บท
ตั้งค่า

๑.๕ คน(เคย)นอกสายตา

“งั้นก็แสดงว่าตอนนี้แกกับอาจารย์เป็นญาติกันน่ะสิ แถมรั้วบ้านติดกันอีกต่างหาก แล้วทำไมดูห่างเหินกันจัง ดูเหมือนคนไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ”

“ไม่เห็นอยากรู้จักหรือจะนับญาติกับคนพรรค์นั้นหรอก”

“หมายความว่าไงตวง ทำไมแกพูดอะไรแปลกๆ อาจารย์เป็นคนไม่ดีเหรอ ไม่อยากเชื่อเลยอะ หน้าตาท่าทางก็ออกจะดูดี”

“ไม่มีอะไรหรอก เราแค่ไม่ค่อยสนิทกับเขา” ตระการตาตอบเลี่ยงๆ จะกล้าบอกได้ยังไงว่าเขาเคยทำเธอเจ็บแค่ไหน ดีไม่ดีเพื่อนๆ ของเธออาจจะคิดเหมือนเพื่อนสมัยเรียนมัธยมก็ได้

“ไอ้ตวงมันตอบชัดแล้ว พวกแกก็เลิกซักมันเหอะน่า” คราวนี้เป็นปกรณ์ที่ยื่นมือเข้ามาช่วย ทั้งไม่อยากให้เพื่อนๆ ของตัวเองสนใจอาจารย์อชิระมากเกินไป ทั้งกลัวว่าตระการตาจะพลอยสนใจไปด้วย แต่พอได้ยินคำตอบของเธอ เขาก็แอบโล่งอก

“เออๆ ไม่ซักแล้วก็ได้ ช่วงบ่ายไม่มีเรียน พวกเราไปดูหนังกันมั้ย มีหนังใหม่เข้า เป็นผู้กำกับที่ไอ้ตวงมันชอบด้วยนะ” กุลจิราเอ่ยชวนเพื่อนๆ ในกลุ่มตามประสาคนชอบเที่ยว

“ไปนะตวง วันก่อนแกก็ไม่ได้ไป” อินทุอรหันมาคะยั้นคะยอตระการตา

“ไปก็ไป แต่ว่าแวะกินข้าวที่โรงอาหารก่อนนะ” ตระการตารับปากง่ายๆ เพราะเทอมนี้เป็นเทอมสุดท้ายของการเป็นนักศึกษาแล้ว เธออยากใช้เวลากับเพื่อนๆ ให้คุ้มค่ามากที่สุด

“ทำไมไม่ไปกินที่ห้างล่ะ”

“ไม่เอาอะ กินที่โรงอาหารนี่ละ ทั้งถูก ทั้งอร่อย แถมมีอาหารให้เลือกเยอะด้วย”

“ไม่บอกไม่รู้นะเนี่ยว่าแกเป็นลูกสาวเศรษฐี คุณหนูอะไรติดดินชะมัด” อินทุอรกึ่งล้อกึ่งชื่นชม ตั้งแต่รู้จักกันมาตอนเข้าปีหนึ่ง ตระการตาก็เป็นแบบนี้มาตลอด วางตัวดี กินอะไรง่ายๆ ทำตัวง่ายๆ โดยที่ไม่เรื่องมากให้เห็นแม้แต่ครั้งเดียว ต่างจากลูกสาวเศรษฐีบางคนที่ติดหรู แต่ตระการตาติดดิน ทำตัวเหมือนผู้หญิงธรรมดาทั่วไป ทั้งๆ ที่เพียบพร้อมด้วยหน้าตาและฐานะทางครอบครัว

สามสาวหนึ่งหนุ่มเดินตามกันไปยังโรงอาหารของคณะ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตึกเรียนเท่าไหร่นัก ในช่วงกลางวันเช่นนี้คนค่อนข้างหนาตา ตระการตากำลังจะเดินไปยังร้านประจำของตัวเอง แต่เธอก็รู้ตอนนั้นว่าตัวเองคิดผิดถนัด เมื่อเหลือบไปเห็นว่าอชิระนั่งอยู่โต๊ะใกล้ๆ กับอาจารย์อีกสี่ห้าคน ปกติเธอไม่เคยตื่นเต้นหรือประหม่ากับการเจออาจารย์ ทว่าคราวนี้มันต่างไป ทันทีที่อชิระมองมายังเธอและกลุ่มเพื่อนๆ

ใบหน้าสวยร้อนซ่าน เพราะรู้สึกว่าสายตาดุๆ เย็นชาๆ นั้นจ้องมองมายังเธอ จ้องอยู่คนเดียว เหมือนกับกำลังจับตาดูพฤติกรรมของเธอเป็นพิเศษ ต่างกันลิบลับกับตอนอยู่ในห้องเรียน และนั่นทำให้ตระการตาเสียกระบวน จนลืมแวะร้านประจำของตัวเอง

“อ้าว...ตวง เดินเลยร้านมาทำไม” ปกรณ์ทักขึ้นเมื่อเห็นตระการตาเดินตามตัวเองมา

“วันนี้อยากเปลี่ยนบรรยากาศ เราไปกินร้านประจำแกมั่งดีกว่า” ไม่รู้จะบอกเพื่อนว่ายังไง เลยแถเอาซะดื้อๆ

“เอางั้นเหรอ”

“อื้อ มีอะไรแนะนำมั้ย”

“เพียบเลยละ เดี๋ยวเราเลี้ยงเอง”

ตระการตายิ้มรับน้ำใจของปกรณ์ จากนั้นทั้งสองก็ซื้อข้าวแล้วไปนั่งโต๊ะที่อินทุอรนั่งอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งโต๊ะนั้นก็อยู่ไม่ห่างจากโต๊ะที่อชิระนั่งเท่าไหร่นัก

ร่างบางนั่งลงตรงที่ว่าง พยายามจะไม่มองไปที่โต๊ะของอชิระ แต่ความอยากรู้มันก็กลับทำให้สายตาเจ้ากรรม มองไปยังเขาจนได้ ความคาดหวังก็คือ เธอยังจะเห็นเขามองมาที่เธอ ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ คราวนี้เธอจะไม่หลบ แต่จะเชิดหน้าใส่แบบสวยๆ ไปเลย

ทว่า...ตระการตาต้องพบกับความผิดหวัง เพราะนอกจากอชิระจะไม่มองมายังเธอแล้ว เขายังหันไปคุยกับอาจารย์คนอื่นๆ พลางทานอาหารไปด้วย ราวกับเป็นคนละคนกับเมื่อกี้นี้ ที่จ้องเธอแทบไม่กะพริบตา

“มองอะไรเหรอตวง” กุลจิราถามขึ้นเมื่อตระการตาไม่มีทีท่าว่าจะตักข้าวใส่ปากเสียที

“เปล่า” ตระการตาปฏิเสธสั้นๆ แล้วหลุบตาลงมองจานข้าวตัวเอง แต่ก็ช้าไปเสียแล้ว เพราะกุลจิรามองไปยังจุดที่เธอเพิ่งมอง และก็ถึงบางอ้อ

“ฮั่นแน่ มองอาจารย์อชิระอยู่ล่ะสิ ไหนว่าไม่สนใจไง”

“ไม่สน ใครสน ไม่ได้มองด้วย” แก้ตัวข้างๆ คูๆ จนรู้สึกว่าตัวเองสีข้างถลอกหมดแล้ว เพราะแถสองครั้งติดๆ กัน

“แกนั่นแหละที่มองอาจารย์ หรือว่าไม่รู้ตัว”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel