40 บางอย่างเปลี่ยนไป..แต่ไม่กล้าบอก
แฟนหนุ่มของพุดพิชชาไปทำงานได้ 2 วันแล้ว เขาโทรศัพท์มาหาเธอวันละหลายๆ รอบ เพื่อบอกว่าเขาคิดถึงเธอมากแค่ไหน พุดพิชชาเองก็คิดถึงชายหนุ่มไม่น้อยไปกว่าเขา แต่ก่อนจะมีรัญภาคย์มาทานอาหารเช้าด้วยและรับเธอออกไปทำงานพร้อมกันทุกๆ วันจนเธอมองว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่พอถึงวันที่เขาไม่อยู่ เธอก็รู้สึกได้ทันที่ว่า เธอนั้นรักเขามากแค่ไหน การได้ใช้ชีวิตร่วมกันมันทำให้ทุกวันดูมีคุณค่า แม้ว่ารัญภาคย์จะไม่ได้ได้มาค้างกับเธอที่บ้านนี้เลยนอกจากคืนวันวาเลนไทน์เธอก็ไม่ได้รู้สึกเหงาหรือโดดเดียวเลยสักนิด เพราะรู้ดีกว่าเขากลับไปนอนที่บ้านและอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะได้เจอกันอีกในตอนเช้า
พุดพิชชารู้สึกเหมือนตัวเองไม่ค่อยมีแรงตื่นคงเพราะเมื่อคืนหญิงสาวนอนไม่ค่อยหลับ หลังจากที่เฟสไทม์คุยกับรัญภาคย์เสร็จแล้วเธอก็ทำน้ำสลัดต่อจนเกือบถึงตี 2 ช่วงนี้เธอรู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างเหนื่อยง่ายกว่าแต่ก่อนคงเพราะนอนดึกติดๆ กันมาหลายคืนแล้ว
กาแฟดำรสชาติที่เคยชอบเธอก็ไม่อยากจะดื่มเลยสักนิด หญิงสาวชงมาวางไว้ที่เดิมจนไม่เหลือความร้อนเลยสักนิด พุดพิชชาคิดว่าอาการทั้งหมดเพราะไม่มีรัญภาคย์มาดื่มด้วยเหมือนทุกๆ วัน พุดพิชชาไม่ได้ทำอาหารเช้าหญิงสาวแวะร้านสะดวกซื้อที่อยู่ก่อนถึงร้านชาเพื่อหาอะไรรองท้อง
“น้องพุดหน้าซีดๆ นะคะเป็นอะไรหรือเปล่า” เบญจวรรณมาถึงร้านช้ากว่าพุดพิชชาเล็กน้อย ตอนนี้หญิงสาวเจ้าของร้านกำลังนำน้ำสลัดที่เธอทำเมื่อคืนใส่ตู้เย็น
“เปล่าค่ะ พุดคงนอนดึกไปหน่อย”
“พี่ว่าไม่หน่อยนะคะ นั่งพักก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวพี่จัดการเอง แล้วนี่ทานอะไรมาหรือยังคะ” เธอเห็นถุงจากร้านสะดวกซื้อที่วางอยู่ก็เลยถามอออกไปเพราะปกติแล้วพุดพิชชาที่เธอรู้จักจะไม่ซื้ออาหารสำเร็จรูปมาทาน
“ยังเลยค่ะ พุดแวะซื้อข้าวหมูทอดมาทานค่ะ พี่เบญทานด้วยกันไหมคะ”
“ตามสบายเลยค่ะ พี่ทานมาแล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นพุดขอทานข้าวก่อนนะคะ เดี๋ยวจะช่วยพี่เบญทำแซนวิชค่ะ” หญิงสาวแกะข้าวกล่อง เพียงได้กลิ่นของข้าวหมูทอดพุดพิชชาก็ต้องรีบผลักออกไปให้ห่าง เธอรู้สึกผะอืดผะอมและอยากจะอาเจียน หญิงสาวรีบหยิบถุงพลาสติกขึ้นมาโก่งคออาเจียนแล้วรีบเดินหลบไปหลังร้าน
เบญจวรรณรีบละมือออกจากการทำแซนวิชและเดินตามพุดพิชชาเข้าไปหลังร้าน เธอใช้มือลูบหลังหญิงสาวอย่างช้าๆ พอเห็นว่าเธอหยุดอาเจียนก็รีบส่งแก้วน้ำให้ทันที
“เป็นยังไงบ้างคะ ไปหาหมอดีไหม หน้าซีดกว่าเมื่อกี้อีกนะคะ”
“ไม่เป็นไรค่ะ พุดคงนอนดึกและทานอาหารไม่ตรงเวลาค่ะ” ช่วงนี้รัญภาคย์ไม่อยู่เธอเลยไม่ค่อยได้ทานอาหารเพราะรู้สึกว่าการนั่งทานคนเดียวนั้นไม่มีความอร่อยเลยสักนิด
“ถ้าอย่างนั้นพี่ว่ากลับไปนอนพักเถอะค่ะ ขับรถไหวไหมคะ”
“ไหวค่ะ พุดขอโทษด้วยนะคะ ว่าจะมาช่วยพี่เบญสักหน่อย กลายเป็นว่ามาเป็นภาระซะได้”
“อย่าพูดอย่างนั้นเลยค่ะ ถ้าถึงบ้านแล้วก็รีบนอนพักนะคะ ถ้าไม่ไหวก็โทรบอกพี่ได้ตลอดเวลา”
“ขอบคุณค่ะพี่เบญ พุดไปก่อนะคะ”
พุดพิชชาเดินออกมาจากร้านชาแล้วรีบขับรถกลับบ้าน ระหว่างนั้นก็โทรศัพท์ไปสั่งงานบางอย่างที่ร้าน Healthy bar หญิงสาวยังคงเวียนศีรษะอยู่บ้างแต่ก็พอทน เธอเลยแวะที่ตลาดเพราะจะซื้อเนื้อสัตว์และผักสดไปทำอาหาร พอได้ของที่ต้องการจนครบและกำลังจะกลับก็เดินผ่านร้านมะม่วงน้ำปลาหวาน พุดพิชชารีบตรงเข้าไปซื้อทันที
“คุณชอบแบบไหนคะ มีแบบเปรี้ยวกับแบบมัน ชิมก่อนก็ได้นะคะ” แม่ค้าวัยประมาณ 40 ปี ยื่นจานพลาสติกให้หญิงสาวได้ชิมก่อนตัดสินใจซื้อ
“ขอเป็นมะม่วงเปรี้ยวกับน้ำปลาหวาน 2 ชุดค่ะ”
พอขึ้นมานั่งบนรถเธอก็หยิบมะม่วงขึ้นมากัดแล้วก็รู้สึกพอใจอย่างมาก เพราะอาการเวียนศีรษะเมื่อครู่นั้นหายไปแล้ว กว่าจะขับรถถึงบ้านมะม่วงชุดแรกก็หมดไปแล้ว หญิงสาวทานแต่มะม่วงอย่างเดียวโดยที่นำปลาหวานยังไม่พร่องไปเลยสักนิด
พุดพิชชากลับมานอนได้ไม่นานก็รู้สึกหิวเพราะตั้งแต่เช้าเธอทานไปแค่มะม่วงอย่างเดียว หญิงสาวเลือกทำเมนูง่ายๆ อย่างข้าวผัดไข่เพราะไม่อยากเสียเวลา เพียงแค่เธอใส่กระเทียมลงไปเจียวในน้ำมัน เธอก็ต้องโก่งคออาเจียนอีกรอบ พุดพิชชาปิดเตา หญิงสาวเปิดตู้เย็นเพื่อจะหาน้ำมาดื่มแล้วเธอก็หยิบถุงมะม่วงติดมืออกมาด้วย
มะม่วงหมดถุงไปแล้วเธอรู้สึกดีขึ้น แต่นั้นก็ยังไม่ทำให้เธอคลายหิว พุดพิชชาเขาไปในห้องครัวอีกครั้ง เธอเลือกทำยำวุ้นเส้นแทนข้าวผัดไข่เพราะรู้สึกว่าอยากทานอะไรที่เปรี้ยวๆ มากกว่า
เธอกำลังจะนอนพักอีกครั้งก็ได้รับโทรศัพท์จากเบญจวรรณที่โทร. มาถามเธอถึงอาการที่เป็นเมื่อเช้า แล้วคำพูดของเบญจวรรณทำให้พุดพิชชานั่งทบทวนอะไรบางอย่างคนเดียวเงียบๆ
‘แต่ก่อนพี่ก็เคยเป็นแบบน้องพุดนะคะ พอไปหาหมอถึงได้รู้ว่าตัวเองท้อง’ คำพูดนี้สะกิดใจหญิงสาวเป็นอย่างมาก เธอเองก็ทำแต่งานจนลืมนึกถึงอะไรบางอย่าง หญิงสาวหยิบปฏิทินตั้งโต๊ะขึ้นมาดู พุดพิชชาหายใจไม่ทั่วท้อง เธอพยายามหาวงกลมสีแดงในปฏิทิน ทั้งเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์แต่ก็หาไม่เจอ เธอหยิบปฏิทินของปีที่แล้วซึ่งเก็บไว้ในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งขึ้นมาดูอีกครั้ง วงกลมสีแดงวงไว้ที่วันที่ 14 ธันวาคม ถ้านับถึงตอนนี้เธอก็ไม่มีรอบเดือนมาแล้วเกือบจะ 3 เดือน
หญิงสาวไม่รู้ว่าชีวิตต่อจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อ เพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่าเธอจะท้อง เธอเองก็ไม่ได้คิดป้องกันเลยสักนิด แล้วถ้าเธอท้องขึ้นมาจริงๆ ในวันแต่งงานเธอก็คงจะท้องโตขึ้นอีกมาก
พุดพิชชาอยากบอกกับรัญภาคย์แต่ก็กลัวว่าเขาจะไม่เห็นด้วยเพราะเมื่อครั้งที่คุยกันเรื่องนี้เขาเป็นคนบอกเองว่าไม่อยากให้ท้องก่อนแต่งเพราะกลัวคนอื่นจะว่าเธอเอาได้ แต่เธอไม่ได้คิดเช่นนั้นเลยสักนิด พุดพิชชาไม่สนใจว่าใครจะว่าอะไรเธอเลย เธอดีใจที่จะมีลูกกับเขา ลูกกับคนที่เธอรักมากที่สุด เธอจะบอกกับรัญภาคย์เมื่อเขากลับมาในอีก 4 วันข้างหน้า
หญิงสาวรีบขับรถไปที่ร้านยาแล้วเลือกซื้อที่แท่งทดสอบการตั้งครรภ์มา 3 ยี่ห้อเพื่อผลที่แน่นอน เธออยากให้มั่นใจก่อนที่จะบอกข่าวดีให้เขาทราบ
ขีดสีแดง 2 ขีดปรากฏบนแท่งทดสอบการตั้งครรภ์ทั้ง 3 แท่ง เธอยิ้มทั้งน้ำตา ไม่เคยมีเรื่องยินดีแบบนี้มาก่อน เธอแทบจะอดใจไม่ไหวที่จะโทรศัพท์ไปบอกข่าวดีกับรัญภาคย์ แต่ก็ต้องพยายามอดทนไว้เพราะเธออยากเห็นสีหน้าของเขาและเรื่องนี้มันก็สำคัญมากเกินกว่าจะบอกเขาทางโทรศัพท์
“พี่คงต้องอยู่ต่ออีกหลายวันหน่อยนะพุด พอดีได้ลูกค้าที่จะขอเช่าอุปกรณ์เพิ่มอีกหลายคนเลย พุดจะตามพี่มาไหม เพราะคุณษาก็จะตามมาเหมือนกัน” เขาหมายถึงวริษาผู้ช่วยของเขา
“ถ้าคุณษาไปแล้วพุดก็คงไม่ต้องไปแล้วล่ะคะ พุดอยู่ช่วยดูงานทางนี้ดีกว่า เพราะคุณษาคงจะช่วยพี่รัญได้ดีกว่าพุด” ทั้งๆ ที่คิดถึงเขามากแต่เธอไม่อยากไปหาเขาเพราะเธออ่านหนังสือแล้วเข้าใจว่าในระยะ 3 เดือนแรกให้ระมัดระวังเรื่องการแท้งให้มากที่สุด การเดินทางไกลหรือนั่งรถนานๆ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของการแท้งบุตร
“แต่พี่ก็อยากให้พุดมาด้วยนี่ครับ ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจเยอะเหมือนกัน เผื่อพุดอยากมาเที่ยวด้วย” เขายังพยายามให้เธอไปหาเขา
“เอาไว้คราวหน้าดีไหมคะ เพราะพุดว่าเราคงได้ไปที่นั่นอีกหลายครั้งแน่ๆ ครั้งนี้ให้พี่ทำงานให้เต็มที่ก่อนดีไหมคะ” หญิงสาวพยายามบ่ายเบี่ยง
“ก็จริงนะครับ เราคงต้องมาที่นี่อีกหลายครั้ง พุดสัญญาแล้วนะครับว่าครั้งหน้าพุดจะมากับพี่ด้วย”
“ค่ะ”
พุดพิชชาเริ่มแพ้ท้องหนักขึ้นในตอนเช้า เธอตัดสินใจที่จะไปหาหมอหลังจากที่ก่อนหน้านี้คิดว่าจะรอไปพร้อมกับรัญภาคย์ แต่เขาก็เลื่อนวันกลับทำให้เธอต้องรีบไปหาหมอคนเดียวก่อนเพราะถ้าขืนเธอยังแพ้ทองและทานอะไรไม่ได้อย่างนี้เธอก็กลัวว่าลูกของเธอจะไม่ได้รับสารอาหารไปด้วย
หญิงสาวเลือกมาที่คลินิกเล็กๆ ที่คนไม่เยอะเพราะไม่อยากรอนาน พอเข้าไปถึงพนักงานหน้าห้องตรวจก็ให้เธอกรอกข้อมูลส่วนตัวก่อนเข้าพบหมอ เธอแจ้งอาการทั้งหมดแล้วหมอก็ให้หญิงสาวตรวจปัสสาวะอีกครั้งเพื่อนำผลมาบันทึกลงในประวัติผู้ป่วย ผลการตรวจก็ไม่ผิดไปจากที่เธอตรวจมาแล้ว หมอจ่ายยาแก้อาเจียนและยาบำรุงครรภ์รวมทั้งให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองและเด็กในท้อง รวมถึงการสังเกตความผิดปกติต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างตั้งครรภ์ให้กับพุดพิชชาและก่อนกลับก็มอบสมุดบันทึกการตั้งครรภ์ให้กับเธอและกำชับว่าเธอต้องนำมาด้วยทุกครั้งที่มาพบหมอ