5 วิเคราะห์
เป้าหมายอันดับหนึ่งที่อมิตาต้องทำให้สำเร็จนั่นก็คือขอหย่ากับธนัตที่เป็นสามีของเธอให้ได้ ถ้าดูจากท่าทางที่สุดแสนจะรังเกียจอมิตาด้วยแล้ว เจ้าของร่างนี้น่าจะยังไม่เคยมีอะไรกับเขาแน่ ๆ
อมิตาเริ่มวิเคราะห์บุคลิกของตัวละคร ‘อมิตา บรรพรุ่งเรือง’ แบบง่าย ๆ เธอไม่รู้ว่าโดยปกติลักษณะนิสัยของตัวละครนี้เป็นเช่นไร ตามแบบฉบับของนิยายโชโจทั้งหลายแหล่ จะมีการหลงรักตัวละครที่มีนิสัยเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ
อาทิ เช่น
จากที่เป็นนางร้ายก็กลายเป็นนางเอก
จากที่เคยอ่อนแอก็กลายเป็นโคตรเก่ง
จากที่ไม่ค่อยฉลาดก็กลายเป็นหญิงสตรอง แมรี่ซู
จากที่เคยใจยักษ์ในมารเอาแต่ใจ ก็กลายเป็นแสนดีอ่อนโยน
บลา ๆ ๆ อีกมากมาย
เธอจะต้องไม่เป็นแบบนั้น จะไม่ทำให้ผู้ชายคนนั้นหลงรักเธอโดยเด็ดขาด ถึงตอนนี้เธอจะต้องเลือกแล้วว่า ตัวละครอมิตาจะต้องกลายเป็นคนแบบไหน ถ้าเป็นคนแบบเดิม ธนัตก็จะไม่มีวันขอเธอหย่าใช่ไหม แล้วว่าแต่เจ้าของร่างเคยเป็นคนนิสัยแบบไหนกันนะ
เมื่อถึงช่วงเวลาที่ต้องเลือก เธอจะเลือกคารแรกเตอร์แบบไหนดี เจ้าของมือเล็ก ๆ กำลังก้มหน้าก้มตาเขียน บทวิเคราะห์ตัวละครเป็นข้อ ๆ เธอเขียนเอกลักษณ์บุคลิกลักษณะอย่างที่ควรจะเป็น
เธอจะพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ให้ธนัตที่เป็นสามีหลงรักเธอ ไม่แน่ว่าการที่เธอมีนิสัยเปลี่ยนแปลงปุบปับในช่วงเวลาไม่นาน เขาอาจจะหลงรักเธอขึ้นมาก็ได้ ถ้าเป็นแบบนั้น เธอก็จะหย่าไม่สำเร็จ แน่นอนเธอจะไม่เปลี่ยนไป จะยังเป็นอมิตาที่เขาเกลียดเหมือนเดิม
แล้ว.......อมิตา นิสัยเดิมเป็นยังไงเนี่ย...
โอ๊ยเครียด ย้อนแย้งชะมัดเลย...
เมื่อคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ธนัตก็รู้สึกว่าเธอเปลี่ยนไป ประกอบกับที่คุณสายหยุดเข้ามารายงานเรื่องราวที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับเธอ ยิ่งทำให้เขาไม่เข้าใจ สิ่งหนึ่งที่ทำให้เขาหงุดหงิด อมิตาเคยเรียกเขาว่าพี่ปลาย แต่เมื่อวานและวันนี้กลับใช้สรรพนามเรียกเขาว่าคุณ ท่าทางก็ดูห่างเหินไม่ได้เข้ามายั่วยวนออดอ้อนเขาเหมือนแต่ก่อน
เพราะคิดถึงการเปลี่ยนไปของภรรยาทำให้เขาไม่มีสมาธิอ่านหนังสือ ตั้งใจว่าวันหยุดนี้จะเคลียร์กองหนังสือทั้งหมดที่ตัวเองซื้อเอาไว้ แต่ยายนั่นทำให้เขาไม่มีสมาธิ
เมื่อวานเป็นวันครบรอบหนึ่งปีของการแต่งงานระหว่างเขากับเธอ ธนัตจึงยอมตามใจไม่พูดอะไรออกไปมากมาย แต่สุดท้ายเธอก็ทำทุกอย่างล่มไม่เป็นท่า อมิตาขุดเรื่องที่เขาชอบรสิตาขึ้นมาพูด
“วันนี้วันครบรอบแต่งงานของเรา พี่ปลายทำหน้าให้มันดี ๆ หน่อยได้ไหมคะ นั่งอยู่กับเกรซแต่พี่ปลายก็คิดถึงแต่กอหญ้า”
ร่างสูงคิ้วกระตุก ทำไมเธอต้องพูดถึงกอหญ้าด้วย
“แค่พี่พาเกรซออกมาก็เบื่อมากพอแล้วนะ อย่ามาชวนทะเลาะได้ไหม”
“เกรซพูดเรื่องจริงใช่ไหมล่ะ” อมิตาโยนช้อนลงบนจานจนเกิดเสียงดังสนั่นไปทั้งห้องอาหาร
“เกรซ อย่างี่เง่าได้ไหม พี่ก็พาออกมาแล้วนี่ไง” ชายหนุ่มเริ่มโมโห
“งั้นก็หย่ากับเกรซสิ หย่ากับเกรซพรุ่งนี้เลย” อมิตาเองก็เริ่มจะทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน
เหอะ!! ร่างสูงแค่นหัวเราะ สายตาชั่วร้ายมองผู้หญิงตรงหน้าด้วยความเหยียดหยาม
“เกรซเป็นคนเต้นเร่า ๆ ไปบอกกับพวกผู้ใหญ่เองนะว่าอยากแต่งงานกับพี่ พี่ให้โอกาสเกรซไปตั้งหลายรอบแล้ว แต่เกรซก็ยังดึงดันแต่งงานกับพี่ จะหย่าเหรอ...ตอนนี้มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก”
“ก็แค่ไปเซ็นชื่อที่สำนักงานเขตไม่ถึงสิบนาที เราก็จะไม่มีอะไรต่อกันแล้ว เรื่องนี้ง่ายจะตาย”
“ไม่ฉลาดเอาซะเลยนะเด็กน้อย แหม...พี่จะปล่อยเกรซไปง่าย ๆ ได้ยังไงกัน ก็ในเมื่อเกรซมีนามสกุลของบรรพรุ่งเรืองห้อยท้ายอยู่แบบนั้น ถ้าพี่หย่าพี่ก็โง่สิ...”
“งั้นเกรซจะไปบอกความจริงทุกคนให้รับรู้เกี่ยวกับความชั่วของพี่ปลาย” นั่นเป็นคำพูดประจำของเขาที่ย้ำกับเธออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน คำพูดของเขาคอยตอกย้ำอยู่เสมอว่าเธอมีนามสกุลอะไรห้อยท้าย ถ้ารู้ว่าจะเจ็บปวด เธอจะไม่เอาตัวเองลงมาเล่นในเกมบ้า ๆ นี้หรอก
“เกรซครับ” ธนัตยกมือขึ้นมาประสานกันไว้ตรงหน้าแววตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยามและชั่วร้าย “เกรซคิดว่าคนที่บ้านนั้นจะเชื่อเกรซหรือพี่มากกว่ากัน เกรซเป็นตัวอะไรในบ้านนั้น เกรซก็น่าจะรู้ดีนี่ครับ ต่อให้เกรซแหกปากร้องตะโกนขอความช่วยเหลือจากพวกเขา ก็จะไม่มีใครยื่นมือมาช่วยคนแบบเกรซหรอก”
สิ่งที่ธนัตพูดออกมาถูกต้องทั้งหมด ไม่ว่าเธอจะกรีดร้องโวยวายเสียงดังขนาดไหน ก็จะไม่มีใครจากบรรพรุ่งเรืองสนใจเธอ ต่อให้เธอเจ็บปวด หรือจะตายตรงนี้ก็จะไม่มีใครสนใจเธอ เมื่อคิดได้แบบนั้นหัวใจของอมิตาก็คล้ายกับถูกบีบรัด
คนตัวเล็กก้มหน้าฟุบลงไปกับโต๊ะอาหาร หญิงสาวกอบกุมหัวใจของตัวเอง ความเจ็บปวดเจียนตายเช่นนี้ หรือเธอกำลังจะตายกันนะ สติของอมิตาค่อย ๆ เลือนหายไปเรื่อย ๆ พอ ๆ กับลมหายใจที่ค่อย ๆ อ่อนแรง
“เกรซ อย่าแสดงละครเลยน่า” ธนัตจ้องมองอยู่แบบนั้น เขาไม่ได้สนใจเธอด้วยซ้ำ เพราะการเล่นละครเรียกร้องความสนใจมันเป็นนิสัยปกติของเธออยู่แล้ว
ร่างเล็กโปร่งแสงขยับตัวออกมายืนดูกายเนื้อของตัวเอง อมิตาหันกลับไปมองผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของเธอ เขายังคงพ่นคำพูดไม่น่าฟังออกมาไม่หยุด เขาจะรู้หรือเปล่าว่าเธอตายแล้ว
(ยังอยากมีชีวิตต่ออีกไหม) เสียงของใครสักคนที่ไม่ระบุเพศชัดเจนถามเธอ
“ไม่ค่ะ ไม่อยากมีชีวิตอีกต่อไปแล้ว” อมิตาตอบ
(จากนี้ไปจะแก้ไขอะไรไม่ได้แล้วนะ)
“ไม่แก้ไขอะไรแล้วค่ะ จบไว้แค่เพียงเท่านี้ก็ดีเหมือนกัน”
(งั้นฉันขอร่างของเธอก็แล้วกันนะ ฉันทำบางอย่างผิดพลาดน่ะ)
“คะ?”
หญิงสาวเฝ้ามองร่างของตัวเองที่แน่นิ่งไปแล้ว และมองผู้ชายคนที่เธอรักสุดหัวใจ ก่อนที่ไม่นาน จะมีร่างโปร่งแสงของคนอีกคน ลอยลงมาผสานกับร่างกายเดิมของอมิตา
“ทำไมถึงเอาคนอื่นมาทรมานล่ะคะ”
(เอาน่า ขอก่อนก็แล้วกัน)
“งั้นก็...แล้วแต่ท่านเลยค่ะ”
อมิตาในนิยาย มองสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นด้วยหางตา
“เอาเถอะ ไม่เกี่ยวกับฉันแล้ว ที่เหลือก็แล้วแต่โชคชะตาของเธอก็แล้วกันนะ”
ก่อนที่ไม่นาน หญิงสาวจะเดินข้ามสะพานสายรุ้งที่ทอดยาวลงมาหาเธอ และหายไปตลอดกาล