ตอนที่3[แอบห่วง]
ตะวันเถื่อน
ตอนที่3
[แอบห่วง]
ตอนดึกร่างเล็กรู้สึกหิวเมื่อท้องร้องจ๊อก ๆ นับดาวนอนพลิกไปมาด้วยความหิวโหยอยู่บนเตียงนุ่ม เมื่อตอนเย็นกับข้าวรสจัดทำให้ฝืนกินไปได้สองสามคำ จะทำอย่างไรดีเมื่อเริ่มแสบท้องหนักขึ้นเมื่อคิดได้ร่างเล็ก จึงก้าวลงจากเตียงแล้วเดินไปเปิดประตูก้าวเดินลงบันไดไปชั้นล่าง
ส่วนนายหัวตะวันที่กำลังหลับอยู่อีกห้อง พลันได้ยินเสียงผิดปกติภายในบ้าน จึงเอื้อมมือไปหยิบวัตถุสีดำสนิทที่วางไว้ใต้หมอน แล้วเดินย่องลงมาชั้นล่างอย่างระแวดระวัง เมื่อลงมาใกล้ได้ยินเสียงกุกกักอยู่แถวห้องครัว จึงเล็งปืนในมือเข้าหาร่างสลัวพร้อมเหนี่ยวไก แสงไฟด้านนอกสาดส่องเข้ามาพอให้ได้เห็นกันลาง ๆ
หยุด!!
กรี๊ดด!
เสียงเล็กร้องกรี๊ดลั่นบ้านด้วยความตกใจสุดขีด เมื่อนายหัวเอื้อมมือไปกดสวิตช์ไฟให้แสงสว่างในบ้านสว่างจ้าขึ้น
"อ้าว! นี่เธอลงมาทำอะไรมืด ๆ ไฟก็ไม่เปิดฉันก็คิดว่าขโมยเข้าบ้าน" นายหัวร้องทัก
"ฉันลงมาหาน้ำกิน แล้วหาสวิตช์ไฟไม่เจอนะสิ!" เสียงเล็กยังสั่นเครือด้วยความตกใจ
"อ้าว! ยืนอยู่ทำอะไรไปหยิบน้ำสิ!" ร่างโตเอ่ยเตือนเสียงห้วน
หลังยืนรอนับดาวหยิบน้ำในตู้เย็นเสร็จแล้วก้าวขึ้นชั้นบน นายหัวก็ปิดไฟแล้วก้าวตามมาบ้าง ต่างคนต่างเข้าห้องนอนของตัวเอง แล้วปิดไฟนอนลง
_______________
แสงรุ่งอรุณของวันใหม่ได้เข้ามาเยือน ร่างเล็กนอนบิดกายแล้วเอามือเรียวลูบไล้หน้าท้องแบนราบ เมื่อมีอาการแสบ ๆ ด้วยโรคกระเพาะน่าจะกำเริ่บ
ก๊อก ๆ
"นี่เธอ! นอนกินบ้านกินเมืองหรือไงไม่ลุกสักที" เสียงทุ้มกร้าวอยู่หน้าประตู
ทำให้นับดาวรีบลุกขึ้นเดินมาเปิดประตูทันที
"ไปทำกับข้าวกินเองถ้ากินเผ็ดไม่ได้" เสียงกร้าวมาพร้อมกับสายตาคมดุกล่าวจบ ก็หันกลับจะก้าวลงชั้นล่าง แต่รีบหันมาใหม่เมื่อนึกอะไรขึ้นได้
"อ้อ!! แล้วก็ทำอะไรให้มันไว ๆ ด้วย ที่นี่เขามีงานกันเยอะ แล้วก็ไปช่วยงานที่สวนด้วย ไม่ใช่ว่าแต่งงานกับฉันแล้ว เธอจะได้อยู่สุขสบายเป็นคุณนายน่ะ" เสียงห้วนกระแทกใส่จบก็ก้าวลงชั้นล่าง
คงปล่อยให้นับดาวยืนงงอื้ออึ้ง กับคำพูดแต่ละประโยคโดยเฉพาะประโยคสุดท้าย ที่สามารถทำให้มันเจ็บจี๊ดเข้าไปถึงด้านในได้ดีพิลึก
ร่างเล็กกัดฟันขบเม้มริมฝีปากล่างจนเจ็บเพื่อข่มอารมณ์ขุ่นมัว แล้วก้าวเดินลงชั้นล่างเพื่อเข้าครัวทำอาหารกินเองตามคำสั่งนายหัวตะวัน
"นายหญิงนั่งอยู่เฉย ๆ เลยคะ เดี๋ยวป้าเอียดทำเอง" ป้าเอียดแม่บ้านเห็นนายหญิงของตนเข้าครัวทำอาหารก็เกิดความไม่สบายใจขึ้น
"ไม่เป็นไรค่ะป้า ดาวทำเองดีกว่า เพราะอาหารที่ป้าทำรสจัดเกินไป" นับดาวแย้ง
"ถ้านายหญิงทานเผ็ดไม่ได้ เดี๋ยวป้าเอียดทำให้คะ" แม่บ้านคัดค้านพร้อมเสนอตัวทำให้เอง
ร่างเล็กทนความรบเร่าของป้าเอียดไม่ได้จึงปล่อยให้นางช่วยเป็นลูกมือแทน ช่วยกันทำอาหารจนเสร็จ
หลังทานข้าวเสร็จนับดาวเดินขึ้นชั้นบน แล้วก้าวลงมาชั้นล่าง ด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ที่มีเสื้อแขนยาวคลุมทับอีกชั้นหนึ่ง
"อ้าว! นายหญิงจะไปไหนคะ" นิตยาหลานสาวป้าเอียดเอ่ยถาม
"ทำไปสวนจ๊ะ" นับดาวเอ่ยตอบพร้อมส่งยิ้มมาให้
"นายหญิงจะทำได้ยังไง ตัวเล็กบอบบางขนาดนี้" นิตยาอดห่วงไม่ได้จึงเอ่ยออกมา
"ไม่เป็นไรจ๊ะนิด เป็นเมียนายหัวตะวันต้องทำได้ทุกอย่างจ๊ะ" ร่างเล็กสนทนากันพร้อมแอบมองเสี้ยวหน้าของอีกคน ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะอาหารกำลังยกถ้วยกาแฟเข้าปากกลืนลงคอแทบสำลัก
ก่อนนายหัวตะวันจะลุกขึ้น แล้วก้าวเดินไปขึ้นรถ
"เสร็จแล้วก็ไปขึ้นรถฉันจะเข้าสวนแล้ว" เสียงห้วนสั้นเอ่ย
นับดาวก้าวเท้าเดินตามมาติด ๆ เมื่อเห็นนายหัวติดเครื่องยนต์ก็ก้าวขึ้นไปนั่งเบาะหลัง
"นี่เธอ!! มานั่งข้างหน้าฉันไม่ใช่คนขับรถของเธอน่ะ" เสียงเข้มขุ่นเอ่ยสั่ง
"นั่งหน้าหรือหลังก็เหมือนกันแหละ ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน" เสียงเล็กเอ่ยบ่นห้วนบ้าง
"ก็เธอเป็นเมียฉัน จะไปนั่งด้านหลังคนงานก็นินทาเอานะสิ" เสียงทุ้มเอ่ยห้วนจัด
"ยัง!! ฉันยังไม่ได้เป็นเมียใครโปรดเข้าใจด้วย" เสียงเล็กกระแทกเสียงห้วนขึ้น
"หรือเธอคงอยาก!..ได้ฉันเป็นผัว…แล้วสิ" พูดลากเสียงยานเย้นหยันออกมา
ร่างเล็กได้แต่กำมือแน่นพร้อมทะลึ่งตาใส่ แล้วก้าวลงมาเปิดประตูด้านหน้าก้าวขึ้นนั่งพร้อมกระแทกประตูปิดลงเสียงดังโครมใหญ่
รถแล่นออกมาไม่นานก็มาจอดไว้ใต้ร่มทุเรียน นายหัวก้าวเท้าลงจากรถ แล้วเดินมาหาคนงานชายหญิงที่กำลังตัดเก็บลูกทุเรียนอยู่
นับดาวก็ก้าวลงตามมาติด ๆ
"ให้ดาวช่วยนะคะ" ร่างเล็กเอ่ยพูดกับคนงาน
ทุกสายตาหันมาจ้องมองร่างเล็ก ที่มีผิวพรรณขาวผ่องนิ้วเรียวเหมือนลำเทียน แถมขณะนี้แสงตะวันที่ส่องแสงลงมาเริ่มแรงกล้า เมื่อปะทะผิวขาวสวย ยิ่งเพิ่มความเปล่งปลั่งออกสีแดงระเรื่อน่ามองไปหมด
"นายหญิง!.อย่าทำเลยไม่ไหวหรอกครับ" เสียงคนงานชายเอ่ย เมื่อจ้องมองหน้าตาและผิวพรรณที่ต่างไปจากคนงานทั่วไป
"ไอ้ก้อง!..อย่าขัดมีคนมาช่วยมึงไม่ดีหรือไง?" เสียงคุ้นหูตวาดขึ้น ไอ้ก้องรีบปล่อยตะกร้าหวายลงอย่างไว
หัวหน้าคนงานรีบส่งถุงมือหนาให้นายหญิงด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นมือเรียวเล็กหยิบจับผลทุเรียนไม่ถนัด
"ขอบคุณมากค่ะพี่ก้อง" นับดาวกล่าวขอบคุณ ก่อนจะช่วยหยิบจับผลทุเรียนลงตะกร้าเบา ๆ
นายหัวหันมองแก้มแดงใส ที่กำลังแดงระเรื่อเมื่อยามโดนแดด และมีเหงื่อเม็ดเล็ก ๆ ผุดขึ้นตามใบหน้า ทำให้ผิวที่สวยสุขภาพดีอยู่แล้วยิ่งเพิ่มสีสันให้ผู้ที่พบเห็นกลับจ้องมองเข้าไปอีก
ไม่เว้นแม้กระทั้งนายหัวตะวันที่เฝ้าจ้องมองภาพตรงหน้าอย่างตลึงงัน สายตาแทบไม่กระพริบ ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงตรงหน้าจะสวยมีเสน่ห์ชวนให้ใครต่อใครหลงใหลได้ขนาดนี้
นับดาวช่วยงานไม่มีการบ่นสักนิด ร่างเล็กทำไปเรื่อย ๆ เมื่อยามเหงื่อไหลซึมมือเรียวเล็กพยายามใช้แขนเล็กปาดเหงื่อออก แล้วส่งยิ้มพราวให้คนงานชายหญิงที่ทำงานอยู่ด้วยกันอย่างเป็นกันเอง
"นายหัว!..นายหัวครับ" ไอ้ก้องเอ่ยเรียกซ้ำ ๆ จนร่างสูงใหญ่หลุดจากภวังค์
"อะไร? มึงจะเรียกทำไม?" ยามได้สตินายหัวก็หันมาหาไอ้ก้อง
"ผมจะบอกว่า ทำไมนายหัวไม่ส่งหมวกให้นายหญิงใส่" เป็นไอ้ก้องเสียอีกที่ดูท่าทางจะห่วงนายหญิงมากกว่าใคร
ก่อนนายหัวจะถอดหมวกของตัวเองเดินไปสวมใส่ให้คนร่างเล็กที่ยืนทำงานอยู่ตรงข้ามกัน
นับดาวไม่ปริปากขอบคุณหรือโต้แย้งใด ๆ ออกมา เธอคงช่วยคนงานทำงานไปเรื่อย ๆ
คงเป็นนายหัวตะวันเสียเอง ที่ทนไม่ไหวเป็นคนเอ่ยออกมา
"พวกเราพักกันเถอะ แล้วบ่ายค่อยมาทำต่อ" เสียงทรงอำนาจเอ่ย มีไอ้ก้องที่ผ่อนคลายความตึงเครียดออกมา เมื่อเห็นนายหญิงมีใบหน้าแดงเข้มจัดขึ้นเพราะแดดแรง
นายหัวพร้อมนับดาวขึ้นรถกลับมาถึงบ้าน ร่างเล็กเดินตรงไปยังห้องน้ำ
"จะเข้าไปทำอะไร?" เสียงทุ้มเอ่ยนุ่มนวลขึ้น
"เข้าห้องน้ำ!..ก็ต้องไปล้างหน้าฉันร้อน" เสียงเล็กเอ่ยขึ้นก่อนเปิดประตูเข้าห้องน้ำ
"ยังไม่ต้องล้างหน้านะ ออกมานั่งพักสักระยะก่อน" เสียงเข้มเอ่ยดัง ๆ ให้คนด้านในได้ยินชัดเจน
คนร่างเล็กด้านในได้ยินเต็มสองหู ก่อนจะยิ้มออกมา'นี่เป็นห่วงกันด้วยเหรอขี้เก๊กชะมัด!'