8 ปัญหาเข้ามาพร้อมกัน
“นารา น้องพราวเป็นยังไงบ้าง”
“ไม่เป็นอะไรแล้วค่ะ พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้ว นาราขอบคุณพี่อั๋นกับพี่กวางมากนะคะ ที่ให้นารายืมเงิน”
“เงินไม่ได้มากมายอะไร พี่กับพี่กวางยินดีช่วย แล้วไม่ต้องรีบคืนก็ได้ ทยอยจ่ายตอนสิ้นเดือน เอาที่ตัวเองจ่ายไหวนะ อย่าให้ต้องเดือดร้อน” พูดจบเจ้าของสำนักงานก็เดินกลับเข้าไปยังห้องทำงาน
“ค่ะพี่อั๋น”
“นารา น้องพราวเป็นอะไรเหรอ”
“น้องพราวผ่าตัดไส้ติ่งค่ะพี่ขวัญ”
“อ้าว แล้วตอนนี้น้องพราวอยู่กับใคร ทำไมนาราไม่ลางานกับพี่อั๋น” ขวัญฤทัยถามเพื่อนรุ่นน้อง
“น้องพราวอยู่กับยายทิพย์ค่ะ นาราไม่อยากขาดงาน แค่เมื่อวานพี่อั๋นกับพี่กวางให้นารายืมเงินไปจ่ายค่าโรงพยาบาลก็เกรงใจมากแล้วค่ะ”
“พี่กวางกับพี่อั๋นใจดีอย่างนี้ตลอด พี่เองก็เคยยืมเหมือนกัน กว่าจะผ่อนหมดก็หลายเดือน”
“นาราก็จะผ่อนใช้เหมือนกันค่ะ” พลอยนาราไม่อยากติดหนี้ใครนานๆ เธอต้องหาทางนำเงินมาคืนให้เร็วที่สุด
หลังเลิกงานพลอยนารารีบกลับไปหาลูกสาวที่โรงพยาบาล เพราะอยากให้ยายสายทิพย์ได้พัก
“นารา มาจากที่ทำงานเลยใช่ไหม”
“ค่ะยายทิพย์ วันนี้น้องพราวเป็นยังไงบ้างคะ เจ็บแผลอยู่ไหมลูก แล้วกวนคุณยายหรือเปล่า”
“เจ็บนิดหน่อยค่ะแม่ แต่พอดูการ์ตูนน้องพราวก็หายเจ็บเลยค่ะ”
“เหรอคะ การ์ตูนนี้มันดีอย่างนี้นี่เอง”
“ยายทิพย์คะ นาราซื้อข้าวกับขนมมาให้นะคะ ฝากให้คุณตาด้วยนะคะ”
“คราวหลังไม่ต้องหอบหิ้วอะไรมาแบบนี้นะ แค่ตัวเองขี่มอเตอร์ไซค์ยายก็ห่วงมากแล้ว ยังจะหอบของพะรุงพะรังมาอีก”
“คุณยายขา คุณแม่ขับไม่เร็วเลยค่ะ น้องพราวนั่งมาผมน้องพราวแทบไม่กระดิกเลยนะคะ”
เพราะทุกครั้งที่ลูกสาวซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของเธอ พลอยนาราจะขับช้าจนลูกสาวบ่นเวลาเห็นรถคันอื่นแซง
“ช้าหรือเร็ว ยังไงก็เนื้อหุ้มเหล็ก”
“นาราจะระวังนะคะ ยายทิพย์รีบกลับเถอะค่ะ เดี๋ยวรถติดนะคะ”
“ได้จ้ะ แล้วพรุ่งนี้ตอนออกโรงพยาบาล ยายจะเอารถยนต์มารับนะ”
“ค่ะยาย นารากับน้องพราวขอบคุณมากนะคะ”
พอยายสายทิพย์กลับไปแล้วสองแม่ลูกก็นั่งดูการ์ตูนกันต่อคืนนี้พิมพ์พิชาเข้านอนก่อนเวลา เพราะกลางวันเด็กสาวไม่ได้นอน
วันนี้พลอยนาราลางานช่วงเช้าเพราะทำเรื่องออกโรงพยาบาลให้ลูกสาว พอทุกอย่างเรียบร้อย พิมพ์พิชาก็นั่งรถไปกับคุณยายสายทิพย์ที่มารอรับตั้งแต่เช้า เพราะกลัวสองแม่ลูกจะกระเตงกันขึ้นจักรยานยนต์อย่างเคย
“แล้วเจอกันตอนเย็นนะคะน้องพราว แม่ไปทำงานก่อน”
“ไม่ต้องห่วงนะนารา ยายจะดูแลให้” สายทิพย์เห็นสีหน้าของพลอยนาราก็รู้ว่าหญิงสาวทั้งห่วงทั้งเกรงใจเป็นอย่างมาก
“ค่ะคุณยาย”
พอส่งลูกสาวขึ้นรถไปแล้ว หญิงสาวก็กลับไปทำงานตามเดิม
เสียงเรียกเข้าจากสมาร์ทโฟนดังขึ้น พลอยนาราละมือจากแป้นคีย์บอร์ด เสียงจากปลายสายทำให้หญิงสาวหน้าซีด พอวางสายก็สูดลมหายใจเข้าเต็มปอด ก่อนจะเดินไปยังห้องทำงานของเจ้านาย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามาเลย” เสียงอิศเรศดังออกมา
“อ้าวนารา มีอะไรทำไมทำหน้าตื่นอย่างนั้น”
“นั่งสิ” พรปวีร์รีบพาลูกน้องนั่ง
“พี่กวาง พี่อั๋น โรงพยาบาลโทรมาบอกว่าอาการคุณตะวันไม่ดีเลย นาราขอลาต่อได้ไหมคะ” เพราะช่วงเช้าเธอพึ่งจะลาไปรับลูกสาวออกจากโรงพยาบาล แล้วกลับมาทำงานไม่ถึงชั่วโมงก็ต้องลางานอีกแล้ว
“ให้พี่ไปส่งที่โรงพยาบาลดีไหม”
“พี่เห็นด้วยกับพี่กวางนะ”
“นาราเอามอไซค์ไปดีกว่าค่ะ เร็วดี”
“ขับช้าๆ นารา”
“ค่ะ นาราจะระวังอย่างดี”
พลอยนาราขี่รถจักรยานยนต์อย่างระมัดระวังเพราะเธอมีลูกสาวที่ต้องดูแล ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเธอพิมพ์พิชาจะอยู่คนเดียวได้ยังไงกัน
พอมาถึงหญิงสาวก็วิ่งไปยังทิศทางที่คุ้นเคย พลอยนาราไม่กล้าเข้าไปในห้องเพราะตอนนี้มีคนอยู่ในนั้นมากมายเหลือเกิน เธอไม่รู้ว่าในนั้นมีญาติของหมอตะวันรวมอยู่ด้วยหรือเปล่า
“นารา”
“พี่เปรมคะ ทำไม”
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน หมอตะวันอาการทรุด หลังจากพี่โทรไปบอกไม่นานหัวใจก็หยุดเต้น”
“หมอเจ้าของไข้บอกว่าครั้งนี้ไม่แน่ใจว่าหมอตะวันจะอยู่ต่อได้อีกนานเท่าไหร่ นารารออยู่ตรงนี้นะ พี่ขอเข้าไปดูสักหน่อย”
เปรมยุดากลับเข้าไปยังห้องพักผู้ป่วย ตอนนี้ภายในห้องนั้นไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เครื่องมือและอุปกรณ์ทุกอย่างที่จำเป็นถูกขนย้ายเขามาจนเต็มห้อง
“คืนนี้ผมจะอยู่เฝ้าที่ซันเอง พ่อกับแม่กลับไปพักก่อนนะครับ”
“ไม่เป็นไรลูก พ่อกับแม่อยากอยู่กับซันให้มากที่สุด”
“ผมขอไปสั่งงานก่อน แล้วจะกลับมาอยู่ด้วยอีกคนนะครับแม่ อ้อ! แล้วพี่ฟ้าล่ะครับแม่”
“กำลังบินกลับจ้ะ”
สองสามีภรรยาจับมือกันแน่น ต่างฝ่ายต่างปลอบใจกันและกัน เวลาผ่านมา 4 ปี แต่ทั้งสองก็ยังทำใจไม่ได้เลยสักนิด ยิ่งพอมาวันนี้อาการลูกชายทรุดหนัก ทั้งสองคนรู้ดีว่าเหลือเวลาอีกไม่นานลูกชายคนโตคงจะจากทั้งสองไปอย่างไม่มีวันกลับ
เปรมยุดา เดินกลับออกมาจากห้อง ตรงไปหาพลอยนาราที่นั่งรออยู่อีกด้วยใบหน้ากระวนกระวาย
“พี่เปรม นาราอยากไปเยี่ยมคุณตะวัน”
“ตอนนี้พ่อกับแม่ของหมอตะวันยังอยู่ในห้อง นาราจะเข้าไปไหม”
“ถ้าอย่างนั้น นาราขอยืนดูอยู่ห่างๆ ได้ไหมคะ” เพราะไม่รู้จะตอบคำถามกับท่านทั้งสองยังไงพลอยนาราเลยเลือกที่จะไม่เผชิญหน้า
“เอาอย่างนี้นะนารา เดี๋ยวพี่จะให้ท่านไปนั่งตรงมุมรับแขกในห้อง นาราค่อยเข้าไปเงียบๆ”