EP 5
“เอ๋ยมารอรับพ่อกับแม่ทุกครั้งเหรอ”
“ถ้าตรงกับวันที่เอ๋ยไม่ได้ไปเรียน เอ๋ยก็จะมาทุกครั้งจ้ะ พ่อกับแม่แล้วก็พี่ใหญ่จะดีใจ เวลาเห็นเอ๋ยมารอรับแบบนี้ บางทียายก็มาเป็นเพื่อนด้วย”
ทำเอาคนพี่นึกสนุกขึ้นมาครามครัน เพราะนี่น่าจะเป็นประสบการณ์ใหม่ ที่ตัวเองอาจจะไม่เคยเจอมา หรือถ้าเจอก็อาจจะจำไม่ได้
“พี่อยากออกเรือไปหาปลาบ้างจัง”
“พี่ก็ขอพ่อสิจ๊ะ แล้วพี่หาปลาเป็นเหรอ” ปากตอบพี่ แต่ตามองเรือพ่อกับแม่ มือก็โบกไปมารอด้วยความดีใจ
“ไม่เป็นเลย”
ส่วนคนเป็นพี่ก็ทำเสียงอ่อย หน้าจ๋อย เพราะตัวเองไม่รู้วิธีออกเรือหาปลาสักนิดเดียว น้องหันมาหาแล้วยิ้มให้ พร้อมกับเสนอในสิ่งที่คิดว่าพี่จะต้องได้จากพ่อเป็นแน่ เพราะรู้ว่าพ่อใจดี
“ก็ให้พ่อกับพี่ใหญ่สอนสิจ๊ะ”
“ลุงจะสอนพี่เหรอ ใหญ่ด้วย ท่าทางดุจะตายพี่ไม่ค่อยอยากอยู่ใกล้หรอก แล้วดูท่าเขาก็ไม่อยากให้พี่อยู่ใกล้ๆ ด้วย”
“พ่อสอนพี่หินอยู่แล้ว ส่วนพี่ใหญ่ก็เป็นแบบนั้นล่ะ ปากร้ายแต่ใจดีนะ”
สาวน้อยรู้ดี เพราะบ่อยครั้งที่มักจะเล่นกับพี่ใหญ่แล้วทะเลาะกันด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่พี่ใหญ่ก็ต้องยอมน้องอย่างเธอไปทุกครั้งในตอนท้าย นั่นเลยทำให้น้องไม่คิดถือโทษโกรธพี่นัก
“ก็คงจะอย่างนั้น”
หินไม่คิดจะบอก ว่าทำไมถึงได้รู้สึกว่าใหญ่ไม่ค่อยชอบหน้าเขานัก รังแต่จะทำให้คนอื่นคิดว่าเขาเป็นคนคิดทางลบเปล่าๆ ส่วนวรินรำไพที่ไม่เคยรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างสองหนุ่มน้อยนั้น ก็หันไปยิ้มให้เขาด้วยใบหน้าใสซื่อ ก่อนเอ่ยถามด้วยความอยากรู้ไม่น้อย
“ว่าแต่พี่จะอยากออกเรือไปหาปลาทำไมล่ะ”
“อ้าว! ตอนกลับมาจะได้เห็นเอ๋ยมายืนรอรับอยู่ตรงนี้ไงล่ะ ว่าแต่เอ๋ยจะมารับพี่มั้ย”
“มารับสิจ๊ะ ใครออกเรือเอ๋ยก็มารับทั้งนั้นล่ะจ้ะ” เพราะมักจะมีของฝากมาใส่มือด้วยครั้งด้วย นั่นทำให้สาวน้อยตื่นเต้นได้ไม่เคยเบื่อ
“จริงนะ” ใบหน้าคมคายหันไปมองคนข้างๆ อย่างอยากรู้
“จริงสิจ๊ะ แต่พี่หินต้องสัญญาว่าจะซื้อขนมมาฝากเอ๋ยด้วยนะ” สาวน้อยเลยได้โอกาสขอข้อแลกเปลี่ยนทันที ทำเอาอีกฝ่ายยิ้มร่าออกมาอย่างเป็นสุขใจ
“ได้เลย เอ๋ยอยากจะกินอะไรบอกพี่ รับรองพี่ซื้อมาฝากแน่”
“แม่จ๋า! พ่อจ๋า! เอ๋ยอยู่ทางนี้”
สาวน้อยส่งยิ้มให้ผู้พี่แล้วหันไปโบกมือให้พ่อกับแม่ ที่แล่นเรือเข้าฝั่งเรียบร้อยแล้ว หินรีบเดินลงไปช่วยลากเชือกมาผูกไว้กับต้นไม้ใหญ่อย่างคนมีน้ำใจและรู้การรู้งานดี แล้วก็รีบช่วยขนของออกจากเรือโดยไม่ต้องรอให้ใครบอก
“เอ๋ย! คิดถึงจังเลยลูกสาวแม่”
รำไพอ้าแขนรอรับร่างลูกสาวคนเดียวที่โผเข้าไปหาอย่างเป็นสุขใจ รวมทั้ง วสินและสองหนุ่มด้วยที่เป็นสุขไม่แพ้กัน กับภาพแม่ลูกผูกพันตรงหน้า
“แม่ซื้อขนมมาฝากเอ๋ยหรือเปล่าจ๊ะ”
“มีเยอะแยะเลยจ้ะ แม่ซื้อเสื้อผ้ามาฝากเอ๋ยฝากยายแล้วก็ฝากหินด้วยนะ งั้นเราหิ้วของขึ้นบ้านก่อนแล้วค่อยดู”
“จริงเหรอจ๊ะแม่ ไชโย้! เห็นมั้ยพี่หิน บอกแล้วว่าจะมีของฝากก็ไม่เชื่อ” สาวน้อยหันไปหาพี่ที่หอบของเต็มอกเดินลุยน้ำขึ้นฝั่งยิ้มให้น้องเป็นการยอมแพ้
“พี่ก็ซื้อขนมมาฝากเอ๋ยด้วยนะ”
ธนากรตะโกนบอกมา แม้ตัวจะยังอยู่บนเรือก็ตาม สาวน้อยมืออีกข้างเกาะมือแม่อยู่ รีบหันไปหาแล้วยิ้มให้พี่ชายอีกคนด้วยความดีใจ ที่ไม่ว่าจะกี่ปีกี่หน พี่ใหญ่ก็ไม่เคยลืมเรื่องของฝากให้น้องคนนี้เลย
“ขอบคุณจ้าพี่ใหญ่”
“รีบขนของมาเร็วเข้าใหญ่ ลุงจะได้รีบขึ้นไปจัดสรรส่วนแบ่งให้แก”
วสินเพิ่งขนของออกจากเก๋งเรือเสร็จหันไปหาธนากรที่เอาแต่โบกไม้โบกมือให้น้องท่าเดียว เพราะเขาใจร้อนอยากจะรีบแบ่งเงินให้ในสัดส่วนที่เท่าๆ กันหลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว ตามที่เคยตกลงกันไว้ให้ จะได้เอาไปซื้ออะไรใช้ที่มีเพียงยายคนเดียวเท่านั้น
อันที่จริงเขาจะให้น้อยกว่านั้นก็ไม่น่าเกลียด เพราะเรือเป็นของเขา ธนากรก็เป็นเพียงเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกัน ไม่ได้มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดใดๆ เลย
แต่เพราะความสงสาร ที่ธนากรกำพร้าตั้งแต่อายุสิบขวบ เขาเลยต้องช่วยเหลือเลี้ยงดูธนากรกับยายยวงมาตั้งแต่นั้น กระทั่งธนากรเรียนจบชั้นประถม เลยไม่เข้าเรียนต่อในระบบปกติ แต่เรียนการศึกษานอกโรงเรียนแทน
ตอนนี้ก็จบชั้นมัธยมปลายแล้ว อีกไม่นานก็จะเรียนต่อระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ด้วยเป็นคนรักเรียนพอๆ กับรักการเป็นชาวประมงไปด้วย เพราะถูกฝังอยู่ในสายเลือดแล้ว
ซึ่งอุดมคตินี้เหมือนกันกับวสิน แต่เรื่องเรียนนั้นวสินมองไม่ค่อยเห็น ว่าเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเรียนมากแค่ไหน สุดท้ายก็ต้องลงเรือไปหาปลาอยู่ดี
“ครับลุง”
ตอน: ความสัมพันธ์ฉันพี่น้อง
“พี่หิน! เสร็จหรือยัง เร็วๆ เข้า เดี๋ยวเอ๋ยอดได้เปลือกหอยสวยๆ กันพอดี”
สาวน้อยในชุดกางเกงยีนส์ขาสั้นสีเข้มกับเสื้อยืดสีฟ้าอ่อน ยืนท้าวสะเอวอยู่ใต้ถุน มองออกไปยังโอ่งน้ำที่ผู้พี่กำลังเทน้ำถังสุดท้ายลงตุ่มพอดิบพอดี
“เสร็จแล้วจ้า เร่งจริงเราน่ะ”
หินเลยเงยหน้าไปหา ขึงตาใส่น้อยๆ แต่แววตาเอ็นดูน้องนั้นมีมากอย่างล้นเหลือ จนวสินกับรำไพกำลังช่วยกันเลือกปลาอยู่บนแคร่สังเกตเห็น เลยส่งประโยคเอ็ดลูกสาวน้อยๆ ไปหา
“นั่นสิเอ๋ย เร่งพี่หินจัง เก็บเมื่อไหร่ก็ได้แค่เปลือกหอยเอง” แต่ลูกสาวก็ยังไม่รู้ตัว
“ถ้าขืนเอ๋ยไปช้า พวกเพื่อนในห้องก็ได้มาเก็บไปหมดก่อนสิจ้ะแม่ ทีนี้เอ๋ยก็จะได้ของไม่สวยทำงานส่งครูน่ะสิจ๊ะ”