2 พี่ไม่หลงกลเกรซหรอกนะ
“เกรซชอบพี่ปลายค่ะ ยังไงซะคนที่ต้องแต่งงานกับพี่ปลายก็ต้องเป็นเกรซ”
หญิงสาวลอยหน้าลอยตาพูดด้วยความสะใจ
ถึงแม้จะเป็นการแต่งงานเพราะผลประโยชน์ เธอก็รู้สึกสะใจอยู่ดีที่สามารถเอาชนะคนแบบรสิตาได้
ทุกคนรู้ดีแก่ใจว่าคนที่มีสิทธิ์ในกองมรดกหลายพันล้านนี้เป็นเธอ ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้นที่จู่ ๆ ก็โผล่เข้ามา อมิตายิ้มเยาะเย้ยผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า และอีกเรื่องที่เธอรู้นั่นก็คือธนัตชอบรสิตาไม่ใช่เธอ การได้ชัยชนะเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเธอต่างหากที่สำคัญ
“อย่าโกหกเลยน่า พี่รู้ว่าเกรซก็ไม่ได้ชอบพี่ เกรซแค่อยากจะเอาชนะพี่ก็เท่านั้น”
“ว้า...พี่ปลายฉลาดจริง ๆ สมแล้วที่เป็นมันสมองคนสำคัญของอรรถพิบูรณ์” คนตัวเล็กยิ้มร้ายให้กับผู้ชายตรงหน้า
เขาพูดถูกเกือบหมด ผิดอย่างเดียวนั่นก็คือเธอชอบเขาจริง ๆ แต่เธอก็ไม่อยากรู้สึกแพ้เลยพูดคำพวกนั้นออกไปก็เท่านั้น
“น่ารังเกียจว่ะ คนแบบเกรซโคตรน่ารังเกียจเลย” ธนัตด่าผู้หญิงที่นั่งอยู่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม
“แย่จัง ยังมีอีกหลายเรื่องเลยนะคะที่จะทำให้พี่ปลายรู้สึกรังเกียจเกรซ” คนตัวเล็กใช้มือรวบผมยาวสลวยของตัวเองไปอยู่ด้านหลัง
“พี่รู้จักเกรซดี”
“แต่ก็น่าจะดีไม่พอ...เกรซจะบอกอะไรให้ พี่ปลายรู้ไหม ว่ายายนั่นไม่ได้ชอบพี่หรอก” อมิตาบอกสิ่งที่เธอรู้ให้กับผู้ชายตรงหน้ารับฟัง
“เกรซเอาอะไรมาพูด” ธนัตเองก็ไม่ใช่ไม่รู้ แต่แค่ไม่อยากยอมรับ
“น่าสงสารจังเลยนะคะ ชอบเขาก็จริง แต่เขาไม่ได้ชอบตอบ แล้วเขาก็ให้เป็นได้แค่พี่ชายที่แสนดี” อมิตาก้มหน้าหัวเราะ “พี่ปลายไม่รู้จริง ๆ เหรอว่าพี่เกล้ากับยายกอหญ้าเป็นแฟนกัน” คนตัวเล็กยกมือขึ้นมาปิดปากและกลั้นขำ
ร่างสูงสะอึกไปเล็กน้อย เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าสองคนนั้นเป็นแฟนกัน คทากรเป็นเพื่อนสนิทเขา ธนัตไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าเพื่อนรู้สึกอย่างไรกับรสิตา ใบหน้าหล่อเหลาเคร่งเครียดขึ้นมาในทันที คิ้วคมขมวดเข้าหากัน
ท่าทางยียวนกวนประสาทของเธอทำให้เขารู้สึกอึดอัดจนบอกไม่ถูก แก้วน้ำส้มที่วางอยู่ข้างตัวเธอถูกเขาจัดการใช้มันเทราดเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า
“เกรซ พี่จะบอกเธออีกเรื่อง พี่ไม่ใช่สุภาพบุรุษแบบพี่ชายของเกรซหรอกนะ ยิ่งผู้หญิงสันดานเสียแบบเกรซแล้วด้วย พี่ยิ่งไม่จำเป็นจะต้องพูดดีด้วย” เขาพูดกับเธอเบา ๆ และเดินจากไปปล่อยให้ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ นั่นกรีดร้องโวยวายเพื่อเป็นการระบายอารมณ์อยู่แบบนั้นคนเดียว
ตั้งแต่นั้นมาธนัตก็เปลี่ยนไป กลายเป็นคนเคร่งขรึมเก็บตัว มุ่งมั่นแต่กับเรื่องงานเท่านั้น แน่นอนว่าเขามีแผนการในใจที่บอกใครไม่ได้
อมิตาตื่นขึ้นในตอนเช้า หญิงสาวรู้สึกว่าตัวเองฝันร้าย ทันทีที่เห็นนาฬิกาปลุกที่วางอยู่ข้างตัวแสดงเวลา 9 โมงเช้า ร่างเล็กแบบบางก็กระเด้งตัวขึ้นมาทันที
“แย่แล้ว สายแล้ว”
ก่อนที่จะพบว่ามีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติ เธอกวาดสายตามองไปรอบห้อง และพบว่าที่นี่ไม่ใช่ห้องเช่าขนาดเล็กที่เธอเคยอาศัยอยู่ ภายในห้องนี้มันเต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ของผู้ชาย บรรยากาศดูเคร่งขรึม และน่าเกรงขาม เธอกลืนน้ำลายอึกใหญ่และตั้งสติ
เมื่อคิดว่ายังไงที่นี่ก็ไม่ใช่บ้านของตัวเอง อมิตารีบกระโดดลงจากเตียง เตรียมตัววิ่งจะไปเปิดประตูห้อง
“เกรซเป็นอะไร ท่าทางเหมือนกับกำลังจะหนีใครไปไหน” ร่างสูงเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่กึ่งเปลือย
“ฮะ!!!” เธอหันไปมองตามเสียง แต่ก็ต้องรีบหันหน้ากลับ ใบหูของคนตัวเล็กกลายเป็นสีแดงเพราะความขวยเขิน
“พี่ถามว่าเกรซเป็นอะไร” เขาตะคอกเสียงดังใส่เธอ
“ปะ เปล่าค่ะ ไม่ได้เป็นอะไร” อมิตาปฏิเสธ
ท่าทางของเธอดูแปลกพิกล เขาเห็นว่าเธอดูตัวสั่นเล็กน้อยแปลกไปจากปกติที่เคยเป็น
“เกรซ!!” ธนัตเรียกชื่อเธอดังลั่น “พี่...ถามว่าเป็นอะไร”
“เกรซ...เหรอ” อมิตายกมือขึ้นเกาหัวแกรก ๆ ผู้ชายแปลกหน้าคนนี้เรียกเธอว่าเกรซเหรอ
“ล้มเมื่อวานทำให้สมองเธอกระทบกระเทือนหรือไง” ผู้ชายตัวสูงยังคงเสียงดังไม่เลิก
“ขะ...ขอตัวก่อนนะคะ” อมิตาตัวสั่นเทาไม่ได้ตอบโต้ มือเรียวเปิดประตูห้องออกไปในทันที
ร่างเล็กที่ยังสวมชุดนอนบางเบาวิ่งพรวดออกมาจากบ้านหลังใหญ่ คุณสายหยุดเห็นหลังไว ๆ ของนายผู้หญิงของบ้าน เกรงว่าจะเกิดเรื่องจึงรีบสาวเท้าวิ่งตามเธอออกไป
“คุณเกรซคะ เป็นอะไรหรือเปล่าคะ”
เสียงของหญิงชราทำให้อมิตาหยุดชะงัก ทำไมใครต่อใครก็เรียกเธอว่าเกรซ ชื่อเล่นของเธอคือดาต้า ชื่อจริงของเธอคืออมิตา
“ทำไมทุกคนถึงเรียกฉันว่าเกรซ” ไม่ว่าจะคิดอีกกี่ตลบเธอก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าเรื่องนี้มันเกิดอะไรขึ้น
ร่างสูงกำลังแต่งตัวอยู่บนห้องเมื่อมองลงไปที่ลานหน้าบ้าน คิ้วคมเข้มก็ขมวดเข้าหากันอย่างอัตโนมัติ
‘แล้วนั่นเป็นบ้าอะไรอีกล่ะ’
สองเท้าเล็ก ๆ ที่เปลือยเปล่าของอมิตาวิ่งพล่านไปทั่วทั้งลานบ้าน หญิงสาวสอดส่ายสายตาสำรวจพื้นที่ต่าง ๆ เธอไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตเธอตอนนี้กันแน่
‘ถูกจับตัวเหรอ ฉันต้องถูกจับตัวมาแน่ ๆ’
เมื่อเห็นประตูทางออก หญิงสาวก็ปรี่จะไปเปิดทันที แต่ยังไม่ทันจะถึงก็ถูกใครบางคนคว้าตัวเอาไว้ได้ก่อน
“เกรซ พี่ถามว่าเป็นอะไร” มือแกร่งของธนัตคว้าข้อมือเอาไว้แน่น
“ปล่อยนะ” เธอดิ้นรนและต่อต้านอย่างสุดกำลัง
“เกรซ หยุดบ้าสักที” ธนัตขึ้นเสียงใส่เธออีกครั้ง
คนตัวเล็กยกมือขึ้นปิดหูตัวเองเพราะความตกใจ อมิตาเคยมีประสบการณ์ถูกทำร้ายในครอบครัว ทำให้เธอค่อนข้างตื่นตระหนกกับเรื่องแบบนี้
“ขอโทษค่ะ” หญิงสาวน้ำตาริน ดวงตาคู่สวยของอมิตารื้นไปด้วยน้ำตา
ร่างสูงเลิกคิ้วอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยินและได้เห็น
“เมื่อกี้เกรซพูดว่าอะไรนะ”
“ฮึก...ฉันบอกว่าขอโทษค่ะ” อมิตาพูดพร้อมกับเสียงสะอื้น
ชายหนุ่มยิ้มเยาะ เขาไม่เคยเห็นเธอทำตัวอ่อนแอแบบนี้มาก่อน ยิ่งคำพูดขอโทษออกมาจากปากเธอด้วยแล้ว เขายิ่งไม่เข้าใจ ล้มเมื่อวานทำให้เธอสติเลอะเลือนหรือไง
ผู้หญิงที่วัน ๆ เอาแต่เหวี่ยงวีนโวยวายอยู่เป็นนิจ จะมาร้องไห้กระซิกเป็นเด็กเนี่ยนะ หรือเพราะเมื่อคืนเธอล้มหัวฟาดพื้นเหรอ เช้ามาเลยกลายเป็นคนสติไม่สมประกอบ
“อย่าเล่นละครหน่อยเลยเกรซ นี่เป็นแผนเรียกร้องความสนใจอะไรของเกรซอีก พี่ไม่หลงกลเกรซหรอกนะ” ธนัตยังคงพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่แสนจะหยาบคาย
“คุณปลาย ใจเย็น ๆ นะคะ พาคุณเกรซเข้าบ้านก่อนเถอะค่ะ” คุณสายหยุดส่งสายตาให้เขาพาภรรยากลับเข้าบ้าน เพราะเวลานี้ผู้ที่เป็นภรรยาอยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยดีนัก