บท
ตั้งค่า

ตอนที่8 เกินเก็บข่มอารมณ์พลุ่งพล่าน

ท่ามกลางทางเดินที่ทอดยาวจากในป่าใหญ่ที่ยามนี้กำลังจะถูกกลืนกินด้วยราตรีกาลอันมืดมิดกำลังคืบคลานเข้ามาจากท้องฟ้าสีหม่นจนเริ่มกลายเป็นสีดำสนิทไร้แสงของดวงดาวจากดวงใด แต่กลับมีแสงของดวงจันทร์ทอประกายสีนวลลงมาทะลุผ่านยอดไม้แต่ละใบ ทำให้ม่านนียังคงสามารถมองเห็นใบหน้าคมคายของบุรุษนามว่าเฟยหมิงได้ชัดเจนถนัดถนี่เป็นอย่างดี ด้วยเพราะว่านางค่อนข้างจะชินชากับความมืดมิดอย่างนี้มาแต่ไหนแต่ไร

แต่ทว่า...กับสัมผัสบางอย่าง

นางไม่ชาชินแต่อย่างใด

กับความร้อนวูบวาบ

กับความฉ่ำชื้นนุ่มละมุนที่อุ่นร้อนนี่คืออันใด

กับความรู้สึกนี้มันอะไร

เกิดมาไม่เคยเจอ

ริมฝีปากอุ่นชื้นของบุรุษที่จู่ๆ พลันแนบชิดเข้ามาจนติดหนึบอยู่กับริมฝีปากของนาง

ทั้งยังบดขยี้อย่างดุดันคล้ายเก็บกดมาเนิ่นนาน

ลมหายใจร้อนกรุ่นจากปลายจมูกโด่งเป็นสันตั้งตรงของเขาเป่ารดพวงแก้มของนางจนนางร้อนไปหมดทั้งใบหน้า

ฝ่ามือเรียวยาวพร้อมลำแขนร้อนผ่าวของเขาอีกเล่า ที่ข้างหนึ่งกำลังรัดรึงจับตรึงแผ่นหลังของนางเอาไว้แน่น ส่วนอีกข้างก็รั้งต้นคอของนางไม่ยอมปล่อย เรียวนิ้วของเขาสอดเข้ามาที่ท้ายทอยของนางคล้ายคีมเหล็กตรึงแน่นที่ศีรษะของนาง

นี่คืออันใด!?

ม่านนีได้แต่ถลึงตาโตอย่างตกอกตกใจตกตะลึงพรึงเพริดตัวเกร็งแข็งทื่อ

ในขณะที่อีกฝ่ายยังคงกระทำการบางอย่างกับนางอย่างดุดันคล้ายแค้นเคืองกันมานานปี

นางรีบยกฝ่ามือขึ้นหมายจะดันแผงอกของเขาให้ออกห่าง แต่ทว่าแผงอกหนาแน่นของเขากลับกำลังแนบชิดกับหน้าอกนุ่มนิ่มของนางจนไร้ช่องว่างใดๆ

มันแนบชิดเสียจนกลายเป็นบดเบียดเสียดสี

ความหยุ่นนุ่มของเนินเนื้อตรงหน้าอกถึงกับเสียรูปทรงด้วยแรงกดทับจากเนื้อตรงแผงอกหนาแน่นของเขาจนนางเริ่มมีความรู้สึกแปลกประหลาดยิ่งกว่าเดิมแบบที่ไม่เคยมี

เพิ่มเติมขึ้นไปอีกด้วยแรงบดขยี้เปลี่ยนทิศไปมาอยู่ตรงริมฝีปากแบบนี้ คล้ายกับกำลังจะถูกกลืนกินให้ริมฝีปากหายไป

มันทั้งนุ่มทั้งอุ่น ก้อนเนื้อบางอย่างที่กำลังตวัดเข้ามาในปากของนางนี่อีกเล่า ทั้งร้อนทั้งชื้นทั้งรุกล้ำ

อา...นี่คืออันใด!? ใช่ลิ้นหรือไม่? นางถามในใจได้อีกครั้ง

เมื่อนางไม่สามารถดันแผงอกของเขาให้ออกห่างอย่างตรงๆ ได้ นางจึงเอื้อมฝ่ามือน้อยๆ ของนางดันไหล่กว้างใหญ่ของเขาแทน

นางทั้งทุบทั้งดึงทั้งทึ้งอยู่บนไหล่หนาแน่นของเขาพลางพยายามเบี่ยงเรือนร่างของนางให้ออกห่าง แต่ทว่ายิ่งเพิ่มแรงเบี่ยงออกเขายิ่งแนบชิดเบียดเสียด ฝ่ามือของเขาตรงแผ่นหลังของนางยิ่งรัดรึงจนกลายเป็นโอบกอดเมื่อฝ่ามือนั้นของเขาพลันเลื่อนไล้ขึ้นมารัดแน่นทั้งแผ่นหลังบอบบางของนางจนหมด

ฝ่ามือของเขาอีกข้างตรงต้นคอของนางยิ่งจับประคองตรึงแน่นมิให้ใบหน้าของนางได้หนีเลื่อนหลุดไป

เรียวคิ้วคมเข้มดกดำของเขาขมวดเข้าหากันมุ่น ทั้งจมูกทั้งริมฝีปากกินพื้นที่บนใบหน้าของนางไปกว่าครึ่ง

นี่เขาเป็นอะไร โกรธอันใดนาง?

“อืม...” ม่านนีเริ่มส่งเสียงบางอย่างในลำคอ

เฟยหมิงเองก็เช่นเดียวกัน เขาเริ่มมีเสียงคำรามเบาๆ อยู่ในลำคอแกร่งของเขาไม่แตกต่าง

สายลมหนาวเย็นกลางป่าพนาไพรยังคงแล่นผ่านเรือนกายที่กำลังแนบชิดของบุรุษและสตรีแค่เพียงเบาๆ แต่ทว่ามันกลับนำมาซึ่งเสียงลมอื้ออึงมีเสียงที่ดังคล้ายๆ กับมีพายุลูกใหญ่พัดผ่านไปมาอยู่ในใบหูของพวกเขา เสียงกรีดร้องของแมลงกลางคืนพลันหายไป เสียงสวบสาบของสัตว์น้อยใหญ่ก็หาได้เป็นผลอันใดกับสองหนุ่มสาวในยามนี้ไม่ แสงสีนวลของดวงจันทร์ริบหรี่ของราตรีอันมืดดำก็พลันเปลี่ยนไปคล้ายกับว่าเป็นแสงสว่างจ้าขาวโพลนเหมือนประกายไฟกำลังปะทุดุเดือดดังตูมๆ

ไม่นานม่านนีจึงเริ่มที่จะหายใจไม่ออกด้วยเพราะว่าบุรุษตรงหน้าใช้เวลาฉกกินริมฝีปากของนางนานเกินไป

เขาหิวหรือไร เห็นริมฝีปากของนางเป็นขนมใช่หรือไม่

“อื้อ!” นางร้องออกมาได้แค่นั้น

อึดใจเฟยหมิงพลันได้สติ จึงรีบถอนริมฝีปากของเขาออกจากริมฝีปากของนางแต่ยังคงประคองกอดนางให้แนบชิดกับแผงอกของเขาอยู่อย่างนั้น

เขาก้มหน้ามองนางในระยะประชิด เป็นระยะที่เขาอยากจะกระทำมาโดยตลอดในระยะเวลาหลายปี

นี่ล่ะที่เขากลัว

การใกล้ชิดนางอาจทำให้เขาเกิดอารมณ์อย่างนี้ เขากลัวมาโดยตลอด

ความยับยั้งชั่งใจ ความเป็นสุภาพบุรุษที่เคยมี

หายไปที่ใด

นี่เขาแอบชอบนางถึงเพียงนี้

ได้อย่างไรกัน?

หลังจากเฟยหมิงถอนริมฝีปากของเขาออกจากริมฝีปากของม่านนีแล้ว เขาทำได้แค่จ้องมองใบหน้าของนางกับริมฝีปากบวมแดงของนางนิ่งงันด้วยลมหายใจอุ่นร้อนยังคงพ่นลมเป่ารดใบหน้างามของนางในระยะที่ใกล้กัน

เขาพยายามแล้วที่จะเก็บมัน กับความรู้สึกทั้งหลายที่พยายามถาโถมเข้ามาหาเขา

ทุกครั้งที่เขาแอบมองนาง ความรู้สึกนี้

กับความต้องการอย่างนี้

กับนาง...

เมื่อริมฝีปากได้รับการปลดปล่อยแล้วอย่างนั้น ม่านนีถึงกับสูดอากาศหายใจเข้าเต็มปอดจนลึกเสียงดังเฮือกใหญ่ก่อนช้อนสายตาขึ้นมองบุรุษหน้าตายที่หื่นกระหายฉับพลันกับนาง

หญิงสาวถึงกับถลึงตาจ้องมองอย่างเอาเรื่องพลางยกมือขึ้นเช็ดขยี้ริมฝีปากของตนอย่างแรงก่อนจะกัดเม้มริมฝีปากของตนเองเอาไว้แน่น นางกลัวเขาจะก้มลงมากลืนกินริมฝีปากของนางอีก ดูเขาก้มหน้ามองนางนั่นประไร จมูกจะชนกันอีกแล้ว

ม่านนีคิดอย่างนั้น มือบางพลันรีบทำท่าจะดึงมีดสั้นออกมา แต่ทว่าเฟยหมิงกลับรู้ทันเขาจึงแย่งปัดมีดสั้นของนางจนตกกระเด็นออกไป

ม่านนีหาได้เสียท่าอันใดไม่ นางยกขาฟาดเข่าขึ้นใส่เขาเต็มแรง

อึก!

เฟยหมิงถึงกับจุก

เขาถึงกับต้องปล่อยมือออกจากร่างงาม

ม่านนีไม่รอช้า นางรีบฟาดฝ่ามือเข้าใส่เขาอีกหลายที นางตีเขาอีกหลายครั้ง ทั้งยังไม่มียั้งไม่มีออมแรง

เฟยหมิงเห็นอย่างนั้นยิ่งนึกเข่นเขี้ยว

ดูเถิดนี่ล่ะนิสัยของนาง

ดื้อรั้น รุนแรง บ้าพลัง ไม่ยอมใคร แม้แต่สัตว์เล็กสัตว์น้อยในป่าใหญ่ นางยังโกรธเคืองจับมาย่างกิน

เขาเห็นนางทะเลาะกับกระต่ายป่ากับหมูป่าออกบ่อยไป

เฟยหมิงยังคงจุกช่วงกลางลำตัวไม่หาย จึงไม่คิดจะหลบฝ่ามือน้อยๆ ของนางแต่อย่างใด

เรี่ยวแรงกำลังดี พลังฝ่ามือใช้ได้ กระบวนท่าสวยงาม ถือเสียว่าเป็นเป้าให้นางซ้อมมือก็แล้วกัน

เฟยหมิงคิดอย่างนั้นจึงปล่อยให้สตรีตรงหน้าฟาดพลังเข้าใส่ด้วยความเต็มใจ

เวลาผ่านไปซักพัก

เมื่อเฟยหมิงรู้สึกปวดระบมตรงช่วงไหล่ช่วงแขนช่วงแผ่นอกทั้งแผงจนเกินรับได้ไหว เขาจึงเอื้อมฝ่ามือของเขาขึ้นรวบฝ่ามือของนางทั้งสองข้างเอาไว้อย่างแม่นยำและเอาแต่ใจ

“พอ!” น้ำเสียงทั้งเข้มข้นทั้งดุดันเอ่ยออกมา

“ไม่พอ!” น้ำเสียงหวานใสเอ่ยอย่างไม่มีเกรงใจ

และการต่อสู้ระหว่างชายหนุ่มหญิงสาวจึงยังคงดำเนินต่อไป โดยฝ่ายชายกลายเป็นเป้าดิ้นได้ ให้ฝ่ายหญิงอยู่เป็นนาน...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel