บท
ตั้งค่า

บทที่ 31 ข้อเสนอไม่คาดหมาย (1/2)

เสวี่ยหลินมองตารางเรียนเพื่อดูว่าอีกสามวันข้างหน้าที่เปิดภาคการศึกษาใหม่นั้น นางต้องเรียนวิชาใดบ้าง ปรากฏว่าวิชาก็ไม่ต่างจากสถานศึกษาพายัพ นั่นคือ วิชาปรุงโอสถ วิชาสมุนไพร วิชาทำครัว วิชาผักผลไม้ดอกไม้ วิชาค้นหาและขุดแร่ วิชาแร่ วิชาเวท และการต่อสู้ เพียงแต่เป็นระดับที่สูงกว่ามากแม้จะบอกว่าเป็นระดับต้นก็ตาม แต่เมื่อลองเปิดอ่านตำราทั้งหมดดูคร่าวๆ เสวี่ยหลินก็ต้องถอนหายใจ เพราะทั้งหมดที่ปรากฏ ความเชี่ยวชาญในแต่ละวิชาของนางก้าวล้ำนำหน้าไปไกลมากแล้ว หากจะด้อยสักหน่อยก็มีเพียงการต่อสู้เท่านั้น

คงต้องมุขเดิมอีกแล้ว นางคิดในใจอย่างเอือมๆ

มุขเดิมของเสวี่ยหลินคือลุยอ่านตำราทำความเข้าใจทั้งหมดในแต่ละวิชา และนางจะไปอ่านตำราในหออักษรนิรันดร์ด้วย เสร็จแล้วไปขอสอบทั้งทฤษฎีและปฏิบัติ เช่นนี้นอกจากนางจะสำเร็จระดับต้นได้อย่างง่ายดายแล้ว นางยังได้เพิ่มค่าสถานะคือ INT ให้สูงขึ้นอีกมาก

เสวี่ยหลินเริ่มต้นอ่านตำราสมุนไพรและผักผลไม้ดอกไม้ก่อนเป็นอันดับแรก ซึ่งก็เหมือนนางกำลังทบทวนความรู้ความเข้าใจของตนเอง เมื่อถึงเวลาที่เปิดภาคการศึกษาและนางต้องเข้าไปเรียน เสวี่ยหลินทดลองนั่งเรียนจนครบหนึ่งชั่วยามเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสิ่งใดผิดพลาด

“ท่านอาจารย์เจ้าคะ ศิษย์มีเรื่องอยากปรึกษาเจ้าค่ะ” เสวี่ยหลินมาพบอาจารย์ผู้สอนวิชาสมุนไพรและผักผลไม้ดอกไม้

“เจ้าคือ...”

“ศิษย์นามเสวี่ยหลินเจ้าค่ะ”

“เสวี่ยหลิน?” อาจารย์ผู้นั้นทำท่าทบทวนความจำอยู่ครู่หนึ่งจึงนึกออก

“เป็นเจ้านั่นเอง เจ้าของร้านชาจิ้งจอกน้อย องค์หญิงน้อยเสวี่ยหลินแห่งแดนพายัพ เจ้าจะปรึกษาเรื่องใด”

“ศิษย์จะขอศึกษาด้วยตนเอง หากมีสิ่งใดสงสัย ศิษย์จึงค่อยมาถามท่าน แล้วอีกหกเดือนข้างหน้าศิษย์จะมาขอสอบทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติเจ้าค่ะ”

อาจารย์ผู้นั้นทำหน้าแปลกใจ “เพราะเหตุใด”

“จากที่ศิษย์ศึกษามาคร่าวๆ ทั้งหมดในวิชาสมุนไพร พืชผักผลไม้ดอกไม้ ล้วนเป็นเรื่องที่ศิษย์มีความรู้ความเข้าใจดีอยู่แล้วเจ้าค่ะ ดังนั้น จึงต้องการศึกษาเองและมาสอบเท่านั้น”

อาจารย์ผู้นั้นมีสีหน้าเข้าใจ ก็แน่ล่ะ เสวี่ยหลินคือเจ้าของร้านชาจิ้งจอกน้อยอันเลื่องชื่อ สมุนไพรต่างๆ พืชผักผลไม้ดอกไม้ย่อมเป็นเรื่องที่นางใช้เป็นประจำแทบทุกวันมาแล้วถึง 8,000 ปีก่อนที่จะมาศึกษาที่บูรพานิรันดร์ และก็หมายความว่าวิชาปรุงโอสถและวิชาทำครัว นางต้องแตกฉานเป็นอย่างยิ่ง ทั้งอาจารย์ผู้นี้ก็เคยไปร้านชาจิ้งจอกน้อยมาหลายหน และก็ติดใจชาและของว่างของร้านชานั้นที่สุด ถวิลหาอยากจะลิ้มรสทุกวันเลยทีเดียว

แน่นอนว่าวิชาปรุงโอสถ วิชาสมุนไพร วิชาทำครัว วิชาผักผลไม้ดอกไม้ ต้องเป็นวิชาที่เสวี่ยหลินมีความสำเร็จในระดับสูงไปแล้วด้วยซ้ำ

“ได้ อีกหกเดือนข้างหน้าเจ้ามาสอบวิชาสมุนไพรและวิชาผักผลไม้ดอกไม้ได้เลย หากเจ้าสอบผ่าน ข้าจะเขียนจดหมายรับรองให้เจ้าไปศึกษาในระดับกลาง”

“ขอบคุณเจ้าค่ะ”

เสวี่ยหลินยังกระทำเช่นนี้ในวิชาปรุงโอสถและทำครัวโดยไม่สนใจสายตาและคำวิพากษ์วิจารณ์ของอาจารย์คนอื่นและเหล่าศิษย์หลายคนในบูรพานิรันดร์ นั่นเพราะนางถือว่านางทำได้ตามเกณฑ์ที่บูรพานิรันดร์กำหนดทุกอย่าง ประการสำคัญคือนางไม่ได้ทำผิดกฎระเบียบข้อใดของบูรพานิรันดร์แค่มันผิดธรรมเนียมปฏิบัติเท่านั้นคือ นางศึกษาเอง เมื่อมีข้อสงสัยจึงจะไปไต่ถาม หากอาจารย์สั่งงานให้นางทำ นางก็ทำมาส่งอย่างรวดเร็ว ผู้ใดจะทำหรือไม่ทำเช่นนางก็เรื่องของคนผู้นั้น ไยนางต้องใส่ใจด้วย

ผลการสอบในระดับต้นของเสวี่ยหลินออกมาดีเยี่ยมทั้งสี่วิชา ยามนี้นางกำลังศึกษาในระดับกลางของวิชาทั้งสี่ เสวี่ยหลินตั้งใจจะศึกษาจนวิชาสมุนไพร วิชาพืชผักผลไม้ดอกไม้ วิชาปรุงโอสถ และวิชาทำครัวจนจบระดับสูงของบูรพานิรันดร์ จากนั้นนางจึงค่อยมาศึกษาวิชาที่เหลือ

เสวี่ยซานที่ได้ยินอาจารย์และนักเรียนคนอื่นตำหนิติเตียนและวิพากษ์วิจารณ์ที่เสวี่ยหลินกระทำเหมือนข้ามหน้าข้ามตาผู้อื่นและไม่ให้เกียรติอาจารย์ เขาต้องเรียกน้องสาวมาพูดคุยที่เรือนกลางของหอพักศิษย์บุรุษ แน่นอนว่าอาจารย์ที่ดูแลหอพักศิษย์บุรุษที่เสวี่ยซานพักอยู่ต้องมานั่งเป็นพยานในการพบปะพูดคุยกันระหว่างพวกเขา

“น้องเล็ก เจ้ารู้หรือไม่ว่ามีคนตำหนิและวิจารณ์เจ้าในทางเสียๆ หายๆ” เสวี่ยซานเริ่มต้นด้วยน้ำเสียงเข้มงวด

“รู้เจ้าค่ะ แต่น้องไม่สนใจ”

“น้องเล็ก เจ้าไม่สนใจไม่ได้ หากมีคนว่ากล่าวถึงเจ้าเช่นนี้เรื่อยๆ ย่อมพลอยทำให้อาจารย์ท่านอื่นไม่พอใจเจ้า”

“ทำไมต้องไม่พอใจข้า ข้าศึกษาหาความรู้ด้วยวิธีของข้าเอง ข้าก็ได้ความรู้เช่นกัน ผู้อื่นศึกษาในวิธีปกติก็ได้ความรู้ แล้วมันต่างกันที่ใดเจ้าคะ”

“มันไม่ต่าง แต่เจ้าควรเข้าห้องเรียนบ้าง”

“ข้าจะเข้าต่อเมื่อข้าสงสัยและต้องการถามอาจารย์ในข้อสงสัยนั้นเท่านั้นเจ้าค่ะ ถ้าข้าไม่สงสัยข้าจะเข้าไปเพื่ออะไร จะให้ข้าเข้าไปนั่งหลับ? และถ้าข้านั่งหลับจริง อาจารย์จะยอมรับได้หรือเจ้าคะ”

“น้องเล็ก !” เสวี่ยซานชักโมโห

“เมื่อเจ้าเข้าห้องเรียนก็ห้ามเจ้านั่งหลับ”

“ข้าทำไม่ได้เจ้าค่ะ ถ้าไม่มีสิ่งใดน่าสนใจ ข้าก็จะนั่งหลับ มีกฎข้อใดของบูรพานิรันดร์ห้ามนักเรียนนั่งหลับในห้องเรียนหรือเจ้าคะ”

“น้องเล็ก เจ้าไม่ฟังพี่เลย”

“ข้าจะพูดให้ชัดนะเจ้าคะ พี่ใหญ่ ข้ามีอิสระในการเรียน อยากเรียนคือเรียน ไม่อยากเรียนข้าก็จะไม่เรียน นี่ข้าตั้งใจเรียนตั้งใจศึกษา ทุ่มเทให้กับการเรียนมากมายขนาดนี้ ก็ยังมีคนปากยื่นปากยาวมาสอดเรื่องของข้าโดยที่ไม่ดูตนเองว่ากระทำได้ดีเช่นข้าหรือไม่ ข้าจึงไม่เห็นว่าข้าจะต้องใส่ใจคนปากสุนัขพวกนั้น” คำพูดของเสวี่ยหลินเผ็ดร้อนอย่างยิ่ง ทำให้เสวี่ยซานและอาจารย์ที่นั่งฟังอยู่ด้วยต้องสะดุ้งโหยง

“และข้าก็ไม่คิดจะเสียเวลาชีวิตไปนั่งทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง ไม่อยากเสียพื้นที่สมองของข้าไปขบคิดเรื่องไร้สาระ ดังนั้น หากข้าพิจารณาแล้วว่าสิ่งใดมีประโยชน์ต่อตัวข้าและไม่ผิดศีลธรรมอันดีงาม ข้าก็จะทำ พี่ใหญ่ช่วยเข้าใจน้องตามนี้นะเจ้าคะ น้องขอตัว” เสวี่ยหลินตัดบทและลุกขึ้นเดินจากไปทันที นางไม่อยากทะเลาะกับพี่ชาย

กรอบความคิดของเหล่าเทพเซียนยังเป็นไปในแบบเก่าอยู่มาก สิ่งที่นางทำมันสมัยใหม่เกินไป แต่ก็ช่วยไม่ได้ เรื่องการศึกษาหาความรู้จนเข้าใจกระจ่าง นางไม่เคยอ่อนข้อให้ผู้ใดทั้งสิ้น มิฉะนั้นนางคงไม่สามารถเป็นผู้เล่นในระดับ Top ของเกมบันทึกสวรรค์ได้ดอก

เสวี่ยซานได้แต่มองตามหลังน้องสาว เขาเข้าใจเสวี่ยหลินดี น้องสาวของเขาเป็นคนเก่ง มิฉะนั้น ไม่มีทางที่นางจะสร้างร้านชาจิ้งจอกน้อยจนมีชื่อเสียงและเป็นที่ยกย่องว่าเป็นอันดับหนึ่งในด้านชา ขนมหวาน และของว่าง ไม่อาจหาผู้ใดในสี่ทะเลแปดดินแดนมาทัดเทียมนางได้ ทั้งอาวุธและเกราะอ่อนที่นางสร้างให้เขาก็ล้วนดีเลิศ เหมาะกับตัวเขาอย่างที่สุด แต่อย่างไรคำพูดคนก็ร้ายนัก

“ท่านอาจารย์เจ้าคะ ศิษย์มีข้อสงสัยอยากเรียนถาม” เสวี่ยหลินยกมือขึ้นก่อนจะเอ่ยถามระหว่างที่นางเข้ามานั่งฟังการบรรยายในวิชาสมุนไพรระดับกลาง

“องค์หญิงน้อยศึกษาด้วยตนเองมิใช่รึ หากมีข้อสงสัยก็ควรไปศึกษาค้นคว้าเอง” อาจารย์ผู้นั้นตอบกลับมา เรียกเสียงหัวเราะจากนักเรียนคนอื่นได้ทั้งห้อง

“ท่านอาจารย์แน่ใจว่าจะตอบศิษย์เช่นนี้?” นางย้อนถามเสียงเรียบ ท่าทียืดตัวตรงอย่างสง่าดุจเทพเซียนอาวุโสปรากฏขึ้นทันที

“ใช่ ข้าตอบเจ้าเช่นนี้” อาจารย์ผู้นั้นกล่าวด้วยรอยยิ้มเยาะหยัน

เสวี่ยหลินไม่กล่าวอะไรทั้งสิ้น นางลุกขึ้นรวบตำราขึ้นมาถือไว้ก่อนจะเดินออกจากห้องไปทันที ไม่กระทั่งแสดงความเคารพอาจารย์ก่อนจากมาด้วยซ้ำ ในเมื่อทำตัวไม่น่าเคารพ แล้วไยนางต้องเคารพ และนางไม่ต้องการไปเสียเวลากับคนไร้สาระเช่นนี้

อาจารย์ผู้นั้นยิ้มไล่หลังนางพร้อมกับเสียงหัวเราะเยาะตามหลังของนักเรียนทั้งห้อง

ในวิชาพืชผักผลไม้ดอกไม้ระดับกลาง วิชาปรุงโอสถระดับกลาง และวิชาทำครัวระดับกลาง เสวี่ยหลินก็ต้องเจอการปฏิบัติเช่นนี้ราวกับอาจารย์เหล่านี้พร้อมใจกันต่อต้านวิธีการศึกษาเล่าเรียนของนาง

เสวี่ยซานได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นกับเสวี่ยหลิน เขาก็แจ้งความจำนงขอพบน้องสาวกับอาจารย์ที่ดูแลหอพักศิษย์สตรีทันที รั้งรอเพียงไม่กี่อึดใจ อาจารย์ผู้ดูแลก็อนุญาตก่อนจะให้สาวใช้นางหนึ่งไปตามเสวี่ยหลินมาพบ

“น้องเล็ก เจ้าเห็นแล้วหรือยังว่ามีแต่คนไม่พอใจเจ้า กระทั่งอาจารย์ที่สอนก็ยังปฏิเสธเจ้า เจ้าแน่ใจแล้วหรือว่าวิธีศึกษาของเจ้ามันดีแล้วจริงๆ”

“พี่ใหญ่ ท่านคงไม่ทราบ ยามข้าศึกษาอยู่ที่สถานศึกษาพายัพ ข้าก็ศึกษาเช่นนี้ และเพราะข้าศึกษาเช่นนี้ ข้าจึงเหลือเวลามาสร้างร้านชาจิ้งจอกน้อยได้ หากศึกษาตามวิถีทางเช่นที่พวกท่านศึกษา ร้านชาจิ้งจอกน้อยของข้าคงไม่ได้เกิด หรือหากว่าเกิด ข้าคงได้ทำมันตอนข้าแก่พอดี” นางตอบเสียงเรียบ

เสวี่ยซานต้องถอนหายใจออกมา ใช่ เพราะน้องสาวของเขากระทำเช่นนี้ นางจึงสามารถสร้างของวิเศษอันล้ำเลิศให้กับบิดามารดาและตัวเขา ทั้งยังสามารถเสาะหาจตุธาตุอัญมณีที่เหล่าเทพเซียนไม่สามารถหาได้มาให้กับทั้งบิดามารดาและตัวเขา และยามที่นางกระทำเรื่องเหล่านี้ นางอายุเพียงหมื่นกว่าปีเท่านั้น เขาในยามที่อายุเท่ากับนางยังไม่สามารถกระทำได้เช่นนาง

“แล้วเจ้าจะทำอย่างไรต่อไป พี่ว่าเจ้ากลับไปนั่งเรียนอีกสี่วิชาที่เหลือเถิด เมื่อครบหนึ่งหมื่นหนึ่งพันปีเจ้าจะสำเร็จในระดับต้นครบทั้งหมด”

“ไม่เจ้าค่ะ ข้าจะไม่กระทำเช่นนั้น ที่จริงข้าไปนั่งไล่อ่านตำราทั้งหมดมาคร่าวๆ แล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะต่างอะไรจากที่ข้าทราบมาก่อนหน้า ที่มาเรียนที่บูรพานิรันดร์ก็เพียงเพราะมาเรียนตามเทพเซียนคนอื่นที่ต้องมาเรียนกันเท่านั้น มิใช่ว่าข้าจะอยากมาเรียนเสียเมื่อไหร่”

“เช่นนั้น เจ้าจะทำอย่างไรต่อ” เสวี่ยซานงุนงงอย่างยิ่ง

“ข้าเพิ่งส่งข่าวผ่านหยกปราณสื่อสารถึงเสด็จพ่อเสด็จแม่ให้ท่านมารับข้ากลับเจ้าค่ะ ในเมื่อที่นี่ไม่ต้อนรับข้าและไม่มีสิ่งใดน่าสนใจให้ข้าต้องพยายาม ข้าก็ไม่คิดเรียนที่นี่อีกต่อไป”

“น้องเล็ก ! !” เสวี่ยซานอุทานเรียกออกมาอย่างตกตะลึง

“อย่าคิดให้ข้ากลับไปนั่งเรียน นั่นไม่ใช่วิธีที่ข้าชอบหรือได้ประโยชน์อะไรเพิ่มเติม หากข้าไปนั่งเรียนก็เหมือนกับบอกว่าวิธีที่ข้ากระทำและสิ่งต่างๆ ที่ข้าเคยกระทำมาเป็นสิ่งผิด เท่ากับข้าแพ้ ข้าไม่เคยยอมแพ้ในสิ่งที่ข้าเห็นว่าไม่ถูกต้อง”

“น้องเล็ก หากเจ้าออกจากบูรพานิรันดร์กลางคันจะสร้างความเสื่อมเสียแก่แดนพายัพและเผ่าจิ้งจอกเก้าหางได้นะ”

“ก็เสื่อมเสียไปสิเจ้าคะ ข้าไม่สนใจ เหล่าเทพเซียนทั้งหลายก็ไม่ได้มองเผ่าจิ้งจอกเก้าหางของพวกเราในทางที่ดีอยู่แล้ว พวกเขามองว่าพวกเราเจ้าเล่ห์ เก่งกาจในการล่อลวง ถ้าจะเพิ่มเรื่องของข้าอีกสักเรื่อง ข้าก็ไม่เห็นว่าจะแย่ไปกว่าเดิมสักเท่าใด ก็แค่ข้าลาออกกลางคันเพราะเรียนต่อไม่ไหวก็เท่านั้น” เสวี่ยหลินบอกกล่าวอย่างไม่ยี่หระ

“อีกประการก็คือ ข้าไม่สนใจคำคน ใครจะพูดอย่างไรก็พูดไป ก็ปากของพวกมัน ข้าจะไปห้ามอะไรได้ ข้าเพียงทราบว่าแท้จริงแล้วตัวข้าเป็นเช่นใดก็พอ”

“แล้วเจ้าไม่กลัวว่าจะไม่มีผู้ใดมาอุดหนุนร้านชาของเจ้าหรอกรึ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel