บท
ตั้งค่า

บทที่ 13 เร่งศึกษา (1/3)

กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ

อสูรสี่ตากรีดร้องเสียงดังยาวนานกว่าทุกครั้งก่อนจะล้มลง

เสียงไร้ที่มาดังขึ้นในใจของเสวี่ยหลินจนจำได้แล้วว่าเสียงนี้จะกล่าวสิ่งใด

ปราณเซียนจิ้งจอกเพิ่มขึ้น 5%

แต้มสกิลจำนวน 5 แต้ม

จตุธาตุอัญมณี

คำ ‘จตุธาตุอัญมณี’ ฉุดให้เสวี่ยหลินที่กำลังเบื่อหน่ายสุดขีดเบิ่งตากลมกว้าง จ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความตื่นตะลึง

ที่ลอยอยู่ตรงหน้านางคือ อัญมณีทรงกลมสี่เม็ด แต่ละเม็ดมีขนาดราว 1 ชุ่น เม็ดหนึ่งสีน้ำเงินงดงามราวกับมีน้ำทะเลอยู่ภายใน เม็ดหนึ่งสีแดงฉานราวกับมีเปลวไฟลุกโหม เม็ดหนึ่งสีขาวพยับหมอกเหมือนมองเห็นพายุโหมกระหน่ำ และเม็ดสุดท้ายเป็นสีม่วงเข้มที่มีประกายสายฟ้า อัญมณีทั้งสี่เม็ดเปล่งประกายเรืองรองทอแสงสว่างโชติช่วง

เบื้องหน้าของนางยามนี้มีหน้าจอแสดงอยู่

ต้องการหลอมรวมเพื่อเป็นเจ้าแห่งธาตุทั้งสี่หรือไม่”

พร้อมกับคำสั่งให้นางเลือกว่า ‘หลอมรวม’ และ ‘ไม่หลอมรวม’

ฝ่ามือเล็กๆ ทาบลงไปบนคำว่า ‘หลอมรวม’ ทันที

พริบตาอัญมณีทั้งสี่เม็ดก็พุ่งเข้าสู่ร่างของนาง เสวี่ยหลินรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าอัญมณีทั้งสี่วิ่งขึ้นไปที่ศีรษะก่อนจะแปรสภาพเป็นสายน้ำหนึ่งสาย เปลวไฟลุกโชน พายุลูกใหญ่ และสายฟ้าแล่นไปมา ทั้งสี่อย่างวิ่งเข้าหากันที่กลางศีรษะของนาง ทำให้ปวดศีรษะจนต้องนั่งลง ร่างกายของนางบอกว่าให้นางโคจรปราณจิ้งจอกชักนำให้พลังจากจตุธาตุอัญมณีมารวมกัน

เสวี่ยหลินโคจรปราณจิ้งจอกตามที่นางสัมผัสได้ ไม่นานกระแสพลังสี่สายนั้นค่อยรวมกันก่อนจะกลายเป็นปราณธาตุสีน้ำเงิน สีแดง สีขาวหม่น และสีม่วง อันเป็นสีประจำธาตุ ปราณธาตุสี่สายนั้นกระจายทั่วร่างของนาง ไหลผ่านทุกอวัยวะ ทุกเส้นชีพจร และทุกจุดชีพจร โลกหล้าภายในร่างและดวงจิตของนางเต็มไปด้วยแสงปราณทั้งสี่ที่ผสมกลมกลืนกันอย่างงดงาม

ผ่านไปราวหนึ่งเค่อปราณธาตุทั้งหมดจึงไปรวมตัวสงบนิ่งอยู่ภายในแก่นเซียนจิ้งจอกของนางที่อยู่บริเวณท้องน้อย เสวี่ยหลินจึงค่อยลืมตาขึ้น ริมฝีปากจิ้มลิ้มน่ารักผุดรอยยิ้มกว้างอย่างดีใจ

“ในที่สุดก็สำเร็จ” นางตะโกนออกมาด้วยความดีใจ

ยามนี้นางรู้สึกว่าคุ้มค่าอย่างยิ่งที่มาล่าอสูรสี่ตาตัวนี้ หลังจากล่าบอสตัวนี้มาถึงสิบวัน เมื่อล่วงเข้าวันที่สิบเอ็ด มันจึงยอมดรอปจตุธาตุอัญมณีมาให้เสียที

“ได้กลับเสียที” เสวี่ยหลินกล่าวออกมาอย่างโล่งใจ

“แต่...ไม่สิ ยังไม่ควรกลับ เราควรล่าอสูรสี่ตาต่อ หาจตุธาตุอัญมณีให้ได้อีกสิบสองเม็ด จะได้ให้เสด็จพ่อ เสด็จแม่ และพี่ใหญ่ด้วย” นางพลันนึกขึ้นได้กะทันหัน

“ส่วนท่านน้าเสวี่ยปิง ไว้เจอของอื่นที่เหมาะกับท่านน้าแล้วค่อยเอาไปฝากดีกว่า”

เสวี่ยหลินต้องใช้เวลาอีกสองเดือนจึงจะได้จตุธาตุอัญมณีครบตามต้องการ และผลพลอยได้จากการล่าสัตว์อสูรคือลมปราณของนางที่เพิ่มขึ้นจากการสังหารสัตว์อสูร ยามนี้ลมปราณของนางอยู่ที่แปลงเซียนขั้นสองแล้ว เทียบเป็นเลเวลที่ 92

ก่อนจะออกจากเทือกเขาครองพายัพ นางจึงไปไล่เก็บสมุนไพรวิเศษที่นางพบเจอ ผัก ผลไม้ และดอกไม้ต่างๆ มาจนเต็มไปหมด เรียกได้ว่ามิติส่วนตัวของนางยามนี้ อัดแน่นจนไม่มีที่ว่าง

ยามนี้เสวี่ยหลินมาถึงวังพายัพแล้วและยังมาถึงต้นยามอิ๋น (03.00 น.) นางไม่สนว่าเวลามันดึกมากและบิดามารดาเข้านอนไปนานแล้ว เพราะของที่นางนำมาให้พวกท่านล้ำค่าเกินไป นางไม่ต้องการให้มีความเสี่ยงใดๆ ว่าจะมีผู้อื่นล่วงรู้และแย่งชิงไป ดังนั้น หนทางที่ปลอดภัยที่สุดคือ ให้พวกท่านหลอมรวมกับพวกมันเสียก่อน

“เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ตื่นบรรทมก่อนเพคะ ลูกมีเรื่องอยากเข้าเฝ้า” นางร้องบอกออกไปก่อนจะเคาะประตูอย่างเร่งรีบ

ไม่นานนักประตูห้องบรรทมก็เปิดออก มองเห็นท่านแม่เหม่ยเมิ่งของนาง ผมเผ้ายุ่งเล็กน้อย ไม่รอให้มารดาออกปาก นางก็รีบบอกกล่าวทันที

“เสด็จแม่ ปลุกเสด็จพ่อด่วนเลยเพคะ ลูกจะรออยู่ที่นี่”

เหม่ยเมิ่งต้องประหลาดใจหากก็ไม่กล่าวสิ่งใด คาดเดาได้ทันทีว่าบุตรสาวต้องมีเรื่องด่วน นางเดินกลับเข้าไปปลุกราชาเสวี่ยหมิง ครู่หนึ่งประตูห้องจึงเปิดออกอีกครั้ง

“หลินเอ๋อร์ เจ้ามีเรื่องด่วนอะไร จึงมาปลุกพ่อกับแม่กลางดึก แล้วนี่เจ้าแอบหนีออกมารึ?” ราชาเสวี่ยหมิงถามขึ้นทันทีที่พบหน้าบุตรสาว

“เรื่องอื่นเดี๋ยวลูกเล่าให้ฟังเพคะ แต่ยามนี้เสด็จพ่อช่วยเปิดคลังสมบัติให้ลูกด้วย พวกเราทั้งหมดจะเข้าไปในนั้นกันเพคะ”

ราชาเสวี่ยหมิงและราชินีเหม่ยเมิ่งประหลาดใจกับคำขอของบุตรสาว หากก็ยอมกระทำตามที่นางบอก

“เสด็จพ่อ ท่านปิดประตูคลังให้แน่นหนาก่อนเพคะ”

เมื่อเห็นบิดาปิดประตูเรียบร้อย นางก็แผ่ปราณจิ้งจอกคลุมทั้งคลังสมบัติทันทีเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีผู้ใดแอบซ่อนอยู่ เมื่อแน่ใจแล้วจึงค่อยหยิบของออกมา

ราชาเสวี่ยหมิงและราชินีเหม่ยเมิ่งตกตะลึงตาค้างทันทีเมื่อได้เห็นของที่บุตรสาวนำออกมา ครู่หนึ่งจึงตั้งสติได้

“หลินเอ๋อร์ ลูกไปเอามาจากไหน ของสิ่งนี้หายากยิ่งนัก แต่นี่เจ้ามีถึงสอง” เหม่ยเมิ่งถามอย่างไม่หายตื่นตะลึง เข้าใจได้ทันทีว่าเพราะเหตุใดบุตรสาวตัวน้อยจึงต้องมาปลุกกลางดึกและเร่งรัดให้มายังที่นี้

“เดี๋ยวลูกเล่าให้ฟังเพคะ รับรองได้ว่าลูกไม่ได้ไปขโมยใครเขามา แต่ตอนนี้ เสด็จพ่อกับเสด็จแม่หลอมรวมกับจตุธาตุอัญมณีให้เสร็จสิ้นก่อนเพคะ”

เสวี่ยหมิงและเหม่ยเมิ่งใช้เวลาราวสองเค่อจึงหลอมรวมกับจตุธาตุอัญมณีเสร็จสิ้น

“เอาล่ะ ทีนี้เจ้าบอกมา เจ้าไปได้จตุธาตุอัญมณีมาได้อย่างไร” เสวี่ยหมิงหันมาถามเจ้าตัวดีที่นั่งดูบิดามารดาด้วยความปลาบปลื้มดีใจ

เรื่องราวทั้งหมดถูกเล่าให้ฟังอย่างละเอียด สิ่งที่เสวี่ยหลินไม่เล่าคือระบบเกมที่นางมี นางบอกเล่าว่าจากการศึกษาค้นคว้าของนาง พอคาดเดาได้ว่าเทือกเขาครองพายัพเป็นเทือกเขาที่น่าจะมีจตุธาตุอัญมณี เพราะเทือกเขาแห่งนี้มีสมุนไพรวิเศษเป็นจำนวนมากที่เติบโตด้วยธาตุที่แตกต่างกัน ก็เป็นไปได้ว่าจตุธาตุอัญมณีสมควรมีโอกาสเกิดขึ้นที่นี่ และเผอิญนางโชคดีที่พบสัตว์อสูรที่ภายในร่างของมันก่อเกิดจตุธาตุอัญมณี นางจึงล่าสัตว์อสูรเหล่านั้นเพื่อหามัน

“จตุธาตุอัญมณีนี้ ลูกตั้งใจจะให้พี่ใหญ่ แต่ยามนี้พี่ใหญ่อยู่ไกลอย่างยิ่ง ลูกจึงอยากฝากมันไว้ในคลังนี้ก่อน เมื่อใดที่ลูกไปศึกษาที่บูรพานิรันดร์ ลูกค่อยเอาไปให้พี่ใหญ่เพคะ” นางยื่นจตุธาตุอัญมณีอีกชุดหนึ่งให้บิดาของนาง

เขาหยิบอัญมณีทั้งสี่เม็ดใส่ไว้ในกล่องหยกใบหนึ่งก่อนจะร่ายเวทเพื่อผนึกมันไว้ และนำไปวางไว้ยังที่ที่เคยเก็บรักษาคทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอก

“พ่อเก็บไว้ที่นี่ รับรองมันจะไม่หายไปไหน และเมื่อถึงเวลานั้นพ่อจะไปส่งเจ้าที่บูรพานิรันดร์ด้วย ของสิ่งนี้มีค่ามากเกินไป ให้เจ้าเอาไปเอง ย่อมไม่ปลอดภัยกับตัวเจ้า”

“เพคะ”

ร่างเล็กบอบบางถูกเหม่ยเมิ่งดึงเข้าไปกอดไว้ “ขอบใจนะลูกแม่ เจ้าทำอะไรก็นึกถึงพ่อกับแม่เสมอ”

เสวี่ยหมิงเข้ามาโอบกอดพวกนางสองแม่ลูกไว้ “ขอบใจนะหลินเอ๋อร์ที่ทำเพื่อพ่อกับแม่ถึงเพียงนี้ แต่ต่อไปอย่าเสี่ยงอันตรายเช่นนี้อีกนะลูก หากครั้งนี้เจ้าพลาดพลั้งเป็นอะไรไป พ่อกับแม่คงไม่รู้จะทำอย่างไร”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel