บทที่ 3 เคราะห์กรรมที่ไม่ได้ก่อ คุณหนูสี่สกุลโม่
ยามเช้าในกระโจมรองแม่ทัพเซี่ยหนาน เขาทอดสายตามองกระดาษรายชื่อบุตรสาวขุนนาง ที่เมือคืนหลังจากกลับมาจากค่ายหลุมดำ เขาได้ให้นายทหารไปสืบความว่าเป็นบุตรีของขุนนางท่านใดบ้าง เขาจะได้เตรียมรถม้าไปส่งในเมืองหลวง แต่ทว่าสายตาเขากลับเห็นรายชื่อ คุณหนูสี่สกุลโม่ เขาได้ข่าวว่า สกุลเกาสามีของนางโดนจับตัวไปแล้วมิใช่หรือข้อหาค้าเกลือเถื่อน เหตุใดนางถึงได้มาอยู่ในค่ายหลุมดำ หรือเพราะนางหนีรอดจากสกุลเกามา เพื่อจะกลับเมืองหลวงหาพี่ชาย แต่ทว่าโชคมิเข้าข้างนาง
มุมปากหนาพลันกระตุกขึ้นมาทันที
เมื่อสวรรค์ให้โอกาสเขาได้แก้แค้นคนสกุลโม่แล้ว เซี่ยหนานจะไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดมือเป็นอันขาด ทำไมเขาถึงไม่เห็นนางล่ะเมื่อคืน หรือว่านางจะปลอมตัว
หน้าค่ายทหารยามนี้ สองนายบ่าวมองดูรถม้าคันแล้วคันเล่าที่มุ่งหน้าสู่เมืองหลวง แต่ทว่าพวกนางสองนายบ่าวยังอยู่ที่เดิม เกิดอันใดขึ้นกันแน่ จนกระทั่งเหลือเพียงพวกนางสองคนหน้าค่าย
“แม่นางทั้งสอง เชิญพวกท่านไปพบรองแม่ทัพ ที่กระโจมขอรับ” นายทหารเอ่ยขึ้น สองนายบ่าวจึงเดินตามนายทหารผู้นั้นไป
สองสตรีได้เข้ามาในกระโจมรองแม่ทัพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เซี่ยหนานพลันนั่งที่เก้าจิบน้ำชาสายตามองหญิงอัปลักษณ์ทั้งสองยอบกายคำนับเขา
“แม่นาง เหตุใดข้าถึงไม่ส่งเจ้ากลับไปเมืองหลวง”
ในตอนที่พวกนางรอหน้าจวน ไม่มีรถม้าสักคันให้นางขึ้นเลย โม่ซินก็คิดในใจเหมือนกัน ทั้งที่เมื่อคืนนางก็บอกนายทหารว่านางเป็นคุณหนูจวนสกุลโม่
“เจ้าค่ะ ข้าก็งงเหมือนกัน ทำไมท่านรองแม่ทัพไม่เตรียมรถม้าให้ข้า” โม่ซินเอ่ยขึ้นทอดมองดวงหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างฉงน คิ้วของนางขมวดเป็นปมอย่างสงสัย อาจูก็คิดเหมือนกันกับเจ้านาย
เซี่ยหนานประเมินใบหน้าดำของนาง ช่างปลอมตัวได้เนียนยิ่งนัก นับว่านางเก่งจริงๆ คุณหนูสี่สกุลโม่
“บังเอิญว่า ค่ายทหาร ขาดคนซักผ้า หุงข้าว ข้าต้องการให้แม่นาง มาเป็นสาวใช้ในค่ายทหารก่อน ค่อยกลับไปที่เมืองเหลวง”
“มันจะมากไปแล้วนะ คุณหนูข้าเป็นคุณหนูสี่สกุลโม่” อาจูเถียงขึ้นมาอย่างไม่ยอม
“ข้าได้ยินมาว่า แม่นางแต่งงานกับคนสกุลเกาไปแล้ว อีกทั้งสกุลเกาถูกจับข้อหาค้าเกลือ ถ้าเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป เจ้าคิดว่า พวกเจ้าทั้งสองคนจะมีชีวิตรอดหรือไม่”
ทั้งสองคนได้ยินเยี่ยงนี้ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ โม่ซินไม่คิดว่าเขาจะรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นในเมืองเหนือ นางลืมไป เขาเป็นทหารประจำเมืองเหนือนี่นา
“ท่าน” ปากงามถึงกับสั่นระรี้ขึ้นมา
“ว่าอย่างไร จะยอมเป็นคนใช้ในค่ายทหารหรือไม่”
สองนายบ่าวพลันสบตากัน นางไม่อยากนำความเดือดร้อนไปหาพี่ใหญ่
“ตกลง”
“ดี”
“เมื่อไร ข้าถึงไปจากที่นี่ได้”
“จนกว่าข้าจะพอใจ”
หลังจากที่โม่ซินรับปากที่จะเป็นคนใช้ในค่ายทหารเมืองเหนือ เซี่ยหนานก็เปลี่ยนชื่อให้นางเป็นเสี่ยวซินทันที เพราะกลัวความจะแตก กระนั้นหญิงสาวจึงจำใจรับชะตากรรมนี้ สองนายบ่าวนั่งซักผ้าที่ริมทะเลสาบไห่หนาน ไม่ไกลจากค่ายทหารนัก
“คุณหนู พวกเรารอดมาจากสกุลเกา รอดมาจากโจรราคะ เหตุใดต้องมาติดแหงก ที่ค่ายทหารด้วยเล่า” อาจูทั้งทุบผ้า ทั้งบ่นอย่างน่าสงสาร
โม่ซินไม่เข้าใจชีวิตนางเหมือนกัน หือสวรรค์จะลิขิตไม่ให้นางนั้นมีความสุข ให้นางต้องพบเจอแต่ความทุกข์
“ช่างเถอะ ข้ายอมรับชะตากรรมนี้เอง” มือเรียวงามของนางไม่เคยทำอะไรมาเยี่ยงนี้มาก่อน เมื่อจับไม้ทุบผ้าจึงเกิดเป็นรอยแดงขึ้นมา
“คุณหนูมือของท่าน แดงหมดแล้ว” อาจูเอ่ยทั้งน้ำตา เกิดมาคุณหนูของนางเคยทำอะไรเยี่ยงนี้เสียที่ไหนเล่า นางอยู่กับคุณหนูมาตั้งสิบกว่าปีแล้ว ทำไมโชคชะตาถึงได้ลิขิตให้เป็นเยี่ยงนี้ด้วยเล่า ตอนอยู่สกุลเกาก็ไม่เป็นที่รักของสามี อนุคอยกลั่นแกล้ง พอออกเรือนมาได้ไม่นาน ก็ได้ยินข่าวร้าย นายท่านโม่และโม่ฮูหยินเสียชีวิต คุณหนูของนางไม่เคยมีความสุขเลย
“ช่างเถอะ ข้าจะตั้งใจทำ แดงก็ช่างมัน”
“พวกเจ้ารีบๆ ซักผ้า มัวแต่คุยกันอยู่ได้” นายทหารที่เฝ้าพวกนางอยู่ไม่ห่างเห็นพวกนางคุยกันเขาจึงตะโดนด่าพวกนาง
“เจ้าค่ะ” อาจูรีบตอบกลับไป
“คารวะองค์หญิงหงอี้” สตรีชุดแดงนามว่าองค์หญิงหงอี้เดินมาหยุดที่หน้านายทหารผู้นั้น นางได้ยินมาว่า รองแม่ทัพเซี่ยหนานรับสตรีสองนางนี้เป็นคนใช้ในค่ายทหาร หงอี้จึงมาดูหน้าเสียหน่อยว่าเป็นอย่างไร
“เจ้าไปเถอะ ข้าเฝ้าพวกนางเอง”
นายทหารผู้นั้นล่าถอยออกไป
หงอี้รีบสาวเท้าไปหาสองสตรีที่ริมทะเลสาบ ได้เห็นดวงหน้าอัปลักษณ์ของพวกนางสองคนมุมปากงามเผยอยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย อัปลักษณ์ เสียจริง
สองสตรีที่นั่งซักผ้าต่างมองผู้มาเยือนคนใหม่ แม่นางผู้นั้นสวมชุดแดงอย่างงดงาม ดวงหน้ารูปไข่ งามล้ำ ประกอบกับดวงตากลมโตราวกับดวงจันทราชวนให้เสน่หา โม่ซินคิดว่าแม่นางผู้นี้เป็นใครกันถึงได้มาอยู่ในค่ายทหาร
“เจ้าสองคน ที่เป็นสาวใช้ในค่ายทหารสินะ ดูท่าแล้วอัปลักษณ์สิ้นดี เห็นหน้าพวกเจ้าเป็นเยี่ยงนี้ข้าก็วางใจแล้ว ทีแรกนึกว่าท่านรองแม่ทัพเซี่ยหนานจะหลงสตรีที่งดงาม แต่พอมาดูหน้าพวกเจ้า ทำให้ข้าเบาใจยิ่งนัก”
คำพูดทุเรศเยี่ยงนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะออกมาจากริมฝีปากงาม โม่ซินไม่คิดว่าหญิงงามจะมีริมฝีปากร้ายยิ่งนัก คิดว่านางอยากจะยั่วไอ้รองแม่ทัพหน้าขาวนั่นนักรึ
“แม่นาง เจ้าไม่ต้องห่วงถึงยังไง ข้าก็ไม่มีวันชอบรองแม่ทัพเป็นแน่แท้” โม่ซินเอ่ยออกมา ด้วยความจริงใจ
“ใช่ ข้ากับคุณหนูไม่มีทางชอบคนเยี่ยงนั้น” อาจูผสมโรง
“ดี ข้าจะบอกพวกเจ้าไว้นะ ข้าเป็นองค์หญิงนามว่าหงอี้ แห่งเผ่าหงส์ ต่อไปเห็นข้าในค่าย ต้องคำนับข้า เพราะบิดาข้าส่งข้ามาเป็นบรรณาการให้แก่ท่านรองแม่ทัพเซี่ยหนาน พวกเจ้าอย่าริอาจปีนเตียงรองแม่ทัพเป็นอันขาด”
หงอี้มองพวกนางสองคนอย่างชิงชังแล้วสะบัดอาภรณ์ออกไปจากริมทะเลสาบ อาจูมองอย่างหมั่นไส้ โม่ซินได้แต่ส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับองค์หญิงหงอี้
พลบค่ำเซี่ยหนานเรียกโม่ซินเข้าไปในกระโจมเขา นางเองไม่รู้เหมือนกันว่า เจ้าคนเถื่อนนั่น เหตุใดต้องเรียกใช้นางในยามเช่นนี้ด้วย แทนที่นางจะได้พักผ่อน วันนี้ทำงานเกือบตายมาทั้งวัน เขายังจะมาใช้นางอีกงั้นรึ
“เจ้ามาขัดตัวให้ข้าหน่อย” เซี่ยหนานพลันเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นโม่ซิน เดินเข้ามาในกระโจม นางได้ยินประโยคนี้ถึงกับตาค้าง ชายหญิงมิควรจะทำอะไรเยี่ยงนี้ เหตุใดเจ้าคนเถื่อนถึงต้องมาใช้นางขัดตัวด้วยเล่า
“ข้า” นางกำลังจะปฏิเสธ
“เจ้าเป็นสาวใช้ในค่ายทหาร มิอาจปฏิเสธได้ ข้าสั่งให้ทำอันใดก็ต้องทำ”
โม่ซินสูดลมหายใจเข้าอย่างเต็มปอด “เจ้าค่ะ” นางยอมก็ได้
ภายในฉากกั้นห้องน้ำ โม่ซินขัดหลังที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นของเซี่ยหนานอย่างจำใจ เซี่ยหนานไม่ค่อยพอใจนักที่นางยืนอยู่นอกอ่างไม้ ไม่ยอมเข้ามาในอ่างไม้กับเขา โม่ซินเกิดอาการเขินอายเล็กน้อย ถึงนางจะเคยเป็นฮูหยินน้อยสกุลเกา แต่ทว่า สามีของนางก็ไม่เคยให้นางอาบน้ำถูหลังให้ นี่เป็นครั้งแรกที่นางต้องมาทำอะไรเยี่ยงนี้ ดวงหน้าของนางแดงก่ำอย่างมิรู้ตัว
“เจ้าลอง เข้ามาในอ่างกับข้าสิ” เซี่ยหนานมีความแค้นในใจกับสกุลโม่เป็นอย่างมาก เมื่อหวนคิดเรื่องราวของโม่หวาย สตรีที่เขารัก ต้องถูกคุณชายใหญ่โม่หวังคาบไปกิน
เขาพูดเยี่ยงนี้หมายความว่าอย่างไร แค่นางอยู่นอกอ่างก็พอแล้วมั้ง จะให้เข้าไปถูในอ่างเชียวรึ บ้าไปแล้ว เจ้าคนเถื่อน
“ท่านอย่าบังคับข้าเลย”
“เจ้าเป็นแค่สาวใช้ มิอาจปฏิเสธได้ หรือเจ้าอยากส่งตัวเข้าคุก” เขาขู่นางอีกแล้ว สารเลวยิ่งนัก ทำร้ายไม่มีทางสู้
“เจ้าค่ะ” โม่ซินจำใจเข้าไปนั่งในอ่างกับเขา
เซี่ยหนานยกยิ้มอย่างพอใจ เขาจะทำให้โม่ซินต้องเจ็บปวด อย่างน้อยนางก็เป็นคนสกุลโม่ พอให้เขาได้แก้แค้นได้
เซี่ยหนานรำคาญตาเหลือเกินที่มองดวงหน้าอัปลักษณ์ของนาง กระนั้นเขาจึงกดศีรษะนางลงน้ำ หญิงสาวไม่ทันตั้งตัวสำลักน้ำไปตั้งหลายคำ
“ท่านทำบ้าอันใด” เมื่อศีรษะโผล่ขึ้นเหนือน้ำ
เซี่ยหนานจำต้องตะลึงกับความงามของนางจนต้องอ้าปากค้าง โม่ซินมองหน้าเขา หรือว่าเขาจะเห็นใบหน้าที่แท้จริงของนางแล้ว กระนั้นนางจับที่ใบหน้าตัวเอง พบว่าคราบดำหลุดลอกออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“ใบหน้าเจ้าช่างงดงามยิ่งนัก” ชายหนุ่มกระชากนางเข้ามาจูบอย่างบ้าคลั่ง
เขาจูบนางแล้ว โม่ซินแทบจะหายใจไม่ออก
สองมือของนางพยายามจะผลักเขาออกแต่ไม่เป็นผล ยิ่งทำให้เขาจูบนางอย่างร้อนแรง เวลาผ่านไปหนึ่งก้านธูป เขาถึงผลักนางออก
กระนั้นทำให้นางตบเข้าไปที่ใบหน้าเขาอย่างแรง “คนเลว” หญิงสาวรีบออกไปจากอ่างไม้ พร้อมคว้าเสื้อคลุมของนางออกไป ชายหนุ่มมองตามอย่างสาแก่ใจ
ภายในกระโจมนอนของสาวใช้ในค่ายทหาร อาจูเดินอย่างร้อนรนใจ เจ้านายของนางออกไปพบท่านรองแม่ทัพตั้งแต่ตอนพลบค่ำยามนี้ ค่ำมืดแล้วก็ยังไม่มาเสียที ทำให้คนเป็นสาวใช้ร้อนใจยิ่งนัก ว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับเจ้านายขึ้น
ครั้นเมื่อเห็นโม่ซินเดินเข้ามานกระโจมด้วยเนื้อตัวที่เปียกโชก อาจูนั้นก็ตกใจ คุณหนูของนางไปตกน้ำที่ไหนมากัน
“คุณหนู ทำไมถึงได้เปียกเยี่ยงนี้ อีกทั้งใบหน้าท่าน” อาจูเอ่ยขึ้นอย่างสงสัย โชคดีที่โม่ซินเอาผ้าคลุมศีรษะไว้แล้วรีบเข้ามาในกระโจมไม่อย่างนั้น เหล่าทหารที่อยู่ด้านนอกได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของนางเป็นแน่แท้ โม่ซินเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้อาจูฟัง สาวใช้สถบด่าเซี่ยหนานอย่างไม่เหลือชิ้นดีกล้าดีอย่างไรมาทำร้ายคุณหนูของนาง หลังจากเปลี่ยนอาภรณ์ให้โม่ซินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สองนายบ่าวก็เข้านอน ด้านโม่ซินนอนไม่หลับยังนึกถึงจูบที่เร้าร้อนที่คนเถื่อนมอบให้นาง นางจำต้องสลัดความคิดบ้าๆ ออกไปแล้วรีบหลับตานอน…
วันถัดมาสองนายบ่าวตื่นตั้งแต่ไก่ยังไม่ขัน พวกนางทั้งสองต้องมาที่โรงครัวของค่ายทหาร เพื่อมาช่วยพ่อครัวใหญ่จัดสำรับอาหารเช้าในครั้งนี้ โม่ซินกับอาจูจึงต้องยกอาหารเช้าที่ทำเสร็จ ไปให้นายทหารในกระโจมต่างๆ แต่กระโจมที่โม่ซินไม่อยากจะไปคือกระโจม ของรองแม่ทัพเซี่ยหนาน หญิงสาวทั้งสองเดินเข้ามาในกระโจมแล้ววางอาหารไว้ที่โต๊ะเตี้ย
“เจ้าอยู่ก่อน ส่วนเจ้าออกไปได้” คนที่เซี่ยหนานเรียกให้อยู่คือโม่ซิน อาจูจำต้องล่าถอยออกไป โม่ซินมองหน้าเขาแล้วพลันนึกถึงเรื่องเมื่อคืน นางอยากจะยกถาดอาหารฟาดหน้าเขายิ่งนัก
เซี่ยหนานมองโม่ซิน นางยังคงปกปิดใบหน้าที่งามล้ำ “ทำไมไม่เปิดเผยใบหน้าที่แท้จริงล่ะ” เซี่ยหนานเอ่ยถามนางอย่างกวนๆ
“เรื่องของข้า” นางตอบอย่างห้วน
ชายหนุ่มบีบแก้มนางอย่างแรง “เป็นแค่สาวใช้ บังอาจขึ้นเสียงกับข้า”
“ปล่อยนะ” คนเถื่อนชอบทำร้ายนาง นางไปทำอันใดให้เขา เขาถึงต้องมาทำร้ายนาง
“รองแม่ทัพ” น้ำเสียงหวานเอ่ยขึ้นพร้อมกับสาวงามชุดแดงเดินเข้ามา หงอี้เห็นรองแม่ทัพทำท่าทีสนิทกับนังสาวใช้ชั้นต่ำ นางก็ไม่พอใจ
“ข้าขอตัวเจ้าค่ะ” โม่ซินรีบออกไปเมื่อเป็นอิสระ
หงอี้เห็นสายตาที่เซี่ยหนานมองสาวใช้อัปลักษณ์ ก็เกิดอาการริษยาขึ้นมาทันที นังนั่นมันว่านเสน่ห์อันใดให้ท่านรองแม่ทัพกันแน่
“ดูเหมือนว่า ท่านจะชอบนางนะ”
“องค์หญิง มีธุระอันใด” เซี่ยหนานพอรู้ว่า หงอี้นั้นมีใจชอบเขา แต่ทว่าเขาไม่ชอบนาง ทุกวันนางจะมหาเขาในกระโจมชวนคุยเรื่องไร้สาระ ฝ่าบาททำไมไม่รับนางเป็นสนมนะ ทำไมต้องส่งนางมาที่ค่ายทหารทางเหนือด้วยเล่า