เย่เจา"

"ข้าไม่สน"

"เจ้าไม่สนใจบัลลังก์เลยหรือ?"

"เจ้าย่อมรู้ดีว่าข้าสนหรือไม่ วันนี้วุ่นวายหลายเรื่อง ถึงเวลาพักผ่อนของข้าแล้ว พวกเจ้าจะอยู่ก็อยู่ จะกลับก็กลับ"

กล่าวจบไม่รอให้ขุนพลทั้งสามได้กล่าวแย้ง เฉียนเย่เจาก็หายไปจากตรงนั้น ทิ้งให้ขุนพลทั้งสาม ยกมือขึ้นกุมขมับ

'ผู้ใดไม่เดือดร้อนหรอก แต่ถ้าพวกเขาถูกปลด พวกเขานี่แหละจะเดือดร้อน'

*******

เฉียนเย่เจาเดินเข้ามาในห้องนอน ดวงตาคมมองไปที่ร่างบางบนเตียง นางเปลี่ยนชุดใหม่แล้ว เฉียนเย่เจาก้าวครั้งเดียวก็ไปถึงร่างของนาง วงหน้างามขาวเรียบเนียน ต้องยอมรับว่ารูปโฉมนางงดงามเหนือผู้ใด เฉียนเย่เจาไล้นิ้วชี้ไปตามกรอบหน้างาม นัยน์ตาเรียบเฉยอ่อนลงเล็กน้อย ไพล่นึกไปถึงคำพูดของเฉียนหยาง ดวงตาก็ฉายความแข็งกร้าวขึ้นมา

องค์ชายหมาป่าชักมือกลับลุกขึ้นเดินกลับไปประทับที่เก้าอี้ตัวโปรด

‘ข้าต้องสนใจหรือ อย่างไรเขาก็ให้ข้าอยู่อย่างตายทั้งเป็นมานานแล้ว’

เฉียนเย่เจาหวนกลับไปนึกถึงอดีตที่ผ่านมาเนิ่นนานแต่เขายังจดจำมิลืม

‘ในวัยสิบขวบ เด็กชายสองคนที่เกิดในวันเดียวกัน หนึ่งคนมีความสุขอยู่กันพร้อมหน้า บิดา มารดา แลเหล่าญาติมิตรมาร่วมอวยพรในวันเกิด ต่างจากเด็กชายอีกคนที่มีเพียงแม่นมและพี่ชายร่วมสายเลือด จัดงานเล็กๆ แต่เด็กน้อยก็มิเคยน้อยเนื้อต่ำใจที่ไม่ได้รับความเอาใจใส่จากผู้เป็นบิดา สิ่งเดียวที่เขาร้องขอ คือการได้พบมารดา

“เสด็จพี่ เสด็จแม่จะมาหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”

องค์ชายน้อยร้องถาม เด็กชายที่โตกว่า

องค์ชายใหญ่ เงียบไปเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยตอบ

“มาสิ ย่อมมาเป็นแน่”

“เช่นนั้น อาเจาจักรอเสด็จแม่พ่ะย่ะค่ะ”

องค์ชายใหญ่ลูบศีรษะของน้องชาย ก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไป

องค์ชายน้อยแอบตามพี่ชายไป มุมหนึ่งของตำหนัก องค์ชายใหญ่กล่าวกับแม่นมว่า

“ข้าจะไปขอให้เสด็จพ่อ ถอนคำสาป อย่างไร เพียงแค่วันนี้”

“องค์ชาย ยามนี้ที่วังจัดงานเลี้ยงให้องค์ชายสาม จะสะดวกหรือเพคะ?”

“สะดวกไม่สะดวกแล้วอย่างไร อาเจาก็เป็นโอรสเช่นเดียวกัน”

“แต่…”

“ข้าจักไป ท่านดูแล เย่เจาให้ดีเถิด อย่างไรวันนี้ ท่านแม่ก็ต้องได้มาพบเย่เจา”

องค์ชายน้อยเดินกลับมาเงียบๆ ใจหนึ่งคาดหวังใจหนึ่งหวาดกลัว เพราะมิใช่วันพระจันทร์เต็มดวง เสด็จแม่จึงออกไปที่ใดไม่ได้

องค์ชายน้อยเฝ้ารอจนฟ้ามืด จนฟ้าสว่างอีกวัน แต่ก็ไม่มีผู้ใดมา

รุ่งสางเสด็จพี่กลับมา ไร้เสด็จแม่ องค์ชายใหญ่ยื่นกระดาษแผ่นหนึ่งให้น้องชาย

องค์ชายน้อยรับมาเปิดอ่าน ในข้อความเขียนว่า

‘แม่รักเจ้า เป็นเด็กดีนะ เจาเจา’

อ่านจบองค์ชายน้อยก็ปล่อยน้ำตาให้ไหลริน องค์ชายใหญ่คว้าร่างน้องชายมากอดไว้ สองพี่น้องร่ำไห้ไปพร้อมกัน

เจียอิงมองภาพนั้นทั้งน้ำตาอาบแก้ม

โหดร้าย โหดร้ายเกินไปหรือไม่ เหตุใด ถึงไม่มีความแยกแยะแม้แต่น้อย’

คืนนั้น ฝนตกหนัก เฉียนเย่เจาหลับไปทั้งที่บนหน้ามีคราบน้ำตาหนึ่งคราบ

*******

ชีวิตของคนเรา มีสิ่งที่ไม่คาดคิดอยู่หลายอย่าง เช่นชีวิตของข้า

ในวันธรรมดาเช่นทุกวันที่ดำรงชีวิตเช่นปกติกลับต้องพลิกผันเปลี่ยนแปลงไปตลอดการ

ชีวิตเช่นมนุษย์ธรรมดา กลับได้รู้ว่า ในดินแดนนี้ มิได้มีเพียงมนุษย์ที่ดำรงอยู่และแข็งแกร่งที่สุด

*******

ลั่วเริ่นอิงพลิกตัวเปลี่ยนท่า ก่อนจะลืมตาขึ้น สิ่งแรกที่เข้ามาในม่านตาคือใบหน้าหล่อเหลาของคนที่ช่วยเหลือนาง

'เฉียน เย่ เจา'

ลั่วเริ่นอิงตื่นเต็มตา ใบหน้าของเฉียนเย่เจาอยู่ห่างใบหน้าของนางเพียงฝ่ามือคั่น

หญิงชาย นอนร่วมเตียง.......

นางไม่กล้าคิดอันใดต่อไปมากกว่านี้ จะขยับตัวก็ไม่กล้า จะเรียกเขานางก็ไม่กล้า และเหมือนสวรรค์จะเห็นใจนาง หรือ กลั่นแกล้งนางก็มิทราบได้ เมื่ออยู่ๆเฉียนเย่เจาก็ลืมตาขึ้น

เขากะพริบตาเล็กน้อยเหมือนปรับม่านสายตาให้ชัด ก่อนจะเบิกตากว้างขึ้น...เล็กน้อย เล็กน้อย เพียงเท่านั้นแล้วก็กลับไปนิ่งเรียบเช่นเดิม

เขาลุกขึ้นนั่ง ลงจากเตียง ยืนขึ้น หยิบเสื้อตัวนอกขึ้นมาใส่ ท่าทางลื่นไหลราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

"ทะ...ท่าน"

เสียงพลันติดขัด อยากจะถามว่า เหตุใดเขาถึงมานอนเตียงเดียวกับนาง ไม่ใช่สิ เหตุใดเขาถึงมานอนที่นี่ ก็ไม่รู้ว่าควรถามอย่างไรถึงจะเหมาะสม

"ขอโทษเจ้าด้วย คงเป็นผลจากการผูกจิต"

ประโยคแรกเขาหันมาบอกกับนาง แต่ประโยคหลังคล้ายพึมพำกับตนเอง

"ผะ...ผูกจิต?"

เฉียนเย่เจาปรายตาขึ้นมองนางนิ่งๆ ก่อนจะกล่าวประโยคต่อมา

"ข้ามิได้ทำอันใดเจ้า แต่หากเจ้ามิใคร่สบายใจ เจ้าจะแต่งให้ข้าก็ได้"

"!!!"

สวรรค์ มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นกับข้าจริงๆ ชีวิตคนเราไม่อาจคาดเดาทางต่อไปได้ ตัวข้าที่เป็นองค์หญิง บ้านเมืองถูกคนใจคตแย่งชิงไป หนีหัวซุกหัวซุนมาที่แสนไกล พบกับหมาป่า และสิ่งเหนือมหัศจรรย์ และล่าสุด ข้าถูกบุรุษที่รู้จักกันได้ไม่ถึงสัปดาห์ ขอแต่งงาน

นี่มันเรื่องอันใดกัน!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel