ตอนที่ 3
“เธอหน้าซีดทุกครั้งเลยนะที่เจอฉันน่ะ”
“คือว่า...”
“หรือว่าไม่ค่อยสบายล่ะ”
“เอ่อ”
“ปกติฉันไม่ชอบพูดคนเดียวสักเท่าไหร่ แต่กับเธอน่าสนุกดีนะ”
หล่อนหน้าแดงสลับซีด มองเขาด้วยดวงตากลมโตที่เบิกกว้าง
เขาระบายยิ้มน้อยๆ เดินเข้ามาใกล้ และแน่นอนว่าความใกล้ที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ กำลังจะทำให้หล่อนเป็นลม
“อย่า... อย่าเข้ามาค่ะ”
เขาชะงักเท้า และเอียงคอมองหล่อนอย่างสงสัย “ทำไมล่ะ กลิ่นตัวฉันไม่ดีหรือ”
“เอ่อ... เปล่าค่ะ”
ใครว่าล่ะ เขตตะวันหอมไปทั้งตัวเลยต่างหาก
“อ้าว แล้วทำไมถึงไม่ให้ฉันเข้าใกล้ล่ะ”
หล่อนก้มหน้าหลบสายตาคมๆ ที่เต็มไปด้วยความแคลงใจของเขตตะวัน
“คือ... คือว่าฉัน... ฉันตัวเหม็นน่ะค่ะ”
เขาหัวเราะเบาๆ เดินเข้ามาหยุดตรงหน้า ใกล้จนหล่อนแทบลมจับ
“เอ่อ...”
เขาโน้มตัวลงมาเล็กน้อย และทำจมูกฟุดฟิด “ก็ไม่เห็นเหม็นนี่ หอมแป้งเด็กออก”
ดวงหน้าหวานฉ่ำเห่อร้อนขึ้นมาโดยอัตโนมัติ กลีบปากอิ่มสั่นระริก
“เวลาเธออาย น่าดูดีนะ”
“เอ่อ”
เขาเห็นหล่อนเบิกตากว้างด้วยความตกใจก็หัวเราะร่วน ก่อนจะถอยหลังออกห่าง
“ไม่แกล้งแล้วก็ได้ ฉันไปประชุมล่ะ”
เขาเดินออกไปแล้ว แต่กลิ่นไออันตรายที่ชวนลุ่มหลงของเขายังคงกรุ่นอยู่รอบๆ ตัวของหล่อน
อมาวสีกำรถเข็นเอาไว้แน่น พยายามควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจให้ได้เร็วที่สุด หลังจากที่มันรวนพังพินาศเพราะเขตตะวันไปเมื่อครู่นี้
“โอ้... ทำไมรู้สึกวิงเวียนแบบนี้นะ”
สายตาคมกริบที่จ้องมองมาของเขายังติดตราอยู่ในความทรงจำ เขตตะวันมองหล่อนและอมยิ้ม ทำราวกับว่าเขาพึงพอใจที่ได้เห็นหล่อนอยู่ตรงหน้า
หล่อนก็แค่โชคดีที่เช้านี้ชายหนุ่มอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เขาจึงลดตัวลงมาพูดคุยด้วยก็เท่านั้นเอง
อมาวสีถอนใจเบาๆ ขณะเข็นรถที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์ทำความสะอาดเข้าไปในห้องทำงานของเขตตะวัน ซีอีโอหนุ่มรูปหล่อเจ้าของหัวใจ
หลังจากเดินสำรวจความโอ่อ่าของห้องทำงานซีอีโอหนุ่มจนอิ่มเอมใจแล้ว อมาวสีก็เริ่มต้นทำความสะอาด ทุกซอกทุกมุมถูกหล่อนเช็ดและถูจนเอี่ยมอ่อง ก่อนที่หล่อนจะเปลี่ยนไปจัดการเก็บเอกสารบนโต๊ะทำงานของเขตตะวันจนทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ลืมไปซะสนิทเลยว่าชายหนุ่มสั่งว่าไม่ให้ยุ่งกับเอกสารบนโต๊ะ
จากนั้นหล่อนก็เข้าไปทำความสะอาดในห้องน้ำต่อจนเสร็จ กำลังจะเดินออกไปอยู่แล้ว แต่เหมือนนึกอะไรได้
จริงสินะ เขตตะวันสั่งว่าให้ขัดในอ่างน้ำด้วย หล่อนรีบกระวีกระวาดผลุบหายเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้ง และไปก้มๆ เงยๆ มองที่อ่างอาบน้ำสีขาวขนาดใหญ่ที่ภายในมีน้ำอยู่เต็ม
“ตรงไหนนะ”
หล่อนพยายามมองจนทั่ว แต่ไม่เจอ “หรือว่าอยู่ภายในอ่าง”
หล่อนบ่นพึมพำ และตัดสินใจเอียงคอเพ่งมองผ่านสายน้ำไปภายในอ่างสีขาว มองอย่างละเอียดลออเพื่อหารอยเปื้อน แต่ก็ยังหาไม่เจอ
“ตรงไหนนะ ว๊ายยย...!”
ตู๊มมมม...
ร่างของหล่อนร่วงลงไปในอ่างน้ำจนได้ น้ำเจิ่งนองเต็มพื้น และหล่อนก็เปียกชุ่มไปทั้งตัว
“ตายแล้ว...”
หล่อนทะลึ่งตัวลุกขึ้นยืน และมองสภาพตัวเองอย่างตกใจเป็นที่สุด
หล่อนเปียกทั้งตัวตั้งแต่หัวจนถึงปลายเท้า
แล้วนี่จะทำยังไงดี
อมาวสีตกใจจนหน้ายิ่งซีดเผือด และรีบก้าวออกจากอ่างน้ำ
หยาดน้ำจากเสื้อผ้าของหล่อนหยดลงบนพื้นจนตรงที่ยืนเปียกชุ่ม หล่อนตกใจทำอะไรไม่ถูก
“จะออกไปจากห้องน้ำยังไงดี”
หล่อนหันรีหันขวาง ก็เห็นผ้าขนหนูพับวางอยู่บนเคาน์เตอร์ของอ่างล้างหน้า ความคิดแพล่นมาในทันที หล่อนรีบเดินออกไปคว้าผ้าขนหนูมาถือเอาไว้
“เปลี่ยนชุดออก และรีบโทรให้พี่เพ็ญเอาเสื้อผ้ามาให้”
ชุดฟอร์มของพนักงานทำความสะอาดถูกสลัดออกจากตัว รวมถึงชั้นในทั้งสองชิ้นด้วย ผ้าขนหนูสีขาวพันห่อรอบกาย ความอวบอิ่มที่มักจะซ่อนเอาไว้ใต้เสื้อผ้าหลวมโคร่งสะท้อนออกมา
หญิงสาวก้มลงมองตัวเองที่เกือบเปลือยเปล่าอย่างเป็นกังวล แต่กระนั้นก็จำต้องเดินออกจากห้องน้ำ เพื่อจะไปหยิบโทรศัพท์ที่ตนเองวางไว้บนรถเข็น
หนึ่ง สอง สาม สี่ โอ้.. ในที่สุดหล่อนก็สามารถหยิบโทรศัพท์มือถือได้ นิ้วเรียวกำลังจะกดตัวเลขและโทรหาเดือนเพ็ญ แต่แล้ว...
ประตูห้องทำงานของเขตตะวันถูกเปิดกว้างออกโดยไม่มีปี่มีขลุ่ย
ร่างของเขตตะวันก้าวเข้ามาพร้อมกับเลขาฯ หน้าห้อง ซึ่งแน่นอนว่าสองคนนั้นจ้องมองหล่อนอย่างตกใจ ซึ่งหล่อนเองก็รู้สึกไม่ต่างกันเลยสักนิด
“ท่าน... ท่านประธาน”
หล่อนเห็นเขตตะวันตวัดตามองหล่อนอย่างไม่พอใจ ก่อนจะหันไปสั่งให้เลขาฯ ออกไปจากห้อง
“คุณออกไปก่อน เดี๋ยวผมเรียกค่อยเข้ามา”
“ค่ะ ท่านประธาน”
เลขาหน้าห้องของเขตตะวันรับคำและถอยออกไป แต่ถึงแม้ว่าจะกำลังออกไปจากห้อง แต่สายตาของเลขาสาวก็มองหล่อนอย่างสงสัยไม่เปลี่ยน
เมื่อประตูห้องทำงานปิดลง และแน่นอนว่าเขตตะวันกำลังจับจ้องหล่อน
เขากำลังโกรธ น่าจะใช่ เพราะหน้าตาแดงก่ำไปหมด หล่อนเห็นกรามแกร่งของเขาขบกันแน่น และก้าวเข้ามาหยุดตรงหน้าของหล่อน
“มันเป็นเรื่องปกติมากที่จะมีผู้หญิงมาแก้ผ้าในห้องทำงานของฉัน...” เขาเว้นวรรคเล็กน้อย แต่น้ำเสียงของเขาบอกโต่งๆ เลยว่ากำลังโมโหเป็นที่สุด “แต่ไม่คิดว่าจะเป็นผู้หญิงหน้าซื่อและดูขี้อายมากๆ อย่างเธอ”
“เอ่อ... คือ...”
เขตตะวันกำลังเข้าใจผิด แต่หล่อนจะอธิบายยังไงดีล่ะ เขาถึงจะเข้าใจ เพราะแค่จะพูดกับเขาให้เป็นประโยค ยังทำได้ยากเหลือเกิน
“คือว่า... คือ...”
“เงินไม่พอใช้”
เขาเว้นวรรคให้หล่อนใจสั่นอีกแล้ว
“หรือว่าแค่ต้องการสนุกกับฉัน”
“มะ... ไม่ใช่นะคะ”