ตอนที่9 ข่วนอีก กินอีก
สายลมหนาวเหน็บในยามกลางคืนถึงแม้จะไหลเอื่อยเฉื่อยไม่รุนแรงแต่ทว่ากลับทำให้อากาศในยามรัตติกาลช่างหนาวเย็นยิ่งนัก แต่ถึงกระนั้นความหนาวเย็นอย่างนี้กลับไม่มีผลอันใดกับหนึ่งบุรุษและหนึ่งสตรีที่กำลังยืนอยู่ด้วยกันในระยะประชิด
ลมหายใจของทั้งสองช่างรุนแรงจนมีเสียงดังออกมา
จะเรียกว่าหอบเหนื่อยมากมายก็ไม่ผิดนัก เพราะว่าทั้งคู่กำลังพ่นลมหายใจออกมาทางจมูกและทางริมฝีปากกันแบบกระชั้นถี่ติดหอบเหนื่อย ทั้งยังมีหยดเหงื่อไหลรินหยาดเยิ้มพร่างพราวตามใบหน้าตามไรผมของคนทั้งคู่อย่างไม่น่าเป็นไปได้
เฟยหมิงผละกายสูงโปร่งออกห่างจากที่ยืนจ้องใบหน้างามในระยะประชิดอยู่เป็นนาน ลมหายใจที่หอบหนักเริ่มจะกลับเข้าที่ เขากอดอกยืนพิงร่างกับต้นไม้ที่อยู่เบื้องหลัง
ใบหน้าหล่อเหลาคมคายและลำคอแกร่งของเขาบัดนี้พลันปรากฏริ้วรอยเล็บมือน้อยๆ เป็นสายอยู่หลายแห่ง ช่วงไหล่และช่วงอกรวมถึงต้นแขนหนาแน่นกำลังระบมไปหมด
ชายหนุ่มยืนกอดอกพิงร่างกับต้นไม้อย่างไม่สบอารมณ์พลางจ้องมองสตรีนางหนึ่งอยู่นิ่งๆ
เด็กน้อยคนนั้นได้หายไปแล้ว เด็กน้อยที่เขาคอยเฝ้าคอยวนเวียนมาดูแลได้หายไป เหลือเพียงเด็กสาวผู้น่าหลงใหล เด็กสาวผู้นี้ แต่ทว่า...เห็นตัวเล็กๆ อย่างนี้มิรู้ได้ว่าเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เป็นอย่างนี้เขาคงจับนางกดติดเตียงได้ทั้งคืนโดยไม่ต้องออมแรงแต่อย่างใด
เฟยหมิงคิดในใจได้อย่างนั้นพลางปรายสายตาคมดุมองสตรีที่กำลังยืนจ้องมองมาทางเขาอยู่อย่างไม่วางตาทั้งยังจ้องมองใบหน้าของเขาด้วยสายตาเข้มข้นดุเดือดคล้ายอยากเชือดเฉือนกันให้ตายจาก
เขาอยากจับนางให้นอนอยู่ใต้ร่างของเขา ฟังเสียงครวญครางของนางที่เกิดจากการกระทำของเขาเสียจริง
แต่เขาจะทำได้อย่างไร ถึงแม้ว่าเขาจะเจอนางอยู่หลายปี ทนเห็นนางอยู่หลายหน แอบมองนางอย่างอดทน แต่นางกลับเจอกับเขาแค่เพียงไม่นานก็เท่านั้น
อารมณ์ชั่ววูบที่เกิดขึ้นเพราะเกินยับยั้งหลังจากเห็นกิริยาคล้ายกับจะตีจากกันไปอย่างนั้นของนางที่ทำให้เขาถึงกับพลั้งเผลอจูบนางไป
เขาแค่จูบนางเท่านั้น เขายังได้แผลตามลำตัวมากมายถึงเพียงนี้ แล้วถ้าหากเขาทำมากกว่านี้เล่า เขาจะเป็นอย่างไร
สตรีอะไร ดุยิ่งกว่าเสือ
เฟยหมิงใช้สายตาคมเข้มดุดันแข็งกร้าวมองม่านนีนิ่งงันผิดกับความคิดภายในจิตใจ ในขณะที่ม่านนียังคงยืนจ้องมองเฟยหมิงนิ่งงันเช่นเดียวกันพลางกัดเม้มริมฝีปากเอาไว้ด้วยความระแวงว่าเขาอาจจะเกิดอาการหิวริมฝีปากของนางขึ้นมาอีก
มาดูดกินริมฝีปากของนางแบบนี้ทำไม
ทั้งสองส่งสายตาเข้าประสานคล้ายฟาดฟันคล้ายเก็บข่มอารมณ์หลากหลายอยู่เนิ่นนาน
“ริมฝีปากของข้ามิใช่ขนมให้ท่านกิน” ม่านนีเอ่ยเสียงเข้มพลางเดินแบบย่างสามขุมหมายเข้าไปจัดการบุรุษน่าตายตรงหน้าให้แดดิ้นสิ้นใจ
เฟยหมิงหรี่ตามองซ่อนความนัยก่อนเอ่ย “แต่มันหวานดี หวานมาก”
“ข้าจะฆ่าท่าน” หญิงสาวกล่าวเสียงลอดไรฟัน
“ฮึ!” เขาส่งเสียงในลำคอยืนกอดอกนิ่งเพื่อรอนางเดินเข้ามาใกล้พลางเอ่ย “เข้ามา”
แต่ยังไม่ทันสิ้นเสียงเอ่ยคำของคนร่างสูงรอยเล็บลากยาวพลันพาดผ่านสันกรามจนถึงลำคอหนาแน่นของเขา
เฟยหมิงยังคงไว้ซึ่งใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงอาการเจ็บปวดใดๆ เขาหลับตาลงอยู่อึดใจก่อนลืมตาขึ้นมาใหม่อย่างใจเย็นเมื่อได้แผลใหม่ๆ สดๆ คันยุบยิบๆ อีกหนึ่งแผล
ม่านนีเอื้อมฝ่ามือขึ้นหมายฝากรอยให้เขาอีกหลายแผล แต่ทว่านางแค่ทำท่ายกแขน ใบหน้างามพลันแหงนหงายด้วยฝ่ามือกรุ่นร้อนของบุรุษตรงหน้า เขาพลันจับกุมพวงแก้มของนางเอาไว้อย่างเร็วตามด้วยริมฝีปากอุ่นชื้นของเขาก็แนบชิดเข้ามาที่ริมฝีปากของนาง
ความรู้สึกแปลกประหลาดพลันเกิดขึ้นอีกครา
ทั้งนุ่มลื่นทั้งอุ่นวาบและอุ่นซ่าน
ม่านนีถึงกับต้องเบิกตากว้างขึ้นมาอีกครั้ง
เฟยหมิงจูบม่านนีอีกคราอย่างหนักหน่วงด้วยความเข่นเขี้ยวเหลือประมาณ
ฝ่ามือเรียวหนาของเขากอบกุมพวงแก้มนุ่มนิ่มของนางเอาไว้แน่น
อารมณ์ที่เก็บข่มมาเนิ่นนานของเขาพร้อมปลดปล่อย
ริมฝีปากร้อนผ่าวของเขาครอบครองริมฝีปากหวานล้ำของนางอย่างแนบแน่นหนักหน่วง ปลายลิ้นของเขาเข้าแทรกซึมเรียวปากของนางอย่างดุดันเอาแต่ใจ
เขาไม่สามารถควบคุมตนเองเอาไว้ได้อีกแล้ว
กับสตรีนางนี้ เขาอยากจะรักนาง
รักนางให้มากกว่านี้
รักนางยิ่งๆ ขึ้นไป
ถึงแม้ว่าความรู้สึกร้อนรุ่มวูบวาบแปลกๆ อย่างประหลาดจะกำลังเข้าถาโถมม่านนีได้อีกครั้ง
แต่ทว่าครานี้ม่านนีมีสติเป็นอย่างดีไร้ท่าทีเผลอไผลดั่งเช่นครั้งแรก นางจึงผลักแผงอกของเขาออกอย่างแรงจนริมฝีปากของนางได้รับอิสระอย่างเร็ว
“ท่าน!” ม่านนีถลึงตาจ้องมองเฟยหมิงอย่างไม่มียินยอมเตรียมพร้อมยกฝ่ามือเข้าฟาดฟัน
“ข่วนอีก กินอีก” เฟยหมิงก้มหน้าคำราม
ม่านนีพุ่งร่างเข้าใส่อย่างเร็วหาได้ฟังความอันใดไม่
ฝ่ามือน้อยๆ ของนางปล่อยหมัดออกไปอย่างไม่มียั้ง ไม่มีออมแรง ฝากฝังเอาไว้ได้ทั้งรอยเล็บ ทั้งรอยตบ ทั้งรอยฟาดฟัน นัวเนียพัลวันสลับกันกับรอยถูกกดจูบจากบุรุษหน้าตายตรงหน้า
เฟยหมิงทำตามที่เขาเอ่ย
เขากระทำการอย่างไม่มีตกหล่น
นางข่วน เขาจูบ
เขาได้แผลแลกกับริมฝีปากของนางถูกเขากลืนกิน
เวลาผ่านมาจนพ้นช่วงแห่งราตรีกาลอันมืดมิด
แสงของทิวากาลพลันสาดส่องทอประกาย ม่านนีที่ถูกเฟยหมิงขโมยจูบอยู่หลายทีจึงเริ่มที่จะหน้ามืดตาลาย
จากที่ไม่คุ้นชินจึงเริ่มคุ้นเคยขึ้นมา
หญิงสาวได้ฝากรอยเล็บ รอยข่วนเอาไว้จนเต็มใบหน้าและลำคอให้แก่เฟยหมิงจนเต็มพื้นที่ ในขณะที่นางเริ่มหมดเรี่ยวแรง
แต่ทว่ากับเฟยหมิงนั้น
เขายังคงคึกคักสนุกสนานยิ่งนัก
เขากำลังรู้สึกว่าการจับแมวป่าที่แสนพยศตัวนี้นำมาซึ่งความสุขอย่างบอกไม่ถูก
และแล้วการต่อสู้แบบใหม่จึงยังคงดำเนินต่อไป
ท่ามกลางป่าใหญ่สายลมหนาวเหน็บ แต่กลับเรียกเหงื่อเม็ดเล็กเม็ดน้อยพร่างพราวจนเต็มวงหน้าของบุรุษและสตรีคู่นี้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ