6. ข้าคือผู้ที่ผิดต่อนาง
"ท่านหมอหลวง มี่เอ๋อร์ของข้าเป็นอย่างไรบ้าง" ฮูหยินเอกว่านลู่เหมยถามเสียงสั่น นัยน์ตาแดงก่ำหลังผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
หมอหลวงมองดูดรุณีน้อยที่นอนอยู่บนเตียง ใบหน้างดงามยามนี้ซีดขาวไร้สีเลือด เท่าที่จดจำได้ คุณหนูใหญ่เจียงลี่มี่เพิ่งพ้นวัยปักปิ่นมาได้ไม่นาน นางมีใบหน้างดงาม น่ารักน่าเอ็นดูมาแต่เยาว์
หมอหลวงนั่งลงข้างเตียง ยื่นมือตรวจชีพจร หากเพียงครู่ก็ส่ายหน้า อาการของนางหนักยิ่งนัก
"นางอ่อนแออย่างยิ่ง เกินความสามารถของข้าแล้ว"
ได้ยินเช่นนี้ ฮูหยินเอกว่านลู่เหมยก็น้ำตาไหลพราก บุตรสาวที่นางทะนุถนอม เหตุใดจึงจะด่วนจากไปเช่นนี้
ว่านลู่เหมยพลันคุกเข่าลงก่อนจะอ้อนวอน "ข้าทราบเจ้าค่ะ บุตรสาวข้าอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก ร่างกายผอมบาง ซูบซีด แม้ข้าจะหายามาบำรุง อาการของนางก็ไม่ดีขึ้น แต่ที่ผ่านมา ท่านช่วยรักษานางมาได้ตลอด ครั้งนี้ท่านช่วยนางอีกสักครั้งเถอะนะเจ้าคะ"
ความรู้สึกของมารดาที่กำลังจะสูญเสียบุตรสาวเพียงคนเดียวไป ทำให้นางยินยอมคุกเข่าอ้อนวอน แม้ความหวังจะมีเพียงเล็กน้อยแต่ขอแค่มีความหวัง นางก็พร้อมทุ่มเท
"ท่านอย่าทำให้ข้าลำบากใจเลย ท่านก็ทราบดีว่าอาการของบุตรสาวท่านหนักหนาเพียงใด ข้าพยายามรักษานางมาเนิ่นนาน แต่ก็ไม่อาจรักษานางให้หายได้ นางอยู่มาได้ถึงวันนี้ นับว่ามีวาสนามากแล้ว"
หมอหลวงก็หมดหนทางรักษา เขาจำได้ว่าเจียงลี่มี่ในยามที่เขาพบเห็นคราแรกนั้น น่ารักน่าเอ็นดูเพียงใด นางมีใบหน้ารูปไข่ นัยน์ตากลมโตสีดำสนิท ผิวขาวผุดผ่อง รูปร่างบอบบางน่าถนอม หากเติบโตขึ้นย่อมเป็นโฉมสะคราญนางหนึ่ง แต่ทุกสิ่งราวกับภาพฝัน เพียงไม่นานร่างกายนางก็อ่อนแอลง ผิวขาวยิ่งขาวซีด ใบหน้าซูบตอบ เปลี่ยนไปจนแทบไม่เหลือเค้าอันงดงาม
แม้เขาจะพยายามรักษาหากราวกับสาดน้ำลงในทะเลทราย ยาทุกขนานไร้ผล ของบำรุงที่ว่าดีเลิศกลับไม่สามารถช่วยอะไรได้
"ท่านหมอ ข้ามีบุตรสาวเพียงคนเดียว หากไม่มีนาง ข้าก็ไม่อยากมีชีวิตต่อไป" ว่านลู่เหมยกล่าวออกมา
ยามเห็นบุตรีอ่อนแอลง นางได้แต่โทษตนเอง หากตอนนั้นนางดูแลบำรุงครรภ์เป็นอย่างดี บุตรของนางก็จะเกิดมาแข็งแรง ป่านนี้บุตรสาวของนางคงกำลังนั่งดีดพิณ หรืออ่านตำรา มิใช่นอนหายใจรวยรินราวกับจะจากไปได้ตลอดเวลาเช่นนี้ นางช่างเป็นมารดาที่แย่นัก
"ฮูหยิน บุตรสาวท่านมีวาสนาเพียงเท่านี้ ท่านตัดใจเถิด" หมอหลวงกล่าวออกมา เขาทราบดีว่าไม่สามารถต่อชีวิตนางได้แล้ว
หากว่านลู่เหมยกลับโขกศีรษะให้หมอหลวงอย่างดื้อรั้น ยืนกรานให้เขาช่วยชีวิตบุตรสาวของนาง
"ฮูหยินอย่าทำเช่นนี้เลย หากมี่เอ๋อร์ทราบ นางจะยิ่งเสียใจที่ทำให้เจ้าโศกเศร้า หากจะผิด ข้าเองก็ผิดต่อเจ้าและนาง หากข้าดูแลพวกเจ้าสองคนแม่ลูกให้ดี มี่เอ๋อร์ย่อมไม่เป็นเช่นนี้" เสนาบดีฝ่ายซ้ายกล่าวอย่างเคร่งขรึม ทราบแล้วว่าบุตรสาวไม่อาจรอดชีวิต
“ท่านหมอ ได้โปรด ช่วยนางอีกสักครั้งเถิดเจ้าค่ะ ข้าขอร้อง” ว่านลู่เหมยเอ่ยออกมา นางยังคงโขกศีรษะให้หมอหลวงผู้นี้