บท
ตั้งค่า

ตอนที่7 เก็บข่มอารมณ์พลุ่งพล่าน

ท่ามกลางทางเดินที่ทอดยาวในป่าใหญ่

ยามนี้กำลังย่างเข้าสู่ช่วงของการเปลี่ยนถ่ายช่วงระหว่างเวลาในยามกลางวันกับยามกลางคืนด้วยพระอาทิตย์กำลังเคลื่อนตัวลงต่ำจนจะลาลับขอบฟ้าอยู่รำไร

ในเวลายามนี้มีหนึ่งบุรุษและหนึ่งสตรีกำลังเดินทอดน่องอยู่ด้วยกันมาตามทางเดินในป่าแห่งนี้ที่ปกคลุมไปด้วยความเขียวชอุ่มชุ่มชื่นของแมกไม้นานาพันธุ์ในเวลายามเย็นหลังพระอาทิตย์อัสดง

ม่านนียังคงมองแผ่นหลังกว้างใหญ่ของบุรุษตรงหน้าอย่างเคลือบแคลงคาใจ

เขายังมิได้ตอบนางใช่หรือไม่ ว่าเขารู้จักนางได้อย่างไร นางยังไม่ทันได้แนะนำตัวกับเขาเลย นางจำได้ว่านางแนะนำตัวกับพวกนางกำนัลด้วยกันเท่านั้น

และพวกนั้นก็เรียกนางว่า เสี่ยวม่าน มิใช่ม่านนี

“นี่ท่าน” ม่านนีถามออกไปอีกครั้ง “ท่านเป็นใครกันแน่ แล้วรู้จักนามของข้าได้อย่างไร”

บุรุษเบื้องหน้าของม่านนียังคงเงียบงันไร้ซึ่งวาจาใดๆ ม่านนีจึงรู้สึกขัดใจได้อีกครา

“จะบอกกันดีๆ หรือไม่” นางเอ่ยเสียงดุดันแต่ทว่าก็ยังคงหวานใสอยู่ดี

“ข้าบอกแก่เจ้าไปแล้ว” เขาเอ่ยเสียงเรียบโดยไม่มองหน้าของม่านนี ฝ่าเท้าของเขายังคงก้าวย่างอย่างมั่นคง

“ว่า...” นางเอ่ยห้วนสั้น

“เฟยหมิง” เขาตอบแค่นั้น

“...”

ม่านนีถึงกับหยุดเท้าเดินแล้วหันหน้าจ้องมองบุรุษนามว่าเฟยหมิงพลางยกแขนขึ้นกอดอกแล้วเอ่ย “ไม่พอ”

“อะไรไม่พอ” เขาขมวดคิ้วถามเสียงขุ่นจ้องมองนางนิ่งหยุดเท้าเดินเช่นเดียวกัน

นางถลึงตาพลางตอบกลับ “แค่ชื่อไม่พอ”

“เจ้าต้องการรู้อะไร”

“ท่านรู้นามจริงของข้าได้อย่างไร” ม่านนีถามออกไปอย่างขัดเคืองขึ้นมา

เฟยหมิงพลันชะงักงัน

เพื่อไม่ให้เป็นการผิดสังเกตเขาจึงเอ่ย “เจ้าจะไม่กลับเข้าวัง” เขากล่าวคำเปลี่ยนเรื่องเสียอย่างนั้นพลางเลิกคิ้วขึ้นสูง ใบหน้าคมคายคล้ายกับซ่อนรอยยิ้มเจือจาง

“ข้าจะรีบกลับเข้าวัง ลาก่อน” ม่านนีรีบกล่าวตอบกลับไปอย่างนั้นพลันก้าวเท้าเดินออกห่าง

“ช้าก่อน” เฟยหมิงรีบเอ่ยเมื่อเห็นม่านนีเดินห่างออกไป

“อันใด”

“เจ้าอยากรู้อะไร”

“ท่านเป็นใครกันแน่ ไยรู้จักนามของข้า แล้วทำไมท่านคล้ายกับช่ำชองหรือเกินกับในป่าแห่งนี้”

“เจ้าจะรู้ไปทำไม”

“แค่ตอบมา”

“แล้วเจ้าเล่า”

“ข้า” ม่านนีเริ่มงงพลางยกนิ้วเรียวขึ้นชี้วงหน้าของตนเอง

“ข้าทำไม” นางถามออกไป

“เจ้ามาทำอะไรในป่านี่” เขาถามอย่างนั้น

“...”

ม่านนีถึงกับชะงักไป

เฟยหมิงเริ่มยกยิ้มตรงมุมปาก พาใบหน้าคมคายถึงกับหล่อเหลามากมายเพิ่มขึ้นมา

“เจ้ามีอะไรที่ทางการควรจะรู้หรือไม่” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยหยั่งเชิงพลางหรี่ตามองใบหน้างามอย่างลองภูมิ

“หือ” ม่านนีส่งเสียงในลำคอก่อนเอ่ย “ไม่มีนะ”

“เช่นนั้น” เฟยหมิงเอ่ยเสียงกดต่ำพลางสืบเท้าเข้าใกล้ม่านนีเมื่อเขาเริ่มต้อนนางได้จนมุม

“เจ้ามีอะไรจะบอกกล่าวแก่ข้าหรือไม่”

หญิงสาวถึงกับกลอกตาไปมา ใบหน้าดุดันพลันใสซื่อ เริ่มแพ้ทางอย่างไม่รู้ตัว

“แล้วเจ้ามีอะไรจะถามกับราชองครักษ์อย่างข้าอีกหรือไม่” เขาถามเมื่อเดินเข้ามาประชิดตัวนาง

ม่านนีถึงกับเงยหน้าขึ้นมองร่างสูงในระยะประชิด

ยามนี้เขาช่างดูตัวโตสูงใหญ่ยิ่งนัก เขายืนห่างนางเล็กน้อยจนได้กลิ่นกายแปลกใหม่ไม่คุ้นชิน

“เอ่อ...” นางส่งเสียงได้แค่นั้น

“ว่าอย่างไร” เขาก้มหน้าลงมองนางพลางยกยิ้มบางเบาซ่อนความเจ้าเล่ห์

“ท่านมาทำอะไรที่นี่” นางถามเสียงอ่อน

“แล้วเจ้าเล่า”

“ข้าแค่เดินผ่านมา” นางตอบอย่างเร็ว

“อ้อ...” เขาลากเสียงยาว

“...”

ม่านนีถึงกับขนลุกขนชันแปลกๆ

ทั้งคู่พลันเงียบกริบแต่ยังคงยืนในระยะประชิดใกล้ชิดกันอยู่อย่างนั้น

เฟยหมิงก้มมองใบหน้าสวยหวานของสตรีนางนี้ที่เขาเคยแอบมองอยู่ไกลๆ อย่างห่วงๆ มาตลอดระยะเวลาหลายปี

ท่ามกลางความเงียบงันม่านนีรู้สึกได้ถึงสายลมบางเบาพัดลอยมาปะทะเรือนกายแต่มันเพียงปะทะได้แค่เฉพาะแผ่นหลังของนางหาได้ปะทะด้านหน้าของนางได้ไม่ เนื่องจากว่ากำลังมีบุรุษรูปร่างสูงใหญ่มายืนบังเอาไว้จนมิด

ไยยืนใกล้ยิ่งนัก! นางถามอยู่ในใจนึกระแวงขึ้นมา

ชั่วครู่เสียงทุ่มต่ำพลันเอ่ย

“เจ้าฝีมือยังห่างชั้น ม่านนี” เขาเอ่ยอย่างนั้นด้วยน้ำเสียงทุ่มนุ่มมากกว่าเดิมถึงแม้ว่าดวงตาเรียวคมของเขายังคงดุดันเป็นเชิงตักเตือนคล้ายห้ามปรามคล้ายเก็บข่มบางอย่างผสมปนเป

หญิงสาวถึงกับจ้องมองใบหน้าของเขานิ่งงัน นางเริ่มขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นแต่ยังคงไม่สามารถเอื้อนเอ่ยคำใด

“ในวังหลวงไม่เหมาะให้เจ้าเข้าไปเดินเล่น” เขายังคงเอ่ยคำเนิบนาบเรียบเรื่อยพลางก้มหน้ามองนางด้วยสายตาคมดุซ่อนแววนุ่มลึกบางอย่างเอาไว้เป็นอย่างดี

“ท่านเป็นใครกันแน่ ไยต้องเตือนข้า” ม่านนียิ่งสงสัย ดวงตาเรียวสวยมองบุรุษตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจเปิดเผย

เขาไม่ธรรมดา นางรู้สึกได้ และอาจจะรู้อะไรบางอย่างที่เกี่ยวกับนางอย่างที่ไม่น่าจะเป็นไปได้

“เจ้าอย่ารู้เลย” เขาตอบเสียงกดต่ำอย่างเก็บข่มอารมณ์หลากหลายพลางถอยหลังออกห่างแล้วเบี่ยงตัวเดินนำหน้าไป

“ข้าไม่อยากรู้แล้วก็ได้” หญิงสาวกล่าวตัดรอนด้วยน้ำเสียงกดต่ำไม่แตกต่าง

ทั้งน้ำเสียงทั้งประโยคต่อคำทำเฟยหมิงถึงกับชะงักไป

ม่านนียืนจ้องมองแผ่นหลังกว้างใหญ่ของเขานิ่งงัน

“ถึงแม้ว่าท่านอาจจะรู้เรื่องของข้า” ม่านนีเอ่ยออกมาตามการคาดเดาของตัวเอง ถึงแม้ว่านางจะดูโง่งมเพราะขาดประสบการณ์จากโลกภายนอก แต่นางมิใช่คนโง่

“ท่านเป็นใคร ข้าหาได้ใส่ใจ แต่อย่ามายุ่งกับเรื่องของข้า” นางกล่าวออกไปอย่างที่ใจคิดตรงไปตรงมาตรงประเด็นเพื่อดักคอเขาเอาไว้

ความคุกรุ่นในอารมณ์ของม่านนีเผยออกมาอย่างฉายชัดเกินเก็บข่มใดๆ นางไม่จำเป็นต้องใส่ใจใคร นางตัวคนเดียว อยู่คนเดียวมาแต่ไหนแต่ไร ใครก็ไม่สำคัญกับนางทั้งนั้น

นี่คือนิสัยของนาง เฟยหมิงรู้อยู่แก่ใจ หากแต่เขาจะบอกนางได้อย่างไร ว่าเขาเป็นใคร

เฟยหมิงยังคงยืนหันหลังให้ม่านนีด้วยอาการเงียบงัน

ม่านนีจ้องมองแผ่นหลังของเฟยหมิงด้วยอาการเงียบงันไม่ต่างกัน

อีกครั้งที่ทั้งสองปล่อยให้สายลมพัดผ่านเรือนกาย แต่ทว่าครานี้สายลมกลับเพิ่มความหนาวเย็น

เฟยหมิงยืนตัวตรงไม่ไหวติงใดๆ อยู่เบื้องหน้าของม่านนี ความรู้สึกของเขาในยามนี้คล้ายกับกำลังถูกเข็มแหลมคมต้องไฟจนร้อนจี้ด้วยปลายของมันจนเสียดแทงเข้าเนื้อ

ในขณะที่ม่านนีก็ยังคงจ้องมองแผ่นหลังของเฟยหมิง อย่างนึกขัดเคือง

เขาอาจจะเป็นอันตรายต่อนาง

นางรับรู้ได้

เพียงอึดใจหญิงสาวจึงตัดสินใจก้าวเท้าเพื่อหมายจะเดินทางต่อ

นางจะต้องอยู่ให้ห่างเขาเสียแล้ว เขาไม่น่าไว้ใจ

นางจะต้องห่างเขาเอาไว้ ต้องห่างให้ไกล

ม่านนีคิดอย่างนั้นพลางเดินผ่านชายหนุ่มไปอย่างดุดัน และต้องการหนีห่างอย่างนึกรังเกียจอีกด้วย

นางแสดงออกชัดเจนทั้งท่าทางทั้งใบหน้าว่าไม่ชอบก็คือไม่ชอบ อย่ามายุ่ง

แต่ทันใดนั้น เรียวแขนของนางพลันถูกฉุดดึง

ม่านนีถึงกับเสียหลักเอนกายหมุนเคว้งตามแรงฉุดดึงนั้นจนร่างของนางชนเข้ากับแผงอกหนาแน่น

แผงอกของบุรุษ

แผงอกของเฟยหมิง

แต่ยังไม่ทันที่ม่านนีจะระลึกสิ่งอื่นใดได้มากมายกว่านั้น ริมฝีปากของนางพลันรู้สึกอุ่นซ่าน ความรู้สึกแปลกประหลาดพลันเข้าแทรกซึม

และม่านนีก็ได้เห็น

ใบหน้าคมคายของบุรุษหน้าตายนามว่าเฟยหมิง

นางเห็นใบหน้าของเขาในระยะที่ใกล้กันมาก

ลมหายใจกรุ่นร้อนเป่ารดใบหน้านวลเนียนชั่วอึดใจตามด้วยดวงตาเรียวคมกำลังทอประกายดุดันเข้ามาใกล้

และแนบชิดเข้ามา

ชิดจนขนตาของนางชนกับขนตาของเขา

ปลายจมูกก็เช่นเดียวกัน

ปลายจมูกของนางกำลังชนกับใบหน้าของเขาและปลายจมูกของเขาก็กำลังชนอยู่กับพวงแก้มของนาง

ความนุ่มนิ่มแปลกใหม่

ความรู้สึกอุ่นชื้นที่ริมฝีปากนั่นอีก

ริมฝีปากของเขากับริมฝีปากของนาง

อะไรกัน!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel