บทที่ 2 ตามหาเมีย (2)
ธเนศกัดกรามกร้วม “แล้วคุณจะเสียใจที่ทำกับผมอย่างนี้”
“คงไม่มีวันนั้นหรอกค่ะ” สารินพูดอย่างใจเย็น ในขณะที่ชายวัยกลางคนหัวร้อนจนทนอยู่ต่อไปไม่ได้ ฮึดฮัดออกจากบ้านไปทันที
หลังจากพ้นร่างธเนศแล้ว สารินก็โทรไปหาลูกชายทันที
/ฮัลโหล/
“เมื่อกี้คุณธเนศมาหาแม่ที่บ้าน” เธอเล่าให้อาแจ็กซ์ฟังอย่างคร่าวๆ ซึ่งปลายสายก็รับฟังเงียบๆ จากนั้นก็ออกความเห็น
/ผมไม่ค่อยชอบบ้านนั้นมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว/
“แม่เห็นเขาสกุลดี แล้วอัญก็รู้จักเข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ อาแจ็กซ์เองก็โตพอจะมีครอบครัวแล้วถึงอยากให้แต่งงานกันนะ บอกตามตรงว่าแม่อยากอุ้มหลานเต็มที ความสุขของคนแก่ก็มีอยู่แค่นี้แหละ อยากเลี้ยงหลาน”
“ผมเข้าใจคุณแม่ครับ แต่ถ้าคนสองคนเคมีไม่ตรงกันก็อยู่ด้วยกันยากครับ ขอบคุณคุณแม่มากที่ช่วยผมพูดกับคุณธเนศให้”
“ทำไงได้ล่ะ เขาเล่นบุกมาเคลียร์กับแม่ถึงที่บ้านนี่”
อาแจ็กซ์หัวเราะในลำคอ ดวงตาสีน้ำเงินเข้มล้ำลึกไม่มีร่องรอยว่าจะขบขันเหมือนอาการที่แสดงออกไปเลยแม้แต่น้อย
“จริงสิ คุณแม่รู้จักคนสกุลใจภักดีหรือเปล่าครับ”
“เอ...ไม่รู้จักนะ”
“คุณธเนศนามสกุลอะไรนะครับ”
“พืชอุดมจ้ะ มีอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มีอะไรมากหรอกครับ ผมแค่กำลังตามหาคนคนหนึ่งอยู่”
“ผู้หญิงใช่ไหม”
“คุณแม่เดาถูก”
สารินถอนหายใจยาวหลายครั้งติดต่อกัน “เอาเถอะ จะทำอะไรก็ทำไป อย่าให้เดือดร้อนทีหลังก็แล้วกัน”
“ครับคุณแม่” เขาวางสายจากผู้เป็นแม่แล้วก็เอนหลังพิงพนักเบาะ
บิดาของเขาชื่อฮาเกน เป็นคนอังกฤษที่มาได้เมียเป็นคนไทย เลยปักหลักอยู่เมืองไทยแล้วทำธุรกิจขึ้น โชคดีที่เจริญรุ่งเรืองต่อยอดจนร่ำรวยเข้าขั้นมหาเศรษฐี
ตอนนี้พ่อเป็นประธานบริษัท ในขณะที่เขาเป็นรองประธานที่ต้องทำงานเพื่อเรียนรู้สั่งสมประสบการณ์ไปเรื่อยๆ และในอนาคต ในฐานะที่เป็นทายาทเพียงคนเดียวของฮาเกน เขาคือคนที่จะต้องเป็น CEO หลังจากพ่อเกษียณตัวเอง
เรื่องของสาวปริศนาเมื่อคืนนี้ยังตามรบกวนจิตใจจนเขาไม่มีสมาธิทำงาน ยังไงเขาก็มั่นใจว่าคนที่เขานอนด้วยเป็นคนละคนกับอัญชลี เพราะเขาไม่ได้โง่จนถึงขนาดจะแยกผู้หญิงสองคนไม่ออก ถึงแม้จะอยู่ในความมืดก็ตาม
อาแจ็กซ์ถอนหายใจอีกครั้งก่อนกดโทรหานักสืบที่เขาเคยใช้บริการมาหลายครั้ง และคราวนี้เป้าหมายของเขาคือผู้หญิงคนนั้น คนที่เขาไม่เคยเห็นหน้าแต่ได้พรหมจรรย์ของเธอมาแล้วเรียบร้อย !
เธอเป็นใคร และตอนนี้เธออยู่ที่ไหน มีเหตุจำเป็นอะไรให้ต้องทำอย่างนี้ ทุกคำถาม เขาจะต้องหาคำตอบให้ได้ !
1 เดือนผ่านไป
อาณาเขตเรือกสวนที่กว้างขวาง ไกลสุดสายตาคือทิวเขาที่เห็นเป็นเงาทะมึนสลับซับซ้อนอยู่ใต้หมู่มวลเมฆสีขาวที่ลอยละล่องอยู่บนเวหา
อรนิชาปลูกผักสวนผสม ประกอบด้วยคะน้า กวางตุ้ง ผักชี ผักบุ้ง แตงกวา พริก เห็ด และอีกหลายชนิดเพื่อส่งให้แม่ค้าที่ตลาดทุกเช้า
เมื่อสมัยที่พ่อยังรักแม่ พ่อขยันเปย์เงินหลักหมื่นหลักแสนให้ประจำ แม่เป็นผู้หญิงฉลาดที่ไม่เคยเอาเงินไปใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย แต่เก็บรวบรวมเงินได้ก้อนใหญ่โดยไม่ยอมควักแม้แต่สตางค์แดงเดียว แล้วซื้อที่ดินต่างจังหวัดไว้สิบไร่โดยที่สามีไม่รู้เรื่องนี้เลย
เธอคิดว่าตัวเองมีความสุขมากกว่าตอนที่อยู่บ้านหลังใหญ่ๆ ของพ่อซะอีก
เธอเอาเงินที่ตัวเองเก็บหอมรอมริบจากการทำงานมาตลอดหลายปีมาสร้างบ้านหลังเล็กๆ อยู่ ระหว่างรอช่างก่อสร้าง เธอก็เช่าห้องพักอยู่ชั่วคราว จนตอนนี้อะไรๆ ก็เริ่มจะลงตัวแล้ว เธอมีบ้านหลังน้อยอยู่อาศัยกับแม่ ทำการเกษตรหาเลี้ยงตัวเองและแม่ โดยได้จ้างเพื่อนบ้านซึ่งเป็นหญิงวัยสามสิบเศษสองคนมาช่วยปลูกผักเก็บผัก
ชีวิตเรียบง่ายแต่ก็สบายใจ
เธอเริ่มลืมเลือนว่าครั้งหนึ่งเคยเสียตัวให้ผู้ชายที่เธอรู้จักเพียงแค่ชื่อ วันเวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว การดำเนินชีวิตที่แทบไม่มีเวลาว่างหยุดพัก ทำให้คนที่ชื่ออาแจ็กซ์ ค่อยๆ เลือนหายไปจากความรู้สึกของเธอทีละน้อย
ความเสียใจที่เสียตัวให้เขาแทบจะไม่มีเหลืออีกต่อไป
จนกระทั่ง...เธอเริ่มไม่สบาย