บทที่ 2 น่าสนใจ
บทที่ 2น่าสนใจ
“งั้นก็ดีข้าจะชดใช้ให้เขาเอง ” ซินหนี่ว์เดินแสยะยิ้มมาหาชายฉกรรจ์ที่ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังเล่นกับผู้ที่ไม่ควรคู่จะต่อปากต่อเสียงด้วย ฉู่ลี่หยางใช้มือปิดตาตนเองเพราะไม่อยากจะดูว่าซินหนี่ว์ทำร้ายมนุษย์ที่แรงน้อยนิดกว่าขี้เล็บของนางด้วยซ้ำ
“ดี ดี อย่างนี้สิสมใจข้ายิ่งนัก” เขาหัวเราะออกมาอย่างชอบใจที่เห็นซินหนี่ว์เดินมาหาอย่างว่าง่าย แต่แล้วซินหนี่ว์ก็เดินไปจับแขนของเขากระชากเข้าหาตัวก่อนจะจับเขาทุ่มลงพื้นทำให้ผู้คนที่อยู่แถวนั้นตกใจในการกระทำของนางเป็นอย่างมาก
“อ๊าก!!!” เสียงแห่งความเจ็บปวดตะโกนลั่นออกมาทำให้ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นอึ้งในแรงของนาง ที่ทำให้ผู้ชายร่างโตอย่างเขาล้มลงได้โดยง่าย
“เป็นอย่างไรบ้าง คุ้มค่าไก่ของเจ้าหรือยังถ้ายังข้าจะจ่ายเพิ่มให้อีก” ซินหนี่ว์เดินเข้าไปจับที่คอเสื้อของเขา ทำให้เขาสั่นกลัวนาง สตรีเช่นนางช่างน่ากลัวนัก
“ไม่ๆ ไม่ข้าไม่เอาแล้ว เจ้าเอาไปเถอะนะ” ชายฉกรรจ์หันไปบอกชายที่น่าสงสารที่ต้องมองซินหนี่ว์ตาไม่กระพริบเช่นกัน
“ข้ามอบให้เจ้า เอาไปเลยและพานางไปด้วย” เสียงสั่นรีบตะโกนบอกชายผู้อ่อนแอ
“ข้าจะไปก็ได้แต่เจ้าต้องรับปากก่อนว่าจะไม่ทำร้ายเขาอีก ไม่เช่นนั้นข้าจะจับเจ้าหักแขนหักข้าและโยนให้ปลากินส่ะ ส่วนนี่ค่าไก่ของเจ้า” ซินหนี่ว์โยนถุงเบี้ยของนางให้เขาพร้อมเดินไปหาชายคนนั้นและพยุงเขาออกไป ฉู่ลี่หยางรีบเดินตามทั้งสองออกไป
“เจ้าเป็นใครถึงมาช่วยข้าเช่นนี้ ข้ามิได้มีอันใดตอบแทนเจ้าหรอกนะ” น้ำเสียงเฉยชาเอ่ยออกมา
“ข้าไม่ได้หวังให้เจ้ามาตอบแทนข้าเสียหน่อย แล้วนี่เรือนของเจ้าอยู่ที่ใดข้าจะไปส่ง” ซินหนี่ว์เพ่งเล็งไปที่ใบหน้าของเขา เขาเป็นบุรุษที่ดูดีทีเดียว หากได้อาบน้ำล้างเนื้อล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์ใหม่เขาเองก็ไม่ต่างจากเทพเซียนที่นางเคยเห็นมาเลย
“ไม่เป็นไร แค่นี่ข้าเองก็ติดบุญคุณเจ้ามากพอแล้ว ขอบใจเจ้ามาก” เขาไม่อยากให้นางต้องมาเกี่ยวข้องกับตนเองเพราะชะตาชีวิตของเขานั้นหากผู้ใดอยู่ใกล้ก็มักจะเกิดอันตราย ที่เขาแสร้งเป็นชายสติไม่ดีเพราะไม่อยากให้ผู้ใดมาข้องเกี่ยว การที่เขาปล่อยกายเช่นนี้เพราะไม่อยากเป็นที่หมายปองของหญิงสาว หากสตรีใดที่รักเขา สตรีผู้นั้นต้องได้พบเจอแต่เรื่องไม่ดีจนถึงแก่ชีวิตและเป็นตราบาปในหัวใจของเขา ที่เมียรักของเขาต้องมาจากไปในอ้อมกอด
“เฮ้อ! ข้าเองก็เดินทางมาจากแคว้นอื่น ไม่รู้จะไปพักที่ใดตอนนี้เองตะวันเริ่มลับขอบฟ้า หากท่านคิดว่าอยากตอบแทนข้าก็ให้ข้าไปพักที่เรือนของท่านสิ” ซินหนี่ว์สนใจชายผู้นี้อย่างบอกไม่ถูกจนนางอยากรู้จักว่าเขาเป็นผู้ใดชีวิตของเขาเหตุใดถึงเป็นเช่นนี้
“แต่ว่าเจ้าเป็นสตรี มิควรจะไปอยู่ที่เรือนของชายที่ภรรยาตายไปแล้วเช่นข้า” เขาพยายามที่ไม่อยากให้นางไป แต่มีหรือที่ซินหนี่ว์จะยอม
“ชาวบ้านเอ่ยกันว่าท่านเป็นชายที่สมองแป้งเปียก [1] ข้าไม่เห็นจะกังวลอันเลยสักนิด อีกอย่างข้ามีสหายของข้าตามมาด้วย หากท่านคิดจะทำมิดีมิร้ายข้านั้นข้าไม่เกรงกลัว เพราะท่านคงจะเห็นฝีมือของข้าไปแล้ว” เขามองไปด้านหลังของนางก็เห็นฉู่ลี่หยางยืนยิ้มให้ เขาก็ได้ยอมพานางกลับไปที่เรือนด้วย
“ก็ได้หากฟ้าสว่างเมื่อใดเจ้าต้องออกจากเรือนของข้าไป ถือว่าข้านั้นได้ตอบแทนบุญคุณเราจะไม่ได้มีเรื่องอันใดติดค้างกันอีก” เขาพูดจบก็เดินนำหน้านางไปตามทาง ซินหนี่ว์ยิ้มอย่างพอใจพรางคิดในใจ เขามิใช่ชายที่สติเลอะเลือนเป็นแน่ การพูดการจาก็ไม่ได้ใกล้เคียงสักนิด ยิ่งทำให้นางสงสัยเกี่ยวกับเขามากกว่าเดิม
ฉู่ลี่หยางเดินตามหลังและกระซิบถามด้วยความสงสัยที่ซินหนี่ว์นางทำเช่นนี้เพราะอันใด
“ข้าไม่เข้าใจสักนิดท่านจะตามชายผู้นี้ไปทำไมกัน เมื่อครู่ท่านก็ได้ช่วยชีวิตของเขาไว้แล้ว เราอย่ายุ่งวุ่นวายกับชะตาของพวกเขาเลย กลับแดนปีศาจกันเถอะ .”
“ไม่รู้สิ ข้ารู้สึกว่าข้าถูกชะตากับชายผู้นี้เหลือเกิน อยากรู้ว่าชีวิตของเขาเป็นอย่างไร หรือนี่จะเรียกว่ารักแรกพบนะ ” ซินหนี่ว์พูดไปก็อมยิ้มไปจนใบหน้าของนางแดงระเรื่อขึ้นเรื่อยๆ
“แต่ท่านอย่าลืมสิ ว่าท่านเป็นใครแล้วชายผู้นี้เป็นใครอายุขัยของมนุษย์นั้นสั้นยิ่งนัก ข้าไม่อยากเห็นท่านต้องเสียน้ำตาที่ต้องมองคนที่ท่านรักจากไป ข้าว่าท่านกลับไปหาองค์ชายของเหล่าปีศาจเถอะ” เสียงบ่นจู้จี้จุกจิกของฉู่ลี่หยางช่างขัดใจนางและทำให้นางรำคาญยิ่งนัก นางจึงเสกให้ฉู่ลี่หยางกลับร่างเดิมและใช้เวทย์สร้างภาพลวงตาของฉู่ลี่หยางขึ้นมาแทน
“จิ๊บ ๆ ” (นี่ท่านทำอย่างนี้กับข้าเพราะเจ้ามนุษย์นี่หรือ ชิข้าไม่อยู่กับท่านแล้ว ข้าจะรออยู่ที่ทางเข้าแดนปีศาจ ข้าจะให้เวลาท่านแค่สองวันหากท่านไม่กลับข้าจะไปแจ้งกับพญามารว่าท่านแอบออกมาเที่ยว) เสียงนกน้อยร้องออกมา แต่ชายคนนั้นไม่รู้ว่านกตัวนี้พูดว่าอะไรมีเพียงซินหนี่ว์เท่านั้นที่รู้ นางหัวเราะและรีบเดินตามชายผู้นั้นไป
ไม่นานก็ถึงเรือนของเขา รั้วด้านนอกช่างดูเก่าทรุดโทรมยิ่งนัก ทำให้นางเริ่มหน้าเสีย แต่นางก็ไม่ได้กลัวที่จะย่างกรายเข้าไปด้านใน เขาพานางเดินเข้าไปเรื่อยๆ ด้านนอกแม้ดูเหมือนเป็นเรือนร้างแต่เข้ามาด้านในกลับดูสะอาดตา และน่าอยู่ยิ่งทำให้ซินหนี่ว์ฉงนใจ
“นี่ถึงแล้ว ห้องพักของเจ้าแล้วอย่าลืมเรื่องที่ข้าบอก หากแดงอาทิตย์เริ่มเคลื่อนขึ้นฟ้าเมื่อไหร่ ให้เจ้าออกไปโดยเร็ว” เขาเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา
“ไม่ต้องบอกข้าหลายครั้งหลายครา ข้าจำได้แล้ว เอานี่ข้าวปั้นข้าได้ซื้อให้ท่านจากตลาดเมื่อครู่ เห็นท่านไปขอกับหญิงชราผู้นั้นแต่นางไม่ให้ ท่านคงหิวมากสินะไม่ต้องเกรงใจข้านะ ” ซินนหนี่ว์ยื่นข้าวปั้นใส่มือของเขาและเดินเข้าห้องเพื่อไม่ให้เขาได้คืนกลับมาให้นาง